BY StolenHeart
29 May 19 11:58 am

ว่าด้วยเรื่องของการแบ่งเวลาเพื่อการเล่นเกม

141 Views

เชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่เหล่าเกมเมอร์ไม่ว่าจะวัยไหนก็เป็นกันและต้องหาทางรับมือตลอดเวลานอกจากอุปสรรคแสนสนุกในเกม นั่นก็คือเรื่องของการบริหารเวลา ที่ถ้าหากจัดการไม่ดีก็จะกระทบต่อการใช้ชีวิตจนหลายอย่างเสียหาย ซึ่งการบริหารจัดการเวลานี่แหละที่เป็นหลักฐานว่าเกมเมอร์คนนั้นสามารถจัดการเรื่องต่าง ๆ ได้ดีหรือไม่อย่างไร

เวลา ถือได้ว่าเป็นทรัพยากรที่คนเรานั้นได้มาเท่ากัน แต่ใช้ไม่เท่ากัน เพราะเหตุผลและแนวทางในการใช้ชีวิตของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนอาจะทุ่มเวลาให้กับการทำงานมากกว่าการหย่อนใจ หรือบางคนอาจจะใส่ใจในเรื่องงานน้อยลงไปแต่ไปลงกับเรื่องอื่น ๆ ที่เขาเห็นว่ามีประโยชน์มากกว่า เป็นต้น

แน่นอนว่าการเล่นเกมนั้นคือกิจกรรมที่น่าสนุกและเพลิดเพลินเป็นส่วนใหญ่ (ยกเว้นว่าจะไปเจอเกมแย่ ๆ เข้า) ทำให้ทุกครั้งที่เราเล่นเกม เวลามักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ อารมณ์ประมาณว่ารู้ตัวอีกทีก็ดึกมากแล้ว ซึ่งการจัดการกับปัจจัยของเวลานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะผู้ที่จัดการเวลาได้ ก็คือผู้ที่สามารถจัดการและใช้ชีวิตได้อย่างคุ้มค่าเต็มเม็ดเต็มหน่วยและเกิดประโยชน์ต่อยอดไปเรื่องอื่น ๆ ได้อีกมาก

ซึ่งประเด็นในเรื่องการจัดการเวลากับโลกของวิดีโอเกมนั้นเป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน ดังที่เราจะเห็นได้จาก Internet Meme เกี่ยวกับเกมออกมามากมายในเรื่องนี้ เช่นตาสุดท้ายตั้งแต่ก่อนเที่ยงคืน กลายเป็นยันเช้าแล้วก็ไม่ได้นอนแทน แบบนี้เป็นต้น หรือบางเกมก็เป็นของแสลงของเหล่าเกมเมอร์ที่แตะทีไร เวลาก็ไหลทุกที อย่างเข่นซีรีส์ Civilization เป็นต้น

“ตาท้าย ๆ” เป็นประโยคที่แทบจะไม่มีอยู่จริง เมื่อคุณเล่นเกมกับเพื่อน

จากประสบการณ์ของผู้เขียน การเล่นเกมเพลินจนลืมเวลานั้นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่ได้วางแผนในเรื่องของการใช้ชีวิต

เพราะเราจะไม่รู้กรอบของเวลาที่เหมาะสมในการเล่นเกมว่าควรเลิกตอนไหน หรือจะไปพักเมื่อไหร่ ปล่อยให้ชีวิตถูกแทรกแซงด้วยสิ่งเร้าต่าง ๆ จนลืมเป้าหมายที่จะทำไปได้อย่างง่ายดาย และนั่นไม่ใช่เรื่องดีแม้แต่นิดเดียว

ซึ่งหลายคนก็ประสบปัญหาในเรื่องของการจัดการเวลาไม่เว้นแม้แต่บุคคลในวงการเกมเอง เช่นคุณ Anthony Vongsavath อดีตรองประธานฝ่ายข้อมูลและระบบของ UTA eSports กลุ่มคนเล่นเกมผู้จัดงาน LAN Tournament ขนาดเล็กก็เคยบอกว่า เขาต้องเลิกเล่นเกมอย่าง League of Legends เพราะยิ่งเขาเล่นมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งส่งผลลบต่อชีวิตของเขามากขึ้น จนทำให้ผลการเรียนและสุขภาพย่ำแย่ลง

จริงอยู่ที่เราอาจจะบอกได้ว่าเรื่องนี้เกิดจากระบบของเกมที่ถูกออกแบบมาให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกติดพันจนไม่อยากเลิก มีการให้รางวัลสำหรับผู้เล่นที่ฟันฝ่าอุปสรรค ไต่อันดับต่อสู้กับผู้เล่นอื่น ๆ ทั่วโลกอย่างไม่ลดละ และสิ่งที่ต้องแลกมากก็คือเวลานั่นแหละ แม้ทุกวันนี้หลายเกมจะมีตัวเลือกให้ผู้เล่นได้ประหยัดเวลาในการเล่นลง แค่จ่ายเงินเพิ่มนิดหน่อย แต่หลายเกมในแบบออนไลน์นั้นก็ยังคงให้ผู้เล่นต้องเล่นกันแบบติดหนึบนั่งยาว ๆ กันเสียมากกว่า

ฉะนั้นวิธีแก้เราควรเริ่มจากอะไรดี?

ซึ่งเรื่องที่ง่ายที่สุดในการจัดการก็คือ “ตัวของเราเอง” การกำหนดเวลา สำรวจตัวเองว่าวันหนึ่ง ๆ เราใช้เวลาไปกับอะไรบ้าง และใช้เวลาในการเล่นเกมไปเท่าไหร่ นอนพอหรือไม่ ทานอาหารครบไหม ถ้ามากไปก็ต้องลดลงมา และลำดับความสำคัญในชีวิตว่ามีอะไรที่สำคัญกว่าการเล่นเกมที่ต้องจัดการในแต่ละวันบ้าง(เรียน, งาน หรือมิตรสหายรอบตัว) และเมื่อจัดการกับเวลาและลำดับความสำคัญได้ ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นทันที

มาถึงจุดนี้ ทุกคนก็น่าจะเข้าใจกันขึ้นมาบ้างแล้ว ว่าวิดีโอเกมนั้นก็เหมือนกับงานอดิเรกหย่อนใจชนิดอื่น ๆ ที่ต้องมีการจัดการให้เป็นระบบระเบียบ หรือบางคนอาจจะเห็นว่าการเล่นวิดีโอเกมก็เหมือนกับการทำงาน อย่างเช่นนักกีฬา ESports หรือนักพัฒนาเกมที่ต้องอยู่คลุกคลีกับมันจนแทบจะแยกกันไม่ออก และคุณประโยชน์ของการแบ่งเวลาในการใช้ชีวิตหรือการเล่นเกมนั้นเป็นสิ่งที่ควรใส่ใจอย่างมาก เพราะมันเป็นการพิสูจน์ว่า ตัวของเรานั้นเป็นบุคคลที่มีคุณภาพมากพอหรือยัง จากการแบ่งเวลาในการใช้ชีวิตที่ดีนั่นเอง

ดังนั้นเมื่อรู้ว่าเรื่องที่ง่ายที่สุดคืออะไร เราก็เริ่มต้นจากจุดนั้นได้ทันที

กุมารแพทย์และผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตเวชส่วนใหญ่นั้นมักแนะนำกันว่า พ่อแม่ผู้ปกครองควรมีการกำหนดเวลาและสั่งสอนบุตรหลานในการเล่นเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการกำหนดเงื่อนไขในเรื่องของเวลา เช่นให้เล่นได้เฉพาะหลังจากทำการบ้านหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ เป็นการทดแทนไปก่อน เป็นต้น หรืออย่างนักกีฬาเอง หลังจากการฝึกซ้อมที่ยาวนาน ถ้าหากไม่ใช่ช่วงใกล้งานแข่งขันใหญ่ โค้ชผู้คุมทีมก็อาจจะจัดโปรแกรมให้นักกีฬาไปทำกิจกรรมอื่นที่ไม่ใช่การเล่นเกมด้วยก็ได้เช่นกัน

ซึ่งถ้าหากทำกันได้ เชื่อเถอะว่าผลลัพธ์ที่ออกมานั้นดีกว่าที่เราคิดมาก สำหรับผู้เขียนเองเมื่อสามารถแบ่งเวลาและ Life Balance ระหว่างเรื่องงาน การพักผ่อนและการเล่นเกมได้ เราจะรู้สึกว่ามีเวลาเหลือในการใช้ชีวิตเยอะขึ้น และสามารถนำเวลาเหล่านี้ไปใช้เพื่อการพัฒนาตัวเองหรือสานสัมพันธ์กับคนที่รักได้ต่อไป

สุดท้ายนี้ผู้เขียนเองก็ทราบดีว่าการที่จะแบ่งเวลาให้ได้สมบรูณ์แบบนั้นเป็นไปได้ยากหรืออาจเป็นไปไม่ได้เลยโดยเฉพาะในยุคที่เราต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบนี้ แต่อย่างน้อยสิ่งที่ควรทำก่อนก็คือการสำรวจตัวเองว่าในวันหนึ่ง ๆ เราทำอะไรบ้างอย่างที่บอกไป เมื่อเรารู้ว่าตัวเองทำอะไรและมีปัญหาตรงไหน เราก็สามารถหาวิธีรับมือกับมันได้ แม้อาจจะไม่ดีมากนัก แต่ก็น่าจะเบาบางลงไปได้แน่ ๆ

เพราะแม้เวลาที่มีจะถูกจำกัด แต่ถ้าหากมีการจัดการ ความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีอย่างมากจะเกิดขึ้นแน่นอนครับ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง: Gaming conflicts with time management

Putinart Wongprajan

เค้ก - Content Writer

Back to top