BY KKMTC
12 Jul 18 5:48 pm

วิถีสายนิ่ง เล่นคลาส Sniper อย่างไรให้เทพซ่าฉบับสากล

48 Views
ไกด์เดียวสามารถเข้าใจวิธีเล่นสไนเปอร์ได้ทุกเกม

นิยามของสไนเปอร์ของคุณคืออะไร ? ก็คือ มือปืนทักษะขั้นสูงที่เพียงแค่กระสุนนัดเดียวสามารถปลิดชีพศัตรูได้จากระยะไกล โดยต้องอาศัยในเรื่องความอดทน ความพร้อมของร่างกาย และสมาธิที่ต้องนิ่งตลอดเวลา ซึ่งเป็นอาชีพที่เทพ และต้องใจเย็นมาก ๆ ในสายตาของเกมเมอร์มันจะต้องดูคูลมาก แต่มันจะต้องเป็นคลาสสุดโปรดอย่างแน่นอนในเกมประเภท FPS ทุก ๆ เกม

แต่ผลปรากฏว่าสิ่งที่สอนมาจากภาพยนตร์ หรือ Montage ต่าง ๆ มันช่างเล่นยากสมชื่อจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคลาสที่ค่อนข้างน่าเบื่อ ศัตรูนาน ๆ จะผ่านกล้อง ยิงก็ไม่ค่อยโดน โดนตลบหลังได้ง่าย และเป็นตัวถ่วงเพื่อนร่วมทีมด้วยเช่นกัน เกมเมอร์หลายคนจึงหนีกลับไปสายบู๊ที่เล่นง่ายกว่า แถมได้รู้สึกความตื่นเต้นจากการได้เป็นหน่วยรบแนวหน้าอีกด้วย ไม่เหมือนกับสไนเปอร์ที่มักเป็นผู้คุมประตูหลังอยู่เสมอ

นี่คือ “วิถีสายนิ่งเล่นคลาส Sniper ฉบับสากลเล่นอย่างไรให้เทพซ่า” ในบทความจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยสำหรับที่ต้องการเล่นสายสไนให้สนุก ไม่น่าเบื่อ มีบทบาทอย่างไรบ้างสำหรับทีมเวิร์ค หรืออยากจะอัพสกิลการเล่นให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสามารถใช้ได้ในทุกเกม

เข้าใจระบบการยิงของเกม ทั้งอาวุธปืน และเกมเพลย์

สื่งที่ต้องทำอย่างแรกก็คือการศึกษาระบบการเล่น FPS ในแต่ละเกมว่ามีความยากหรือง่าย รายละเอียดเยอะแค่ไหน เพื่อที่จะปรับประยุกต์และเข้าใจวิธีเล่นในเกมนั้นได้อย่างชัดเจน ถ้าได้ศึกษาวิธีการเล่นเกมทั้งหมด เพียงเท่านี้ก็ผู้เล่นสามารถเริ่มต้นการเล่นเกม และรับรู้จุดเด่นจุดด้อยทั้งทักษะของเกมเมอร์ รวมถึงจุดบอดของเกมที่เราควรต้องหลีกเลี่ยงมันซะ

  • ฟิสิกส์กระสุนตก ถ้าเป็นเกมยิงยุคสมัยปี ’90 จนทศวรรษที่ผ่านมา มีน้อยเกมที่ใช้ระบบการยิงที่มีฟิสิกส์กระสุนไหลลง ซึ่งตอนนั้นส่วนใหญ่ยังเป็นแบบการยิงตรงตามเป้า แต่ในปัจจุบันด้วยเกมที่ทันสมัยมากขึ้น ย่อมก็ต้องเพิ่มระบบเดัดแปลงเพื่อให้เกมมีความท้าทายมากขึ้น ตอนนี้มี FPS หลายเกมเริ่มใช้ระบบกระสุนย้อยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Battlefield I หรือ PUBG และคาดว่าจะมีอีกหลาย ๆ เกมที่จะใช้ระบบนี้ ถ้าหากเกมที่คุณเล่นไม่มีระบบนี้มันอาจจะเล่นง่ายหน่อย แต่ถ้าเจอกระสุนย้อยเข้าไป ช่วงแรกอาจจะลำบากซะหน่อยที่จะต้องวิเคราะห์การยิงอีกด้วย เปรียบเสมือนต้องมานับหนึ่ง และฝึกฝนใหม่ทั้งหมด
bulletdrop in BF4

การคำนวณวิธีกระสุนของเกม Battlefield 4

  • Semi-Auto หรือ Bolt Action ขึ้นอยู่กับสไตล์ของผู้เล่นที่ต้องการในแบบไหน ถ้าเป็นปืนไรเฟิลแบบ Bolt Action หรือยิงทีละนัด ตัวปืนจะมีความแม่นยำที่สูงกว่า สามารถตั้งหลักได้ ช้าแต่ชัวร์ ตรงกันข้ามแบบ Semi-Auto จะสามารถที่จะยิงได้ต่อเนื่อง พร้อมกับจับเป้าหมายศัตรูไม่ให้หลุดสายตา แต่ด้วยสไนเปอร์มีแรงถีบของปืนที่เยอะ จึงจำเป็นจะต้องใช้สมาธิมากกว่าการใช้ไรเฟิล Bolt Action อยู่พอสมควร
  • ศึกษาแต่ละแผนที่ รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะแปดสิบครั้ง คุณควรลองเล่นแผนที่ซักครั้งสองครั้ง แล้วมาลองศึกษาถึงจุดการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของศัตรูเป็นอย่างไร จุดไหนที่มีมุมอับ จุดไหนที่ศัตรูชอบลาดตระเวน บางทีศึกษาไปมาอาจจะได้รู้ถึงตำแหน่งสไนเปอร์ที่ไม่มีใครรู้และมีวิสัยทัศน์ที่ดี และจุดตำแหน่งที่ทั้งทีมเราและทีมศัตรูชอบนิยมปะทะกัน

Battlefield 4

  • ปรับออปชั่นที่เป็นตัวถ่วง อย่าให้โดนจำกัดฝีมือของคุณเพียงเพราะโดนล็อคเม้าส์ คุณอาจจะลองปรับ Mouse Sensitivity ให้พอดี บางเกมใจดีมีระบบปรับความรวดเร็วในขณะที่กำลังส่องกล้องสไนเปอร์อีกด้วยเช่นกัน และที่สำคัญที่สุด ปิด VSync ! เพียงเท่านี้ก็เปรียบเสมือนเป็นการปลดลิมิตเตอร์ทักษะการเล่นเกม FPS และถ้าคุณสายสไนป์ไปเรื่อย ๆ อาจจะได้ปลดสกิลเกมเมอร์ที่ติดตัว หรือเปิดมิติพรสวรรค์ต่าง ๆ ที่ไม่เคยรับรู้มาอีกด้วยเช่นกัน

Sniper คือ สายสนับสนุน นิ่งเข้าไว้ แต่ไม่ควรหยุดอยู่กับที่

บทบาทของคลาส Sniper ไม่ได้มีเพียงแค่เล็ง ๆ ยิง ๆ กำจัดเป้าหมายเพียงอย่างเดียว แต่คุณจะต้องเป็นสายซัพพอร์ตในระยะห่าง ๆ จากทีม เพื่อที่จะทำภารกิจในเกมให้ราบรื่น และสูญเสียให้ได้น้อยที่สุด แต่ก็ต้องรักษาชีวิตตัวเองให้ได้นานที่สุดอีกเช่นกัน เพราะเป็น

  • ส่งแรงสนับสนุนไปสู่ลูกทีมให้ครอบคลุมที่สุด สำหรับ Co-op หรือ Multiplayer ถ้ามีไมโครโฟน และกล้องส่องทางไกลบนสไนเปอร์ไรเฟิล ก็ต้องใช้ให้คุ้มค่าซะหน่อย เพราะการติดต่อบอกทิศทางตำแน่งของศัตรู พร้อมตัดกำลังศัตรูโดยการลอบสังหาร ยิงกดอยู่ห่าง ๆ ทำให้เกมให้ความรู้สึกน่าตื่นเต้น และเพื่อนร่วมทีมของเราก็ได้รู้สึกไว้วางใจในตัวเราเป็นอย่างมาก แม้ว่าทักษะการยิงจะไม่ได้เก่ง แต่ด้านการสนับสนุนต้องยกนิ้วให้คุณเลย
  • อย่าบู๊ถ้าไม่จำเป็น อาวุธรอง และอุปกรณ์เสริม เป็นเพื่อนคู่ใจ อาวุธสำรอง และอุปกรณ์เสริมแม้ว่าจะดีมีประสิทธิภาพแค่ไหน ก็มีไว้เพื่อ “ป้องกันตัว” เป็นหลักอยู่ดี ฉะนั้นการบุกแนวหน้าด้วยคลาสสไนเปอร์ หรือใช้อุปกรณ์สำรองแบบสิ้นเปลือง จึงไม่สมควรทำอย่างยิ่ง (ยกเว้นถ้าคุณเล่นเอาขำ ๆ หรือใส่อาวุธหลักได้ 2 ชิ้น)

sniper elite 4

  • เสียงรอบตัว เพิ่มโอกาสรอดชีวิต การเป็นสไนเปอร์จะต้องเพิ่งเล็งจุดอยู่ใดจุดหนึ่ง จึงเป็นเรื่องที่ยากที่ว่าจะมีศัตรูมาตลบหลังเราหรือเปล่า สิ่งที่ช่วยเราได้ก็คือ เสียงสภาพแวดล้อม เพราะการที่ Sniper จะต้องห่างจากสมรภูมิรบจึงได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมได้ชัดเจนยิ่งกว่า เพราะฉะนั้นคุณจะต้องมั่นใจว่านอกจากจะคอยซัพพอร์ตทีมแล้ว ก็ต้องมีเซ้นต์เพื่อการเอาตัวรอดด้วยการยินเสียงเช่นกัน
  • แคมป์อยู่ตำแหน่งเดิม ไม่ปลอดภัยระยะยาว การที่อยู่จุดตำแหน่งที่ดีและเหมาะสมย่อมต้องได้เปรียบอยู่เสมอ แต่อย่าลืมว่าเกม FPS ส่วนใหญ่ในตอนนี้จะใช้ Killcam เข้ามาประกอบด้วย เพื่อไม่ให้เล่นผู้เล่นสิงอยู่จุดเดิมตลอดเวลา เปรียบเสมือนเป็นการไล่ผู้เล่นให้หนีไปที่อื่นแบบเนียน ๆ ฉะนั้นแนะนำว่าให้เปลี่ยนตำแน่งพื้นที่ยิงทุก ๆ 5 – 7 นาที และพยายามหลีกเลี่ยงการใช้จุดตำแหน่งยอดนิยมของเหล่านักแคมป์
Team Fortress 2

น่าจะเดาเหตุการณ์ต่อไปได้ เมื่อ Spy อยู่หลัง Sniper

  • รู้จักระยะการยิงที่เหมาะสม การยิงปืนในระยะที่ไกลเกินไปมีแต่ข้อเสียที่มากกว่าข้อดี โดยเฉพาะเกมที่มีระบบกระสุนไหล เพราะนอกจากโอกาสยิงโดนที่ยากมากแล้ว ซึ่งต่อให้ยิงโดนศัตรู ค่า DMG ก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้เต็มประสิทธิภาพ (ยิ่งไกลค่าเสียหายยิ่งลด) แถมไหวตัวทันอีกต่างหาก รู้สู้ดีเอากระสุนทั้งหมดที่สาดใส่ไปกับกำแพงกับพื้นประมาณ 4-5 นัด เอาไปลงกับศัตรูเต็ม ๆ  1-2 นัด ด้วยระยะการยิงที่เหมาะสมที่สุดดีกว่า

 

ศึกษาคาดเดาลักษณะการเคลื่อนไหวข้าศึก และ Hitbox ของเกม

การที่จะเป็นเทพสไน คุณต้องคลิ๊กปุ๊ป ยิงปั๊ป ตายใน 1-2 นัดทันที ฉะนั้นการคาดเดาการเคลื่อนไหวของผู้เล่นได้ คุณก็จะสามารถที่จะวิเคราะห์กะระยะการยิงให้แม่นยำซะก่อน ซึ่งจะช้าหรือเร็วนั้นขึ้นอยู่กับการฝึกฝนเพียว ๆ ในรอบนี้ ซึ่งก็แน่นอนว่าการฝึกอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เก่งได้ คุณจะต้องเข้าใจสิ่งเหล่านี้เพื่อเป็นบันไดสู่การเป็นสุดยอดสไนเปอร์

  • Hitbox คืออะไร ? อธิบายสั้น ๆ ก็คือเป็นกล่องล่องหนที่อยู่รอบตัวละครที่จะตรวจจับความเสียหายที่เราทำไว้ ซึ่งถ้าเรายิงโดนทำดาเมจได้ นั้นก็หมายถึงเรายิงโดน Hitbox นั้นเอง ซึ่งแต่ล่ะตำแหน่งจะสร้างความเสียหายแตกต่าง อย่างเช่น หัว แขน ท้อง ขา เป็นต้น ส่วนความกว้างแคบของ Hitbox ก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบของทีมผู้พัฒนา อย่างเช่น เกม FPS ทั่วไปจะมี Hitbox ปกติ แต่ Overwatch ที่จะมี Hitbox กว้างกว่าเกมอื่น ๆ เพื่อให้เกมเล่นง่ายขึ้น เข้าถึงสำหรับคนที่ไม่ได้เล่นสาย FPS  (แต่ก็ทำให้เกมสาย FPS ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่เช่นกัน)

  • อยู่เหนือกว่าได้เปรียบเสมอ พื้นที่กว้างเท่าไหร่ ที่นั้นคือสวรรค์เหล่าคนเล่นกล้อง (สไน) ตามหลักทั่วไปที่เกมเมอร์สาย FPS ที่หลายคนมองว่าสำคัญที่สุดก็คือเรื่อง “วิสัยทัศน์” ยิ่งมีมมุมกว้างเท่าไหร่ก็ยิ่งได้เห็นความเคลื่อนไหวของข้าศึก และทีมเราได้กว้างมากขึ้น คลาส Sniper ก็เช่นกันที่ต้องพึงอาศัยพื้นที่ที่กว้างและวิสัยทัศน์โดยรวมที่ดี เพื่อที่จะเลือกวางแผนและกำจัดเป้าหมายที่อันตรายที่สุดก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งนอกจากอยู่เหนือแล้ว ก็ยังวิธีการเสริมมุมกว้างอีกวิธีหนึ่ง คือ การปรับ Field Of View (FOV) อยู่ระดับพอเหมาะที่จะช่วยเสริมให้เกมมีมุมมองที่กว้างขึ้น

Battlefield 1

  • อ่านพฤติกรรม รับมือกับเป้าหมายเคลื่อนไหว ยิ่งใกล้ตัวยิ่งอันตราย ความยากง่ายขึ้นอยู่กับผู้เล่นคนอื่นจะสามารถรู้วิธีรับมือหลบสไนเปอร์มากน้อยแค่ ผู้เล่นที่ไม่รู้วิธีการหลบจะวิ่งตรงพุ่งหน้าอย่างเดียว เป็นเป้าหมายที่งอ่านตัวละครได้ง่าย สำหรับผู้ที่รู้วิธีการรับมือ ศัตรูจะวิ่งซิกแซกซ้ายขวาแบบไม่มีแพทเทิร์น หรือยิงกด ซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่เราจะต้องวิเคราะห์ยิงโดน และสิ่งที่ท้าทายอย่างหนึ่งที่สายสไนจะต้องเผชิญ

Rising Storm 2

  • น้ำนิ่งไหลลึก สกิลสมาธิ เป็นสิ่งที่สำคัญ ในสมรภูมิเดือดไฟนักรบที่กำลังโฉกโฉนก็ต้องดับด้วยน้ำ เล่นสไนเปอร์ต้องใจร่มเป็นอันดับหนึ่งเพื่อจะประคองสติ และความแม่นยำจากการกลั้นหายใจ (Hold your Breath) ถ้าหากคุณเจ้าอารมณ์สาดกระสุนเหมือนที่เล่นสายบู๊ นอกจากเปลืองกระสุนแล้ว เป็นการบอกตำแหน่งของคุณให้รู้อีกด้วย
  • Sniper Vs. Sniper เปรียบเสมือนกำลังเล่นเกมแมวไล่จับหนูที่ต้องวัดกันด้วยไหวพริบและทักษะเพียว ๆ ใครไวพริบดีกว่า แม่นกว่า คล่องกว่า รวดเร็วกว่า ฝ่ายนั้นก็จะเป็นผู้ชนะอยู่เสมอ ถ้าไม่มีผู้เล่นอื่น ๆ เข้ามายุ่งละก็ ถือว่าเป็นวัดฝีมือสไนเปอร์ที่แท้จริง

battlefield 1

ให้มองว่า Headshot / Quickscope เป็นการสร้างความท้าทายอย่างหนึ่ง

เชื่อว่าหลายคนอาจจะได้เห็นพวกคลิป Montage จากเกมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Headshot, 360 Quickscope หรือ ยิงทะลุได้ kill ถึง 3 ตัวเพียงแค่นัดเดียว ซึ่งผู้เขียนอยากจะมองว่าเป็นเพียงแค่ Lucky Moment เท่านั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบถูกที่ถูกเวลาพอดี เป็นสกิลกับดวง 50-50

ยกเว้นแต่เรื่องของ Headshot และ Quickscope ที่จะต้องใช้ทั้งทักษะถึง 80% และดวง 20% ในเวลาเดียว ซึ่งถ้าคุณมั่นใจในเรื่องทักษะในระดับหนึ่ง ก็จะแนะนำให้ลองกะเล็งยิงที่หัวหรือส่องกล้องยิงแบบเร็วดูซักครั้ง เพื่อเป็นการเสริมความท้าทายและเป็นการพิสูจน์ว่าคุณสามารถเล่นสไนเปอร์ได้ด้วย ไม่เป็นตัวถ่วงของเพื่อนร่วมทีม ซึ่งวิธีให้เล่นคล่องแคล่วว่องไวก็มีเพียงวิธีเดียวก็คือ การฝึกฝนและประสบการณ์จากการเล่นคลาส Sniper แบบเพียว ๆ เท่านั้น

420

ก็หวังว่าบทความคู่มือนี้จะสามารถช่วยเสริมทักษะการเล่นคลาส Sniper ให้สนุก ไม่น่าเบื่อ และเก่งมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ามันจะต้องใช้เวลานานในการฝึกฝนจนกว่าจะกลายเป็นผู้เล่นที่มีฝีมือโดดเด่น ในระหว่างการเล่น ก็ขอให้สนุกไปกับเกม FPS ที่คุณชื่นชอบโดยไม่ต้องซีเรียสเกินไป พร้อมกับโชคดีมีชัยในสนามรบนะครับ

SHARE

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top