BY KKMTC
14 Jun 21 7:57 pm

7 เกมบน PC ที่แม้ปรับกราฟิก Low แต่ภาพก็ยังแจ่ม

48 Views

เกมเมอร์บางคนไม่มีโอกาสได้เพลิดเพลินกับการเล่นเกม Next-Gen หรือเกมใหม่ ๆ ได้ เนื่องจาก PC หรือโน้ตบุ๊กของตัวเอง ไม่มีประสิทธิภาพทรงพลังมากพอ นอกจากนี้ เนื่องจากราคา PC ที่ค่อนข้างสูงในปัจจุบัน ก็ทำให้การครอบครอง PC คุณภาพสูงยิ่งเข้าถึงยากขึ้นไปอีก

แต่แม้เกม Next-Gen หรือเกมใหม่มีภาพกราฟิกงดงามจนเชื่อว่า PC สำหรับใช้งานทั่วไป ไม่สามารถเล่นเกมขนาดใหญ่ได้ แต่ 7 เกมเหล่านี้ คือเกมบน PC ที่แม้ปรับกราฟิกระดับ Low แต่ภาพก็ยังแจ่ม แถมมีสเปกเป็นมิตรมากพอที่ PC ทั่วไปในรุ่นปัจจุบันก็สามารถเล่นได้

สเปกโน้ตบุ๊กที่ใช้ในการเล่นเกม

  • CPU: AMD Quad-Core A8-7410 APU (2.2 GHz)
  • Graphics: AMD Radeon R5 Graphics 2 GB (การ์ดจอ Onboard)
  • RAM: 4GB
  • Harddisk: 500GB HDD
  • OS: Windows 7 Professional 64-bit

หาก PC หรือโน้ตบุ๊กผ่านเงื่อนไขสเปกที่ระบุไว้ด้านบน ก็คาดว่าเกมในที่ลิสต์ทั้งหมดจะสามารถ “เล่นได้” โดยไม่พบปัญหาใด ๆ

อย่างไรก็ตาม ต้องบอกก่อนว่าสเปกที่ระบุไว้ไม่ได้เป็นการการันตีว่าเกมจะสามารถรันได้โดยมีเฟรมเรตคงที่ตลอดทั้งการเล่นเกม บางครั้งเฟรมเรตอาจดรอปลงในบางช่วงโดยขึ้นกับหลายปัจจัย แต่โดยรวมแล้ว คุณยังสามารถเล่นเกมนี้ได้โดยไม่ต้องเจอกับปัญหาเกม Crash มากเกินหรือไป

Tomb Raider (2013)

Tomb Raider เวอร์ชัน Reboot ถือเป็นการกลับมาอีกครั้งของนักผจญภัยหญิง Lara Croft ที่มาในรูปแบบโหดสมจริงยิ่งขึ้นกว่าเดิม (แต่เนื้อเรื่องกับธีมยังติดความแฟนตาซีตามสไตล์ Tomb Raider ดั้งเดิม)

เกมดังกล่าวไม่ได้มีจุดเด่นเพียงการออกแบบระบบเกมเพลย์ผสมผสานระหว่างแอ็กชันกับ Survival ได้อย่างลงตัว, มี Puzzle สร้างสรรค์, ตัวละคร Lara Croft ในมาดใหม่ และแอนิเมชันการเคลื่อนไหวของตัวละครที่มีความเอาใจใส่ในรายละเอียดสูงเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงภาพกราฟิก ก็เป็นจุดขายของเกมนี้เช่นกัน

Tomb Raider นอกจากเป็นเกมที่กินสเปกต่ำจนน่าเหลือเชื่อแล้ว ภาพกราฟิกระดับ Low ก็ยังมีความงดงาม และไม่ส่งผลกระทบต่อรายละเอียดของแผนที่มากนัก นอกจากนี้ เกมดังกล่าวมีตัวเลือกเปิด/ปิดแอนิเมชันการเคลื่อนไหวของทรงผม Lara Croft อีกด้วย ถ้าเพลเยอร์มั่นใจว่า PC ของคุณสามารถรันเกมดังกล่าวอย่างลื่นไหล ก็ท้าให้ลองเปิดแอนิเมชันทรงผมได้เลย

Middle-Earth: Shadow of Mordor

หนึ่งในเกมดัดแปลงจากนิยายเพียงไม่กี่เกมที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้กับรีวิว โดยเกม Middle-Earth: Shadow of Mordor มีกระแสตอบรับที่ดีมากในด้านระบบการต่อสู้สไตล์ Batman Arkham ที่มีความเป็นไดนามิกสูง และระบบ Nemesis ที่ค่อนข้างล้ำหน้าในเกมยุคนั้น

แม้เกมดังกล่าวจะวางจำหน่ายในปี 2014 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของเกมคอนโซลเจเนอเรชันที่ 8 (PlayStation 4, Xbox One) แต่เนื่องจากเกมดังกล่าวผ่านการ Optimized เป็นอย่างดี ทำให้ตัวเกมค่อนข้างมีสเปกเป็นมิตรสำหรับ PC ระดับ Low-End ถึง Mid-End รวมถึงภาพกราฟิกของเกมนี้ก็จัดว่ามีความสวยงามเป็นธรรมชาติ แม้จะปรับกราฟิกเป็นระดับต่ำก็ตาม

Bioshock Infinite

Bioshock Infinite เป็นหนึ่งในเกม FPS ที่มีกระแสตอบรับยอดเยี่ยมมาก ๆ ในด้านระบบเกมเพลย์สนุกสนานไม่แพ้ภาคก่อน การนำเสนอแผนที่ใหม่เป็นเมืองลอยฟ้า Columbia ที่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า Bioshock ไม่จำเป็นต้องใช้ฉากหลังเป็นเมืองใต้น้ำ Rapture ทุกภาคเสมอไป รวมถึงเนื้อเรื่องเกมนี้มีความซับซ้อน ล้ำลึก จนถึงขั้นมีการสร้างคอมูนิตี้ เพื่อร่วมวิเคราะห์วิจัยและสร้างทฤษฎีต่าง ๆ ในเกม

นอกจากนี้ เกม Bioshock Infinite ค่อนข้างเป็นมิตรสำหรับ PC ระดับ Low-End และแน่นอนว่าเนื่องจากตัวเกมเน้นนำเสนองานสถาปัตยกรรมกับอาร์ตสไตล์เป็นหลักมากกว่ากราฟิก ทำให้เกม Bioshock Infinite ยังคงเป็นเกมที่มีภาพงดงามเป็นเอกลักษณ์ แม้กราฟิกจะอยู่ระดับ Low ก็ตาม

Far Cry 3

ย้อนกลับไปสมัย Far Cry ภาคแรก เกมดังกล่าวเคยมีชื่อเสียงด้านการใช้ทรัพยากรเครื่อง PC ที่หนักหนาสาหัส เพราะเกมสร้างโดยใช้ CryEngine ที่ล้ำหน้ามาก่อนกาล ก็ต้องบอกเลยว่าในยุคนั้น ถ้าอยากอวดเพื่อน ๆ ว่า PC ของคุณทรงพลังจริง ก็ต้องท้าพิสูจน์ด้วยการเปิดเกม Far Cry

แต่อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ Far Cry 2 เป็นต้นมา ทางทีมพัฒนาเกมได้หันเปลี่ยนไปใช้ Dunia Engine ซึ่งเป็นเอนจินเกมที่ดัดแปลงจาก CryEngine อีกทีหนึ่ง จึงทำให้เกม Far Cry 2 นอกจากมีภาพกราฟิกสวยงามโดยทิ้งกลิ่นอายของเอนจินตัวเก่าไว้แล้ว ตัวเกมมีการ Optimized ดีขึ้นจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที

เกม Far Cry 3 ได้พิสูจน์ความเทพของ Dunia Engine อีกครั้ง ด้วยการ Optimized ตัวเกม จนเกมมีสเปกที่ค่อนข้างเป็นมิตรสำหรับ PC ระดับ Low End ถึง Mid End ซึ่งขัดกับกราฟิกเกมที่สามารถนำเสนอฉากเกาะสวรรค์ในเกมได้อย่างสวยงามแม้เซตติงอยู่ในระดับ Low ก็ตาม

Metro 2033 Redux

เกม Metro ทุกภาค มักมีการผลักดันประสิทธิกราฟิกไปถึงจุดสูงสุด ทำให้ Metro เป็นเกมที่มีชื่อเสียงในด้านการกินทรัพยากร PC เยอะพอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม เคสดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นสำหรับเกม Metro 2033 เวอร์ชัน Redux

เกมเวอร์ชัน Redux จะมีภาพกราฟิกสวยงามมากกว่าเกมเวอร์ชันต้นฉบับ แต่เนื่องจากเกมได้ปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมให้ดีขึ้น ส่งผลลัพธ์ทำให้เกมเป็นมิตรสำหรับ PC ระดับ Low-End ตามมา และแม้เกมโดนลดคุณกราฟิกเป็นระดับ Low ก็ไม่ได้ขจัดบรรยากาศรายละเอียดที่ต้องการนำเสนอในเกมลงแต่อย่างใด

Assassin’s Creed Rogue

แม้ Assassin’s Creed Rogue เป็นเกมภาค 7 ของซีรีส์อย่างเป็นทางการ แต่ก็ถือว่าเป็นเกมรุ่นน้องของภาค IV: Black Flag ที่ภาค Rogue มีระบบเกมเพลย์ยังคล้ายเกมภาคก่อน แต่ความยาวของเนื้อเรื่องภาคใหม่มีการปรับให้มีระยะการเล่นสั้นลง รวมถึงองค์ประกอบเกมต่าง ๆ เช่น ความใหญ่ของแผนที่ รายละเอียดของฉาก มีการลดสเกลลงอีกด้วย

การลดสเกลของเกม ส่งผลลัพธ์ให้ Assassin’s Creed Rogue กินสเปกต่ำกว่าเกมภาค Black Flag แต่ถึงอย่างนั้น ภาพกราฟิกระดับ Low ของเกมนี้ ก็จัดว่ามีความสวยงามอยู่ในเกณฑ์สอบผ่าน ถ้าหากเพลเยอร์ประสบปัญหา PC ไม่สามารถเล่นเกมภาค Black Flag ได้ เกมนี้จัดว่าเป็นตัวเลือกสำรองที่ไม่เลวเลยทีเดียว

 

Metal Gear Solid V: The Phantom Pain

หากพูดถึงเกมที่มีภาพกราฟิกสวยงาม แต่กินสเปก PC ต่ำมาก ๆ หลายคนอาจนึกถึงเกม Metal Gear Solid V: The Phantom Pain เป็นเกมแรก เพราะเกมดังกล่าวได้รับการยกย่องจากผู้เล่น รวมถึงสื่อเกมหลายแห่งว่าเป็นเกมที่มีการ Optimized ดีมาก ๆ แม้กระทั่งโน้ตบุ๊กการ์ดจอ Onboard ก็ยังสามารถเล่นได้

สาเหตุที่ Metal Gear Solid V สามารถรันได้ลื่นไหล แม้บนเครื่อง PC จะมีสเปกต่ำ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะประสิทธิภาพการทำงานของ Fox Engine (เอนจินเกมของค่าย Konami) สามารถช่วย Optimized ให้เกมมีความเสถียรมากที่สุด นอกจากนี้ กราฟิกสามารถปรับแต่งให้มีคุณภาพต่ำลงกว่านี้ได้ ด้วยการเข้าไปเปลี่ยนตัวเลขในไฟล์เกม ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ซับซ้อน และหากเกิดปัญหา ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ง่ายอีกด้วย

SHARE

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top