หูฟังเกมมิ่งไร้สายที่ครบเครื่องทั้ง “เสียง-สบาย-แบตอึด” ในราคาที่คุ้มจริง
หนึ่งในอุปกรณ์เกมมิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญไม่แพ้เมาส์หรือคีย์บอร์ด ก็คือ “หูฟัง” และสำหรับคนที่เล่นเกมเป็นประจำ วันละหลายชั่วโมงขึ้นไป ความสบายในการสวมใส่คือสิ่งที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด
วันนี้ GamingDose หยิบหูฟังตัวล่าสุดจาก Corsair อย่าง VOID WIRELESS V2 มาทดสอบใช้งานจริงแบบจัดเต็ม ทั้งในแง่การเล่นเกม เสียงพูด ฟังก์ชัน และความสะดวกในการเชื่อมต่อ เพื่อดูว่าหูฟังไร้สายราคา 3,990 บาทรุ่นนี้ จะตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีแค่ไหน
ใส่สบายจนลืมว่าใส่หูฟัง – จุดแข็งที่สัมผัสได้ทันที
แม้ชื่อรุ่นจะบอกว่าเป็นหูฟังเกมมิ่ง แต่สิ่งแรกที่โดดเด่นที่สุดหลังจากทดลองใช้งานจริง กลับไม่ใช่เสียง ไม่ใช่ไฟ RGB และไม่ใช่แบตเตอรี่… แต่คือ “ความสบาย”
VOID WIRELESS V2 มาพร้อมน้ำหนักเพียง 303 กรัม ซึ่งเบากว่าหูฟัง Full-size ส่วนใหญ่ในท้องตลาด วัสดุฟองน้ำแบบเมมโมรี่โฟมหุ้มผ้าไมโครไฟเบอร์ช่วยให้สวมใส่ได้นานโดยไม่ร้อน ไม่ชื้น ไม่เหนียว และไม่ลอกติดผิว
ที่สำคัญคือมัน “ไม่กดหัว” — แรงกดพอดี กระชับแต่ไม่แน่นเกินไป ใครที่ใส่แว่นตาเป็นประจำจะเข้าใจดีว่าหูฟังที่กดขาแว่นจะทำให้ปวดหลังหูแบบไม่มีความสุข แต่รุ่นนี้ผ่านฉลุย ก้านคาดหัวสามารถปรับระดับได้อย่างยืดหยุ่น ไม่แข็งจนเกินไป ทำให้รองรับกับทรงหัวหลายแบบ
เราได้ทดสอบด้วยการเล่น Apex Legends ต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง พบว่าไม่มีอาการเจ็บหัว ไม่ปวดหู ไม่รำคาญแต่อย่างใด เป็นหนึ่งในหูฟังที่ใส่สบายที่สุดเท่าที่เคยลองในระดับราคาไม่เกิน 4,000 บาท
เสียงในเกมดี ฟังสนุก – ไม่เน้นเบส แต่แม่นเรื่องทิศทาง
VOID WIRELESS V2 มาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 50 มม. ที่ Corsair ปรับจูนมาในแนว Balanced ชัดเจนว่าไม่ได้เน้น “เบสหนักแน่น” แบบหูฟังฟังเพลง แต่กลับทำออกมาได้ดีในมิติของเสียงเกม
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือความสามารถในการแยกทิศทางเสียง — เมื่อใช้ร่วมกับ Dolby Atmos Spatial Audio (จำเป็นต้องติดตั้งแอป Dolby Access ผ่าน Microsoft Store) เราสามารถแยกเสียงฝีเท้า การยิง หรือเสียงรอบตัวได้ชัดเจนขึ้นมาก โดยเฉพาะในเกมแนว FPS หรือแนวสยองขวัญอย่าง Dying Light ที่เสียงฝีเท้าของซอมบี้หรือเสียงคำรามของ Volatile นั้นฟังดูน่าขนลุกมากขึ้นเพราะมีมิติเสียงที่ชัดกว่าเดิม
แม้เบสจะไม่ได้ลงลึกหรือกระแทกแรงแบบหูฟังสายดนตรี แต่ก็ยังให้ความรู้สึกว่ามีมวลเสียงพอสมควร ไม่แบน ไม่เบาเกินไป — เรียกได้ว่าคนที่เน้นใช้เล่นเกมเป็นหลักจะไม่ผิดหวัง
และหากคุณใช้งานบน PC ยังสามารถเข้าไปปรับ EQ และสร้างโปรไฟล์เสียงเฉพาะผ่านซอฟต์แวร์ Corsair iCUE ได้อีกด้วย
ไมค์ใช้งานจริงได้ดี – เสียงพูดชัด พร้อมตัดเสียงรบกวน
ไมโครโฟนใน VOID WIRELESS V2 เป็นแบบ Omnidirectional พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนในตัว และรองรับการใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี NVIDIA Broadcast ซึ่งจะช่วยให้เสียงพูดชัดเจนยิ่งขึ้นโดยลดเสียงรบกวนรอบข้าง เช่น เสียงพัดลม เสียงแป้นพิมพ์ หรือเสียงแอร์
จากที่เราทดสอบใช้จริงในการประชุม Discord และเล่นเกมออนไลน์ เสียงพูดออกมาคมชัดและไม่ขาดหาย แม้จะอยู่ในห้องที่มีเสียงเบา ๆ ตลอดเวลา
แม้ว่าไมโครโฟนจะมีคุณภาพเสียงที่ชัดเจนและเหมาะสำหรับการสื่อสารในเกมหรือการประชุมออนไลน์ แต่เสียงอาจมีลักษณะบางเล็กน้อย ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับการสตรีมหรือการบันทึกเสียงที่ต้องการคุณภาพสูง
ไมโครโฟนไม่สามารถถอดออกได้ แต่สามารถพับขึ้นเพื่อตัดเสียงแบบอัตโนมัติได้ทันทีด้วยฟีเจอร์ Flip-to-mute และยังสามารถงอไมค์ให้เข้ากับรูปปากได้เพื่อให้ได้เสียงที่ใกล้เคียงที่สุด
ข้อสังเกตคือ Voice Prompt (เสียงแจ้งเตือนต่าง ๆ) ค่อนข้างดัง แต่สามารถปรับหรือตั้งค่าปิดได้ผ่าน iCUE
แบตเตอรี่ – อึดเกินความคาดหมาย
Corsair เคลมว่า VOID V2 ใช้งานได้ยาวนานมาก และจากการทดสอบใช้งานจริง ก็พบว่าไม่ได้โม้เลยแม้แต่น้อย
- เชื่อมต่อแบบ 2.4GHz Wireless (ผ่าน Dongle): ใช้งานได้ สูงสุด 70 ชั่วโมง เมื่อปิดไฟ RGB
- เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth: ใช้งานได้นานถึง 130 ชั่วโมง
- รองรับ Fast Charge ผ่านสาย USB-C — ชาร์จเพียง 15 นาที ใช้งานต่อได้อีก 5–6 ชั่วโมง
เรียกได้ว่าหากเล่นเกมวันละ 6–8 ชั่วโมง หูฟังตัวนี้สามารถอยู่ได้ 3–4 วันแบบไม่ต้องชาร์จ
อีกจุดที่น่าสนใจคือ VOID V2 สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เก่าอย่างทีวี SONY KD-55X8000E (วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2017) ได้อย่างไม่มีปัญหา ต่างจากหูฟังไร้สายหลายรุ่นที่เจอปัญหาเชื่อมต่อไม่ได้
การเชื่อมต่อ – ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก
VOID WIRELESS V2 รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย 2 รูปแบบ ได้แก่
- 2.4GHz Wireless ผ่าน USB Dongle – สำหรับ PC, PS5, PS4, Nintendo Switch
- Bluetooth – สำหรับมือถือ แท็บเล็ต หรือเครื่องเล่นเกมพกพา
การสลับโหมดการเชื่อมต่อสามารถทำได้โดยการกดปุ่ม Power เพียงครั้งเดียว ซึ่งสะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสลับระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องถอดเสียบ Dongle ให้ยุ่งยาก (แต่ไม่สามารถใช้งานสองโหมดพร้อมกันได้)
สิ่งที่ควรรู้คือ หูฟังรุ่นนี้ไม่มีพอร์ตเสียงแบบ 3.5 มม. และไม่รองรับการเสียบสาย USB เพื่อใช้งานแบบมีสาย — USB-C ใช้ชาร์จเท่านั้น
ปรับแต่งได้ละเอียดผ่าน Corsair iCUE
สำหรับผู้ใช้ PC การติดตั้งซอฟต์แวร์ Corsair iCUE จะช่วยให้ปรับแต่งหูฟังได้หลากหลาย ตั้งแต่
- ตั้งค่า EQ สำหรับเกมหรือเสียงที่ชอบ
- ปรับไฟ RGB (สี / ความสว่าง / เอฟเฟกต์ หรือปิดได้)
- ปิดเสียงแจ้งเตือนไมค์
- ปิด Auto-Shutdown
- ตรวจสอบแบตเตอรี่
- รวมถึงดูอุณหภูมิการ์ดจอและส่วนต่าง ๆ ของเครื่อง
ข้อสังเกตเล็กน้อยคือ หากถอด Dongle USB ออก iCUE อาจขอให้ Restart เครื่องเพื่อใช้งานต่อ ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับบางคน
สรุป: หูฟังที่ “ใช่” สำหรับคนที่อยากได้ความสบาย + ใช้งานได้จริง
Corsair VOID WIRELESS V2 คือหูฟังเกมมิ่งไร้สายที่ตอบโจทย์ในหลายด้าน โดยเฉพาะสำหรับผู้เล่นที่เน้น “ใช้งานได้จริงทุกวัน” มากกว่าจะต้องมีเสียงจัดจ้านหรือดีไซน์หวือหวา
- สวมใส่สบายอย่างแท้จริง
- เสียงแม่นยำ เหมาะกับสายเกม
- แบตเตอรี่อึด ใช้ได้หลายวัน
- เชื่อมต่อไร้สายได้หลากหลายอุปกรณ์
- ปรับแต่งได้เต็มที่ผ่าน iCUE
หากคุณมองหาหูฟังไร้สายที่ครบเครื่อง ใช้งานง่าย เสียงดี และ “ไม่ต้องคิดเยอะ” — VOID WIRELESS V2 คือคำตอบที่น่าพิจารณามากในช่วงราคานี้
🛒 วางจำหน่ายแล้วในราคา 3,990 บาท
🔗 สั่งซื้อได้ที่: https://shp.ee/yqnt66c
ข้อสังเกต – สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อ
- ไฟ RGB อาจสะท้อนกรอบแว่นสำหรับบางคน (สามารถปิดได้)
- เสียงเบสไม่ได้หนักแบบหูฟังสายดนตรี
- ไมโครโฟนไม่สามารถถอดออกได้
- ไม่มีโหมดการใช้งานแบบมีสาย