BY KKMTC
17 Sep 24 10:00 pm

รีวิว Dead Rising Deluxe Remaster – การรีเทิร์นเกมเตะซอมบี้ พร้อมการปรับปรุงที่ทำให้สนุกกว่าเดิม

1,031 Views

แม้เป็นเกม Remaster เวอร์ชันหรูหราสมกับชื่อ Deluxe แต่ก็ถือว่าเป็นการคืนชีพเกมตบกองทัพซอมบี้อย่าง Dead Rising หลังจากห่างหายมานานหลายปี แล้วเกมภาคนี้เป็นอย่างไร ก็เข้ามาอ่านบทความรีวิวได้เลย

เนื้อเรื่อง

Frank West นักข่าวอิสระที่มีประสบการณ์โชกโชน ตัดสินใจลักลอบเข้าเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งเรียกว่า Willamette ซึ่งกำลังอยู่ในสถานะเคอร์ฟิวแบบไม่กำหนด หลังได้เบาะแสว่าเมืองนี้กำลังเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง และทางรัฐบาลพยายามจะปิดข่าวต่อสาธารณะ

หลังลักลอบเข้าเมืองสำเร็จด้วยการลงจอดเฮลิคอปเตอร์ที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ก็พบว่าห้างกำลังถูกล้อมไปด้วยซอมบี้กระหายเลือด และหลังจากพวกมันบุกเข้าห้างได้ Frank จึงมีเวลา 72 ชั่วโมง เพื่อเอาตัวรอด ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเก็บข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ก่อนหนีออกจากห้างผ่านทางเฮลิคอปเตอร์อีกครั้ง

เนื้อเรื่อง Dead Rising เป็นแนวสืบหาความจริงเกี่ยวกับการระบาดของโรคซอมบี้ ซึ่งไม่มีที่มาอย่างชัดเจน และ Frank ต้องงัดทักษะทุกอย่างที่มี เพื่อเอาตัวรอดในห้างนรกบนดิน และต้องเจอกับอันตรายที่ไม่ได้มาจากซอมบี้อย่างเดียว แต่เป็นกลุ่มมนุษย์ด้วยกันเองด้วย

ความสนุกของเนื้อเรื่องส่วนใหญ่มาจากการนำเสนอคาแรคเตอร์ Frank West ซึ่งบอกได้ว่าน่าจะเป็นนักข่าวที่หลายคนวาดฝันไว้ คือเป็นคนยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อเปิดเผยความจริงให้โลกรู้, เป็นอิสระจากทุกฝ่าย, มีความภาคภูมิใจในหน้าที่การงาน แต่ก็ไม่กดหัวคนอื่นให้ต่ำลง และยอมช่วยเหลือคนอื่นเมื่อกำลังเจอปัญหา ทำให้ West เปรียบเสมือนเป็นนักบุญหรือความหวังในนรกบนดิน

แต่น่าเสียดาย นอกจากเนื้อหา Lore เกี่ยวกับต้นกำเนิดซอมบี้ที่ดูมีความเป็นต้นฉบับ, ตัวละครเสริม และ Frank เป็นตัวเอกน่าหลงใหลแล้ว พล็อตเนื้อเรื่องเกมนี้ไม่มีอะไรน่าจดจำ ก็จริงอยู่ที่ว่าบางฉากมีโมเมนต์ดี ๆ ชวนให้ลุ้นระทึก และหักมุม แต่เนื้อเรื่องภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ธรรมดา ไม่ได้ดีมากเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ย่ำแย่จนถึงขั้นอยากเลิกติดตาม และถ้าลองวิเคราะห์เนื้อหาดี ๆ จะพบว่าเนื้อเรื่องมีพล็อตโฮลค่อนข้างหลายจุดด้วย ฉะนั้นหากต้องการสนุกกับเนื้อเรื่อง Dead Rising เราแนะนำว่าควรชัตดาวน์สมอง แล้วเสพเนื้อหาเหมือนชมหนังจกป๊อปคอร์นที่ดูเพลิน ๆ อย่างเดียวแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก

การนำเสนอ

อย่างที่หลายคนทราบกันดี Dead Rising Deluxe Remaster คือการนำเกมต้นฉบับเมื่อปี 2006 มารีมาสเตอร์ใหม่ด้วย RE Engine กราฟิกจึงได้รับการอัปเกรดแบบยกใหญ่จนเหมือนเป็นเกมเวอร์ชัน Remake ทั้งโมเดลตัวละคร อาวุธ เอฟเฟกต์ การกระจายของเลือด ถูกสร้างใหม่เพื่อให้เกมดูสมจริง และสวยงามตามมาตรฐานเกมยุคปัจจุบัน

เวอร์ชันนี้ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่มีในเกมต้นฉบับ เช่น ท้องฟ้าจะเปลี่ยนสีไปตามเวลาในเกม เราจะสามารถมองเห็นท้องฟ้าเปลี่ยนแปลงได้แม้อยู่ในอาคาร และจุดหนึ่งที่ชอบมาก คือเมื่อถึงเวลาห้างปิดให้บริการ เพลงกับไฟฟ้าในห้างทั้งหมดจะดับทันที ทำให้โลกในเกมมีบรรยากาศสมจริงไปอีกขั้นหนึ่ง รวมถึงตัวละครเกือบทุกตัวใช้เสียงพากย์ใหม่เกือบทั้งหมด และ NPC ผู้ประสบภัยที่ไม่มีเสียงในเกมต้นฉบับ ในภาค Remaster พวกเขามีเสียงพากย์เป็นของตัวเองแล้ว

แม้ไม่ใช่ทุกภารกิจช่วยเหลือ NPC จะมีเนื้อเรื่องน่าสนใจทั้งหมด แต่บางเควสต์มีเนื้อหาตลกทำให้คุณอมยิ้มระหว่างเล่นได้ เช่น ภารกิจช่วยเหลือนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น 2 คน ซึ่งเราจะได้เห็น Frank ต้องพูดภาษาญี่ปุ่นตามหนังสือเรียนอย่างยากลำบาก หรือภารกิจช่วยเหลือคู่รักที่หวานจนชวนให้เลี่ยน

แน่นอน ห้างสรรพสินค้าเองก็เป็นเซตติงที่เหมาะสมมากสำหรับ Dead Rising เพราะเป็นสถานที่มีของจำเป็นสำหรับการเอาตัวรอดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ อาหาร ยา และมีพื้นที่กว้างใหญ่ จนเรียกได้ว่าเป็นแหล่งโอเอซิสในเมืองซอมบี้

แต่ศัตรูเกมนี้ไม่มีเพียงแค่ซอมบี้อย่างเดียว แต่ศัตรูบางชนิดเป็นมนุษย์ที่หันมาฆ่าฟันกันเอง แทนที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ศัตรูประเภทนั้นเรียกว่า Psychopath หรือคนโรคจิต ซึ่งเป็นได้ทั้งศัตรูทั่วไปหรือ Boss คนพวกนั้นในตอนแรกดูเป็นคนธรรมดาทั่วไป แต่หลังเกิดเหตุการณ์ซอมบี้ระบาด พวกเขาก็ได้ปล่อยสัญชาตญาณดิบของตัวเองออกมา เกิดความหวาดระแวง หรือถูกกดดันจนเสียสติแล้วลงมือทำร้ายผู้บริสุทธิ์ไปด้วย

Psychopath ไม่ได้จำกัดเฉพาะคนที่มีปัญหาทางจิตอย่างเดียว แต่รวมไปถึงคนฉวยโอกาสที่ใช้เหตุการณ์ความวุ่นวายในการก่อคดีต่าง ๆ ซึ่ง Psychopath เข้ากับเซตติงของ Dead Rising ที่แสดงให้เห็นว่ามนุษย์นั้นร้ายกว่าซอมบี้ในบางสถานการณ์

นอกจากนี้ Dead Rising มีชื่อเสียงด้านการนำเสนอฮา ๆ ที่ช่วยให้บรรยากาศเกมหายเครียดเป็นปลิดทิ้งด้วยระบบแต่งตัว ในเกมนี้ Frank สามารถหยิบเสื้อผ้า หมวก รองเท้าทั้งของเพศชายกับหญิงในร้านแฟชั่นมาสวมใส่ได้ และชุดที่กำลังสวมจะแสดงผลในฉากคัตซีนด้วย หรือหมายความว่าแค่แต่งตัวบ้าบอสักชุดแล้วเดินเข้าฉากคัตซีน ก็จะเปลี่ยนจากเนื้อเรื่องซีเรียสกลายเป็นเนื้อเรื่องตลกหน้าตายได้ทันที

แม้การนำเสนอเนื้อหา Dead Rising Deluxe Remaster ส่วนใหญ่จะเคารพต้นฉบับ แต่บางคอนเทนต์ที่เข้าข่าย “สร้างความขุ่นเคือง” หรือ “เป็นประเด็นถกเถียง” ในต้นฉบับ ได้ถูกปรับเปลี่ยนหรือลบออก ยกตัวอย่างเช่น มีการตัดฟีเจอร์ถ่ายรูปแนวสยิว Erotica , เปลี่ยนโมเดลตัวละครเพื่อเลี่ยงการล้อเลียน Stereotype หรือเปลี่ยนบทสนทนาให้มีเนื้อหาซอฟต์ลง

แม้การเซนเซอร์เนื้อหาใน Deluxe Remaster จะมีน้อยมาก แต่ก็อาจสร้างความรู้สึกขัดใจต่อผู้เล่นบางกลุ่ม เพราะแสดงให้เห็นว่าตัวเกมโดนจำกัดอิสระภาพในด้านความคิดสร้างสรรค์ แต่นอกเหนือจากนั้น เนื้อหาเกมส่วนใหญ่ยังคงเหมือนต้นฉบับเกือบทุกอย่าง หากมองข้ามเรื่องการเซนเซอร์ หรือฟีเจอร์เล็ก ๆ ที่ถูกตัดออกไปได้ เราเชื่อว่าผู้เล่นจะชื่นชอบการนำเสนอต่าง ๆ ของเกมนี้ไม่ใช่น้อย

และอีกส่วนหนึ่งที่ต้องกล่าวถึงคือ Frank West ไม่ได้ให้เสียงโดย T.J. Rotolo คนเดิมอีกต่อไป แต่เป็นคนใหม่อย่าง Jas Patrick แทน จากความเห็นส่วนตัว ขอยอมรับว่าเสียงพากย์ใหม่นั้นไม่ได้มีคุณภาพแย่เลย แถมสามารถปรับตัวเข้ากับเสียงใหม่ได้เร็วเกินคาด ถึงอย่างนั้น ส่วนตัวยังชอบเสียงเก่ามากกว่า เพราะเสียงใหม่นำเสนอให้ Frank ดูเป็นคนที่มีพลัง กระฉับกระเฉงกว่าต้นฉบับ ซึ่งแน่นอนว่าคุณจะรับกับเสียงพากย์ใหม่ของ Frank West ได้หรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องความชอบส่วนตัวที่ไม่มีคำตอบผิดหรือถูก แต่ถ้าถามผม ส่วนตัวขอบอกว่าไม่ได้เกลียดเสียงใหม่เลย

เกมเพลย์

เกมจาก Capcom เช็ก ! เกมเอาตัวรอดจากซอมบี้ เช็ก ! บางคนอาจคิดว่าเกมนี้เล่นเหมือน Resident Evil แต่ความจริงแล้วมันเป็นเกมคนละแนวอย่างสิ้นเชิง

Dead Rising คือเกมแอ็กชัน-ผจญภัยที่มีองค์ประกอบ Sandbox โดยซอมบี้เกมนี้เป็นกระสอบทรายที่ทั้งเดินช้า อ่อนปวกเปียก และไม่ค่อยฉลาด แค่ตบตีไม่กี่ครั้งก็ตายแล้ว ซึ่งมันตายง่ายมาก จนต้องมีตัวเลขบอกว่าตลอดทั้งเกมเรากำจัดพวกมันไปได้กี่ตัว

แม้ซอมบี้มีพฤติกรรมชอบจับ และซอมบี้ตำรวจบางตัวจะใช้ปืนยิงใส่ผู้เล่น รวมถึงการ Spawn จำนวนซอมบี้ก็เยอะขึ้นจากต้นฉบับแบบเห็นชัด ซึ่งทำให้เลี้ยวหลบพวกมันยากขึ้น แต่ก็ยังสามารถผ่านไปได้ง่าย ๆ ตราบใดที่ไม่วิ่งเข้าไปหาพวกมันอย่างซึ่งหน้าหรือยืนอยู่เฉย ๆ ให้พวกมันเข้ามาจับเอง และเกมจะยากขึ้นเล็กน้อย เมื่อถึงช่วงเวลากลางคืนที่ซอมบี้จะมีพฤติกรรมดุดันขึ้น แล้วด้วยไฟฟ้าทั้งหมดถูกชัตดาวน์หลังห้างปิด ก็ทำให้วิสัยทัศน์ในการมองเห็นแย่ลงอีกด้วย

สิ่งกล่าวมาจึงเป็นความสนุกหลักของ Dead Rising เพราะห้างสรรพสินค้าเหมือนเป็นสนามเด็กเล่น หรือสนามสังหารซอมบี้ของ Frank ที่คุณสามารถหยิบไม้หน้าสาม ปืนพก ไม้เบสบอล หรืออาวุธบ้า ๆ บอ ๆ มาลองใช้งาน, เข้าร้านแฟชั่นแต่งตัวประหลาด, แวะร้านอาหารเพื่อกักตุนไอเทมฟื้นพลัง หรือเดินไปลานจอดรถแล้วขับรถไล่ชนซอมบี้ก็ได้ ซึ่งตัวเกมจะไม่ห้ามอิสระของคุณ

นอกจากนี้ ผู้เล่นสามารถเก็บแม็กกาซีนตามร้านขายหนังสือ โดยแต่ละเล่มจะมอบคุณสมบัติบัฟต่างกัน เช่น อาวุธของมีคมจะใช้ได้นานขึ้น, PP จากการกำจัดซอมบี้เพิ่มขึ้น, ไอเทมฟื้นพลังชีวิตสูงขึ้นกว่าปกติ ฯลฯ แต่การเก็บหนังสือ 1 เล่มจะต้องใช้ช่องเก็บของ 1 ช่อง ฉะนั้นผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะมีบัฟเยอะ ๆ แต่พกของได้น้อย หรือเก็บบัฟเฉพาะที่ได้ใช้จริง ๆ ก็พอ

แต่จะบอกว่า Dead Rising มอบอิสระให้ผู้เล่นอย่างเต็มที่ก็ไม่ถูกต้องมากนัก เพราะสุดท้าย เราก็ต้อง “ทำการบ้าน” ด้วยการดำเนินเนื้อเรื่องหลักต่อไปเรื่อย ๆ  ซึ่งในเวลาว่างคุณสามารถทำอะไรก็ได้ก็จริง แต่สุดท้ายก็ต้องไปให้ถึงจุดดำเนินเนื้อเรื่องหลักให้ทันเวลา เพราะหากไม่ไปทัน Game จะ Over แล้วสามารถเลือกได้ว่าจะย้อนกลับไปเริ่มใหม่ใน Checkpoint ล่าสุด หรือเล่นต่อโดยไม่ต้องทำภารกิจหลักอีกต่อไป (แต่ก็ต้องกลับไปจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ภายใน 72 ชั่วโมงอยู่ดี)

ฉะนั้นระหว่างผจญภัยในห้าง ผู้เล่นต้องคอยบริหาร/จัดการเวลาของตัวเองในเกม ซึ่งระบบนี้บางคนอาจจะไม่ชอบ เพราะเป็นการสร้างแรงกดดันและจำกัดอิสระคนเล่น แต่บางคนอาจชื่นชอบ เพราะเมื่อถึงเวลากำลังจะสาย หรืออยากลองเสี่ยงทำภารกิจช่วยผู้ประสบภัยให้ทันในเวลาอันน้อยนิด มันทำให้เกมลุ้นระทึกกว่าเดิมหลายเท่าเลยทีเดียว

นอกจากนี้ หากเล่นพลาดจนเจอทางตัน แล้วไม่สามารถดำเนินเนื้อเรื่องต่อไปได้ ผู้เล่นก็สามารถกดเริ่มเล่นรอบใหม่ได้โดยยังเก็บไอเทมกับความคืบหน้าของตัวเองไว้ ซึ่งฟีเจอร์นี้ช่วยผู้เล่นใหม่ได้มากเลยทีเดียว

แล้วมาถึงจุดสำคัญหลัก หรือเรียกว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของเวอร์ชัน Deluxe Remaster ก็ว่าได้ คือการเพิ่ม Qulity-of-Life ที่ทำให้การเล่นเกมสะดวกสบาย และได้แก้ข้อเสียจากเกมต้นฉบับ

ยกตัวอย่างเช่นจากเดิมที่เราต้องเข้าห้องน้ำเพื่อ Save ด้วยตัวเอง ในภาคนี้ มีระบบ Auto-Save ช่วยสร้าง Checkpoint ให้อัตโนมัติหลังเข้าพื้นที่อื่น ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาจากภาคต้นฉบับ ที่บางคนวิจารณ์ว่าตัวเกมขาดฟีเจอร์ Auto-Save

นอกจากนี้ ผู้เล่นสามารถเดินระหว่างเล็งปืนได้, มีหลอดโชว์ความทนทานของอาวุธ ช่วยให้ไม่ต้องกังวลว่าจู่ ๆ อาวุธจะชำรุดระหว่างต่อสู้, มีตู้เสื้อผ้าสามารถเลือกใส่ชุดต่าง ๆ ได้ใน Safehouse และแผนที่ในเกม บอกชัดเจนว่าร้านนี้คือร้านอะไร ทำให้เรามีโอกาสหลงทางน้อยลง

UI ถูกปรับดีไซน์ใหม่ให้ทันสมัย

รวมถึงที่จุด Save ผู้เล่นสามารถกดเร่งเวลาได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้มีประโยชน์มากสำหรับคนที่อยากดำเนินเนื้อเรื่องหลักต่อไปทันทีโดยไม่สนภารกิจช่วยเหลือ หรือเบื่อกับการฆ่าฟันซอมบี้แล้ว แต่ใครที่อยากเก็บทุกอย่างครบ ก็ไม่ค่อยแนะนำให้ใช้ฟีเจอร์นี้เท่าไหร่ เพราะอาจพลาดภารกิจช่วยเหลือที่มีช่วงเวลาให้ทำจำกัดด้วย

การทำภารกิจช่วยเหลือ ถือเป็นหนึ่งในฟีเจอร์หลักของ Dead Rising เพราะเราจะได้เจอเหตุการณ์ประหลาด ๆ หรือเผชิญหน้ากับบอส Psychopath ที่เราต้องปราบมันก่อน ถึงจะช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้

แม้ Psychopath แต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่น่าเสียดายที่ Boss Fight ส่วนใหญ่ไม่ได้ยากท้าทายขนาดนั้น เพราะถ้าเตรียมตัวมาดีมาก มีอาวุธกับไอเทมฟื้นพลังพร้อมทุกอย่าง ก็สามารถเอาชนะได้ค่อนข้างง่าย (ยกเว้นบอสตัวหนึ่งที่น่ารำคาญมาก แต่ไม่ขอบอกว่าเป็นใคร เพราะเชื่อว่าคนเล่นเกมต้นฉบับน่าจะทราบดี) ซึ่งส่วนหนึ่งที่ Boss Fight ง่าย เพราะพฤติกรรม AI ของบอสค่อนข้างเบสิค และอ่านแพทเทิร์นการโจมตีได้ไม่ยาก

แล้วเมื่อทำภารกิจช่วยเหลือสำเร็จ ผู้เล่นจะได้รับ PP เป็นจำนวนมากต่อการช่วย 1 คน เมื่อค่า PP ถึงกำหนด เลเวลของตัวละครจะได้รับการเลื่อนขั้น โดยทุกครั้งที่เลเวลอัป Frank จะเพิ่มความแข็งแกร่งตามลำดับ เช่น เพิ่ม HP สูงสุด, เพิ่มแรงโยนของ, เพิ่มความเร็วในการวิ่ง และปลดท่าต่อสู้เตะต่อยใหม่ (ซึ่งถ้าเอาตามตรง ส่วนตัวไม่ค่อยได้ใช้หมัดเท่าไหร่เพราะสุดท้ายอาวุธก็ยังใช้ได้ดีกว่า) โดย PP จะได้จากการถ่ายรูป, ต่อสู้กับซอมบี้ และทำความสำเร็จรายการต่าง ๆ ที่อาจจะได้ไอเทมชุดฟรีตามมาด้วย

อีกจุดที่เรียกว่าเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่จากภาคต้นฉบับ ก็คือพฤติกรรม AI ของผู้ประสบภัย ได้รับการปรับปรุงอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาจะไม่ยืนนิ่งให้ซอมบี้ถูกจับง่าย ๆ , จะโจมตีซอมบี้กลับเมื่อมันอยู่ใกล้ตัวพวกเขา และพยายามติดตามผู้เล่นให้เร็วที่สุด

นอกจากนี้ ผู้เล่นสามารถออกคำสั่ง NPC ให้เดินติดตาม และมาร์กจุดที่ต้องวิ่งไปหาได้ แม้ NPC จะมีโมเมนต์บ๊อง ๆ และชอบเดินช้าอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าปรับปรุงดีขึ้น และเป็นตัวถ่วงน้อยลงเมื่อเทียบกับภาคต้นฉบับ จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้เล่นภารกิจช่วยเหลือเกือบทั้งหมด บอกว่าแทบไม่มีโมเมนต์หัวร้อนเพราะพฤติกรรมบ๊อง ๆ ของ AI เลย

อย่างไรก็ตาม Quality-of-Life เกมนี้ยังไม่ Perfect เพราะฟีเจอร์มาตรฐานที่ควรมีกลับขาดหายไป อย่างเช่น ไม่มีการแสดงผลมินิแมปบนหน้าจอ, ไม่มีวงล้อเลือกอาวุธ (Weapon Wheel) และลูกศร GPS หายไปจากต้นฉบับ ซึ่งไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมต้องตัด เพราะของเดิมก็ดีอยู่แล้ว

และบางฟีเจอร์ไม่ได้รับการแก้ไขใน Deluxe Remaster เช่น มีหลายครั้งในบทสนทนาทำภารกิจช่วยเหลือจะหยุดชะงักเอง แล้วต้องกดปุ่มพูดเพื่อดำเนินเนื้อหาต่อ ซึ่งมันไม่ใช่บั๊กแต่เป็นฟีเจอร์ หรือรายละเอียดย่อของบางภารกิจได้บอก Objective แบบไม่ชัดเจน ซึ่งปัญหาเกือบทั้งหมดที่กล่าวมานั้น สามารถแก้ไขหรือเพิ่มในภายหลังได้  เราก็คาดหวังว่าทาง Capcom จะอัปเดตเพิ่ม Quality-of-Life ต่อไป เพื่อทำให้การเล่นเกมลื่นไหลมากขึ้น

ประสิทธิภาพ

เมื่อพูดถึง RE Engine หลายคนคาดหวังว่าเอนจินนี้จะแสดงผลกราฟิกสวย (ซึ่งก็สวยจริงตามที่กล่าวไว้ในส่วนของการนำเสนอ) และมีประสิทธิภาพดี รันเกมลื่น แทบไม่ต้องดีลกับปัญหาทางเทคนิค

จากการเล่นมา 20 ชั่วโมง ด้วย PC สเปคระดับกลางอย่างการ์ดจอ RTX 2070 Super และ CPU Core i5 RAM 32 GB เซตติงกราฟิกแบบ Recommened (แนะนำ) พบว่าเกมรันได้ดี ไม่เจอบั๊กกราฟิก และไม่เจอปัญหาร้ายแรงระดับ Game Breaking

อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพเกมนี้ไม่ได้ยอดเยี่ยมซะทีเดียว เพราะบางครั้ง เฟรมเรตมีอาการสะดุดเป็นเวลาสั้นมาก, Texture วัตถุโหลดไม่ทันเป็นบางครั้ง และมีซอมบี้ Spawn ให้เห็นต่อหน้า ซึ่งปัญหานี้พบเห็นบ่อย เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีกองทัพซอมบี้ เช่น สวนสาธารณะกลางห้าง พลาซ่ากลางแจ้ง ลานจอดรถใต้ดิน และอาจจะเจอเมื่อเข้าพื้นที่ถัดไปทุกครั้งด้วย

แม้จะมีอาการ Crash เด้งออกจากเกมเอง 2 ครั้ง แต่ตลอดการเล่นก็ไม่ได้เจออาการเฟรมเรตหล่นฮวบจนเล่นไม่ได้ และเวลาส่วนใหญ่ เกมยังรักษาเฟรมเรตไว้ได้ที่ 55-60 FPS

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าประสิทธิภาพเกมนี้อยู่ในเกณฑ์ดีมาก แต่ไม่ได้ Perfect ซึ่งก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ที่เกมจะสะดุดบางครั้ง เพราะดูเหมือนว่า RE Engine ยังไม่สามารถงัดประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่สำหรับเกมที่ต้องใช้การประมวลผลเยอะ อย่างเกมนี้ที่ต้อง Spawn NPC จำนวนมากในเวลาพร้อมกัน

สรุป

Dead Rising Deluxe Remaster คือการนำภาคต้นกำเนิดเกมซอมบี้กระสอบทราย มาขัดใหม่ให้เงาขึ้นด้วยเอนจินเกมที่มีประสิทธิภาพสูงอย่าง RE Engine แม้องค์ประกอบหลายอย่างได้ปรับปรุงจากต้นฉบับให้ดีขึ้น ทั้งส่วนของเกมเพลย์ กราฟิก และ Quality-of-Life แต่การเปลี่ยนแปลงบางอย่าง อาจขัดใจผู้เล่นบางคนที่อยากให้เวอร์ชัน Remaster เก็บเนื้อหาต้นฉบับไว้ให้ได้มากที่สุด แม้ฟีเจอร์นั้นจะเป็นที่ถกเถียง หรือดูไม่เหมาะสำหรับสังคมยุคนี้แล้วก็ตาม

คะแนน 7.7/10

Dead Rising Deluxe Remaster

7.7 / 10 คะแนน

7.7

ข้อดี

  • กราฟิกอัปเกรดจากภาคต้นฉบับอย่างเห็นชัด
  • เพิ่ม Quality-of-Life และปรับปรุงเกมเพลย์ให้เล่นสนุกขึ้น
  • AI NPC ปรับปรุงดีขึ้น ทำให้ภารกิจช่วยเหลือง่ายขึ้นเยอะ
  • เซตติงห้างสรรพสินค้า เข้ากับโลกในเกมที่ระบาดไปด้วยซอมบี้

ข้อเสีย

  • เนื้อเรื่องคุณภาพธรรมดา ไม่มีอะไรน่าจดจำ
  • การเปลี่ยนแปลงบางอย่างอาจไม่ถูกใจแฟนเกมต้นฉบับ
  • ระบบจำกัดเวลาอาจไม่เป็นที่ชื่นชอบสำหรับบางคน
  • Boss Fight ขาดความท้าทาย

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top