BY BabeElena
23 Dec 18 5:57 pm

5 สุดยอดบทเพลงขับร้องประกอบวีดีโอเกมประจำปี 2018

4 Views

“้เรากำลังอยู่ในยุคทองของเพลงประกอบเกม” นี่คือประโยคที่ฟังดูเหลือเชื่อก็ก็เป็นจริงไปแล้วในวีดีโอเกมของยุค ๆ นี้ จากเดิมที่เพลงประกอบเกมจะใช้เทคนิคที่ไม่ค่อยเยอะ เน้นความเรียบง่าย และเน้นท่วงทำนองที่ฟังแล้วติดหู ดังที่เรามักจะเคยได้ยินจากเกมในยุคก่อน ๆ น้อยมากที่จะใช้เทคนิคที่ซับซ้อนในการแต่ง

แต่ในยุคนี้เพลงประกอบเกมไม่ได้เป็นแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว คืออาจจะมีบ้างที่หลาย ๆ เกมจะยังคงใช้เทคนิคเดิมอยู่ แต่หลาย ๆ เกมในยุคนี้ก็มีการลงทุนและมีการจ้างศิลปิน วงดนตรี นักร้องมืออาชีพมาเพื่อทำเพลงประกอบให้กับเกมโดยเฉพาะ โดยผลที่เราได้ก็คือเราได้เพลงประกอบเกมที่ทรงพลัง ฟังแล้วติดหู และสามารถนำไปเทียบชั้นได้กับเพลงจริง ๆ และโดยเฉพาะกับ “Vocal Soundtrack” ที่ยุคสมัยนี้เริ่มมีการทำเพลงประกอบแบบมีเสียงคนร้องเพื่อประกอบเกมของพวกเขาโดยเฉพาะ แถมยังมีการซื้อลิขสิทธิ์เพลงเก่า ๆ เพื่อนำมาร้องใหม่หรือนำเอาใส่ไปในเกมเพื่อประโยชน์ในการเสริมสร้างบรรยากาศภายในเกมให้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

เพราะฉะนั้นทาง GamingDose จึงขอมาแนะนำ “5 สุดยอดบทเพลงขับร้องประกอบวีดีโอเกมประจำปี 2018” ไหนดูสิว่าจะมีเพลงประกอบไหนที่คุณคิดว่าจะอยู่ในลิสต์นี้บ้าง และในปีนี้จะมีเพลงประกอบคนร้องจากวีดีโอเกมเพลงไหนที่โดดเด่นและกลายเป็นกระแสกันบ้าง เรามาดูและฟังกันเลยดีกว่าครับ

หมายเหตุ : การจัดอันดับในครั้งนี้จะหยิบเฉพาะเพลงที่เป็นต้นฉบับสำหรับเกม ๆ นั้น หรือเป็นเพลงที่มีอยู่แล้วแต่หยิบมาร้องใหม่เพื่อใช้ในเกมโดยเฉพาะเท่านั้น ส่วนการซื้อลิขสิทธิ์เพลงที่มีอยู่แล้วมาใส่ในเกมโดยที่ไม่มีการดัดแปลง หรือเป็นเพลงที่ “ทำมาเพื่อโปรโมตเนื้อหาเกมเท่านั้น” และในเกมไม่มีให้ฟังเราจะไม่นับครับ

Abby Trott – Lifelight (Super Smash Bros. Ultimate)

มาเริ่มที่บทเพลงแรกกับเพลงประกอบที่เรียกได้ว่าเป็นเกมต่อสู้แห่งปี 2018 กับ Lifelight จาก Super Smash Bros. Ultimate ที่มาในคราวนี้พวกเขาได้กลับมาพร้อมกับเพลงประจำภาคในแบบของ Vocal Soundtrack ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่สองของซีรี่ส์ Super Smash Bros. หลังจากที่ภาคเก่าอย่าง Super Smash Bros. Brawl ก็ได้ใช้ Vocal Soundtrack เป็นเพลงประจำภาคเช่นเดียวกัน

ใน Super Smash Bros. Brawl เราจะได้ฟังเพลงประจำภาคที่มีความ Epic และทรงพลัง แต่กลับใน Lifelight ของ Super Smash Bros. Ultimate นั้นกลับให้อารมณ์ที่ตรงกันข้ามกันเลย โดยตัวเนื้อเพลงจะให้ความรู้สึกออกหนักไปทางแสงสว่างและความหวังตามโหมดผจญภัยของเกมอย่าง “World of Light” พร้อมกับการร้องที่ทรงพลังและเนื้อเพลงอันไพเราะรื่นหู ซึ่งทั้งหมดนี้เราต้องยกเครดิตให้กับคุณ Hideki Sakamoto ผู้ที่เคยฝากผลงานในการแต่งเพลงไว้กับซีรี่ส์ Yakuza และ Super Smash Bros. for Nintendo 3DS and Wii U และนักร้องมากฝีมืออย่างคุณ Abby Trott ที่ได้มีผลงานมากมายในวงการเกมไม่ว่าจะเป็นงานพากย์ตัวละครในเกม Red Dead Redemption, State of Decay, Nier:Automata และเกมอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเธอได้มาร้องบทเพลง Lifelight ในเวอร์ชั่นของภาษาอังกฤษครับ

Rhiannon Giddens – See The Fire in The Eyes (Red Dead Redemption 2)

หากไม่มีเพลงจาก Red Dead Redemption 2 ลิสต์นี้ก็คงไม่สมบูรณ์อย่างแน่นอน สำหรับเพลงประกอบคนร้องของหนึ่งในเกมแห่งปีตัวนี้ ที่เรียกได้ว่าดีงามและทรงพลังเป็นอย่างมาก ซึ่งในเกม Red Dead Redemption 2 นั้นก็มีเพลงประกอบคนร้องที่งานดีอยู่พอสมควร แต่ผู้เขียนขอเลือกบทเพลงที่ผู้เล่นเกมนี้จะได้ฟังในช่วงต้นของเกมกันทุกคน โดยบทเพลงนี้มีชื่อว่า “See The Fire in The Eyes” ขับร้องโดยคุณ Rhiannon Giddens

ถึงแม้เนื้อเพลงจะดูดุเดือดไปเสียหน่อย แต่ตัวเพลงของ See The Fire in The Eye กลับใช้ท่วมทำนองที่ผ่อนคลายและฟังแล้วสบายหูราวกับเป็นเพลงที่มักจะเปิดอยู่บนรถตอนกลับไปต่างจังหวัด ด้วยเทคนิคการแต่งท่วมทำนองที่ดูเบา ๆ แต่ทรงพลัง แถมตัวเพลงยังเล่นได้อย่างถูกจังหวะและถูกเวลาเป็นอย่างมาก ทำให้ตัวเพลงสามารถเสริมอารมณ์ของเนื้อเรื่องในเกมให้ดีและเพิ่มความอินขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าถึงแม้จะเป็นเพลงที่ไม่ได้มีทำนองที่หนักหน่วง แต่กลับสร้างความประทับใจและดีงามต่อการฟังซ้ำหลาย ๆ รอบเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

Laura Shigihara – Don’t Forget (Deltarune)

อีกหนึ่งเพลงประกอบคนร้องน้ำดีจากเกมอินดี้ที่ถือว่าได้ว่าเป็นภาคต่อของเกมอินดี้ชื่อดังที่เราได้เล่นกันเมื่อช่วงสองที่แล้วอย่าง “Undertale” โดยในปีนี้ Toby Fox ก็ได้กลับมาพร้อมกับเกมใหม่ของเขาอย่าง “Deltarune” พร้อมกับมีตัวเดโม่มาให้ได้ลองเล่นกันอีกด้วย

โดยสำหรับใครที่ไม่เคยเล่น Undertale มาก่อน ทางผู้เขียนจะขอนิยามความดีงามของเพลงประกอบในเกม Undertale สั้น ๆ ว่า “งานดีทุกเพลง” เพราะทุก ๆ เพลงของ Undertale ถูกแต่งมาอย่างดีและมีคุณภาพจนครองใจเกมเมอร์หลาย ๆ คนไปเสียแล้ว ซึ่งพอมาเป็นผลงานตัวใหม่อย่าง Deltarune คุณ Toby Fox ก็ได้พัฒนาชั้นเชิงในการแต่งเพลงให้ดีขึ้นไปอีก

และนั้นก็รวมถึง “เพลงประกอบคนร้อง” ที่มีชื่อว่า “Don’t Forget” ที่ถือว่าเป็นครั้งแรกของคุณ Toby Fox ที่ได้แต่งทำนอง/เนื้อเพลงขึ้นมา โดยได้คุณ “Laura Shigihara” นักร้องหญิงฝีมือดีผู้ที่เคยร้องเพลงประกอบให้กับ Plant vs Zombies มาก่อน มาขับร้องเจ้าเพลงนี้ให้ด้วย

ซึ่งถึงแม้ตัวเพลง Don’t Forget จะมีความยาวแค่ไม่กี่วินาทีหากเทียบกับเพลงทั่ว ๆ ไป แต่ด้วยแรงส่งจากเนื้อเรื่องของเกมและความหมายของตัวเลง บวกกับช่วงทำนองและน้ำเสียงของคุณ Laura Shigihara ที่ขับร้องออกมาได้อย่างทรงพลัง ทำให้ Don’t Forget กลายเป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่ติดลิสต์นี้ไปโดยปริยายครับ

https://www.youtube.com/watch?v=cE6TSZTJ_rY

Bear McCreary – Overture (God of War)

สำหรับเพลงประกอบวีดีโอเกมแห่งปี 2018 แล้วนั้น หากขาดเพลงประกอบจากเกม God of War ไป ก็เหมือนข้าวต้มที่ไม่เหยาะซีอิ๊ว กับเพลงประกอบคนร้องของเกมยอดเยี่ยมแห่งปี 2018 อย่าง “Overture” ที่ถือได้ว่าเป็น Main Theme ประจำ God of War ยุคใหม่นี้เลยก็ว่าได้ เพราะเราจะได้ฟังเพลงนี้ในหลาย ๆ จังหวะและหลาย ๆ ช่วงของตัวเกม โดยเฉพาะกับตอนจบของตัวเกมที่เราจะได้ฟังเพลงนี้กันแบบเต็ม ๆ อีกด้วย

สาเหตุที่เพลงนี้ติดอันดับจากตัวผู้เขียน นอกจากว่าจะถูกขึ้นชื่อว่าเป็นเพลงประกอบของเกมแห่งปี 2018 แล้วนั้น ตัวเพลง Overture เองก็มีความทรงพลังและคุณภาพท่วงทำนองที่สูงมาก นอกจากนี้ตัวเพลงยังเลือกใช้ภาษาที่เหมาะสม (เท่าที่หาข้อมูลมาน่าจะเป็นภาษาแถว ๆ Icelandic) ในการขับร้องเพื่อเป็นแรงส่งให้กับเนื้อเรื่องของ God of War ในภาคนี้ เรียกได้ว่าทำฮึกเหิมได้ทุกครั้งที่เราได้ยินเพลง ๆ นี้ โดยทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่ได้ฝีมือจากผู้ประพันธ์เพลงมืออาชีพอย่างคุณ “Bear McCreary” ที่รับหน้าที่ในการแต่งบทเพลงให้กับเกม God of War เกือบทุกเพลงครับ

https://www.youtube.com/watch?v=zoT2MgT2LVI

Spank Live – Take me Home, Country Road (Fallout 76)

ถึงแม้ตัวเกม Fallout 76 จะแป๊กไม่เป็นชิ้นดีและประสบความล้มเหลวเป็นที่สุด แต่อย่างไรก็ดี เราก็ต้องยอมรับว่าได้มีเพลง ๆ หนึ่งในเกม Fallout 76 ที่ใช้ในตัวอย่างเกมของพวกเขา และเพลงนี้ดันติดหูเกมเมอร์อย่างเรา ๆ จนหลาย ๆ คนถึงกับต้องหาเพลงนี้มาฟังกันเลยทีเดียว

“Take me Home, Country Road” เป็นการนำบทเพลงแนวคันทรี่ต้นฉบับช่วงยุค 70 ที่ถูกขับร้องโดยศิลปินผู้ล่วงลับอย่างคุณ John Drenvor นำมาร้องใหม่โดยยังคงเคารพและรักษาความเป็นยุคเก่าเอาไว้ ซึ่งกับเพลงเวอร์ชั่นใหม่ที่ใช้กับ Fallout 76 นั้นก็ได้นักร้องฝีมือดีอย่าง Spank Live มาร้องเพลงประกอบตัวนี้ให้ และสามารถสร้างผลตอบรับในแง่บวกได้อย่างล้นหลามจากแฟนเกม Fallout (จนกระทั่งโดนหักอกเมื่อเกมวางขาย)

และที่เด็ดไปกว่านั้นก็คือเจ้าเพลง Country Road เวอร์ชั่น Fallout 76 ที่ร้องและเล่นโดยวงดนตรีอินดี้อย่าง “Spank Live” นี้ ทำให้เกมเมอร์หลาย ๆ คนได้รู้จักกับ “รัฐเวอร์จิเนียทางตะวันตก” ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในรัฐที่อยู่ในสหรัฐอเมริกากันมากขึ้น โดยมาจากเนื้อเพลงเปิดที่ขึ้นต้นด้วย “Almost heaven, West Virginia” และเป็นรัฐที่เราได้สำรวจเดินเล่นกันใน Fallout 76 อีกด้วยครับ

ก็จบกันไปแล้วนะครับสำหรับ “5 เพลงประกอบคนร้องจากวีดีโอเกมประจำปี 2018” ซึ่งหากเรานับเพลงประกอบคนร้องที่ไม่ได้อยู่เงื่อนไขที่เรากำหนดไว้ เราก็คงจะนำเพลงจาก League of Legends, Life is Strange และ Forza Horizon 4 มาใส่ลงไปอย่างแน่นอน โดยเฉพาะกับ “K/DA : POPSTARS” ที่ถือว่าทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเป็นอย่างมากในปีนี้ แต่แน่นอนบทความจัดอันดับตัวนี้เราเน้นเพลง “Original” ที่คุณสามารถหาฟังกันได้ในเกม เพราะฉะนั้นหากมีรายชื่อเพลงไหนตกบกพร่องไป หรือมีเพลงไหนที่จะมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ลองได้ฟังกัน ก็สามารถคอมเมนต์หรือแสดงความคิดเห็นกันไว้ได้เลยครับ

SHARE

BabeElena

Back to top