BY StolenHeart
26 Feb 19 11:33 am

ย้อนวัยนักเรียนนักเลง กับสารพัดเกมจาก Kunio Kun

119 Views

วันนี้เรากลับมาย้อนเวลาไปสู่อดีตอันแสนหวานอีกครั้งกัน สำหรับเกมเมอร์เด็กหนวดอายุเยอะ ๆ แบบผู้เขียน มีซีรีส์หนึ่งที่เชื่อว่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจเหล่าเด็กผู้ชายวัยรุ่นเลือดร้อนอย่างมาก ซึ่งเกริ่นมาแค่นี้ทุกคนน่าจะร้องอ๋อกันแล้ว และจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากซีรีส์ Kunio นั่นเอง

ช่วงปี 1989 เป็นช่วงที่เครื่อง NES หรือที่บ้านเรารู้จักกันในชื่อ Famicom ที่มาจากประเทศญี่ปุ่น ยุคนั้นเรามีเกมมากมายหลากหลายให้เล่นกันเพียบไปหมดอย่าง Contra, Ghost n’ Goblin และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเกมที่ดูแล้วน่าจะเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย แต่ซีรีส์ Kunio นั้นฉีกตัวเองแตกต่างออกไป โดยการมาในธีมสไตล์นักเรียนนักเลงนั้นเป็นอะไรที่ประทับใจใครหลายคน แถมยังมีระบบการเล่นที่เข้าถึงได้ง่ายอีกด้วย

โดยภาคแรกของซีรีส์นั้นเปิดให้เล่นบนระบบอาร์เคดในปี 1986 โดยเป็นผลงานของค่าย Technos Japan โดยมีชื่อว่า Nekketsu Kōha Kunio-kun และพอร์ทมาลงในเครื่อง Famicom ในปี 1987 ซึ่งในภาคแรกนั้นตัวละครจะยังดูสมส่วน แขนขายาวอยู่ แต่ก็มีระบบการเล่นที่เข้าใจได้ไม่ยาก แค่เตะต่อยปราบศัตรูตามทางให้หมด และยังมีฉากขับขี่มอเตอร์ไซด์ไล่ล่ากันบนท้องถนน ซึ่งถือเป็นเกมที่มีความสนุกอยู่ในระดับที่โอเค ก่อนที่หลังจากนั้นจะมีคู่แข่งออกมาประชันอย่างมากมายเช่น Double Dragon หรือ Teenage Mutant Ninja Turtle แถมตัวเกมเองยังมีความยาวที่สั้นมากในระดับที่ว่าเล่นแค่ 15 นาทีจบอีกด้วย

เวลาต่อมาในปี 1988 ทาง Technos ก็ออกภาคใหม่ของซีรีส์ออกมา แต่คราวนี้ไม่ใช่เกมเดินลุยอีกแล้ว แต่เป็นเกมกีฬา Dodge Ball แทน โดยมีชื่อว่า Nekketsu Kōkō Dodgeball Bu ซึ่งกติกาของ Dodge Ball ก็คือการโยนบอลอัดฝ่ายตรงข้ามให้รับไม่ได้จนต้องออกจากสนามไป และความเวอร์มันก็อยู่ที่ตัวละครแต่ละตัวก็จะเป็นพวกนักเรียนนักเลงที่มีทักษะในการต่อยตีมากกว่าทางกีฬา ตัวเกมเลยเน้นการปาบอลอัดใส่ฝ่ายตรงข้ามมากเป็นพิเศษ และที่สำคัญคือมีการใช้ท่าไม้ตายโจมตีใส่กันอีกด้วย ซึ่งไม่เคยมีเกมไหนทำมาก่อน(แต่ในหนังสือการ์ตูนนั้นทำมาหลายเรื่องแล้ว และได้รับความนิยมมากเสียด้วย) ทำให้ชาวไทยหลายคนเริ่มรู้จักเกมในชื่อ Kunio มากขึ้นเรื่อย ๆ

จนในปี 1989 Kunio ในสไตล์เดินลุยด่านกลับมาอีกครั้งในชื่อว่า Downtown Nekketsu Monogatari หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า River City Ransom ซึ่งในภาคนี้ตัวเอกก็ยังคงเป็น Kunio อยู่เช่นเดิม แต่เพิ่มตัวละครเพื่อนคนใหม่ในชื่อ Riki เข้าไปด้วยในฐานะผู้เล่นคนที่สอง โดยตัวเกมได้ถูกปรับลดความยากและเพิ่มรูปแบบการเคลื่อนไหวให้คล่องตัวมากขึ้น รวมไปถึงการปรับรูปร่างของตัวละครให้เป็น SD หรือแบบหัวโตตัวเล็ก ในแบบที่แฟนเกมคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนั่นเอง และแน่นอนว่าภาคนี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในญี่ปุ่นและบ้านเรา จนทำให้ชื่อ Kunio เริ่มติดหูผู้เล่นในไทยกันมากขึ้น

และก็มาถึงภาคที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยที่สุด กับ Downtown Nekketsu Kōshinkyoku: Soreyuke Daiundōkai ที่ซึ่งเป็นภาคที่รวบรวมเอาความสนุกเกือบทุกอย่างของเกมเอาไว้ โดยในภาคนี้จะไม่ใช่การเดินหน้าลุยแบบธรรมดา ๆ แต่จะเป็นการลุยในรูปแบบของกีฬาสี มีการว่างมาราธอนวิบาก ที่ผู้เล่นสามารถหยิบเอาอาวุธอะไรก็ได้ในฉากมาตีใส่กัน แถมแต่ละตัวละครต่างก็มีท่าไม้ตายเป็นของตัวเอง เอาไว้ช่วยให้เล่นได้สะดวกมากขึ้น (แม้บางท่าจะขี้โกงมากก็ตาม) และยังมีโหมดการเล่นอีกสองโหมดตีลูกบอลให้แตก และประลองกำลังแบบ Battle Royale จัดเป็นเกม Party ที่หลายคนชื่นชอบและทำให้อยากได้หัวแปลงจอยให้เล่นพร้อมกันได้สี่คนกันเลยทีเดียว

หลังจากนั้นเกม Kunio ก็มีภาคต่อออกมาอีกมากมาย ทั้งแบบเดินลุยด่านและกีฬาหลายชนิดทั้งฟุตบอล ฮอกกี้ กรีฑา และอีกมากมาย และในยุคเครื่อง Super Famicom ทาง Technos ก็ยังคงส่งเกม Kunio มาให้พวกเราได้เล่นกันอย่างต่อเนื่องในชื่อ Shodai Nekketsu Kōha Kunio-kun ที่คราวนี้มีเนื้อเรื่องในโทนที่จริงจังมากขึ้น และระบบการต่อสู้ที่พัฒนามาจากเครื่อง Famicom อย่างมาก ทั้งการออกท่าไม้ตายที่หลากหลายมากขึ้น หรือเนื้อเรื่องที่เข้มข้นยิ่งกว่าเก่า ทำให้ภาคนี้เป็นที่ประทับใจของแฟนรุ่นใหม่รุ่นเก่าไม่น้อยทีเดียว ถึงแม้จะมีบางส่วนที่อยากให้เกมแปลงตัวละครกลับไปเป็นแบบตัวจิ๋ว SD ก็ตาม

แต่แม้จะมีคนให้ความสนใจและรู้จักเจ้า Kunio และผองเพื่อนกันอยู่มากมาย แต่สถานการณ์ของผู้พัฒนาอย่าง Technos Japan นั้นไม่ได้ดีอย่างที่คิด ตัวเกมมียอดขายในแต่ละภาคที่ไม่ได้ดีมากนักเมื่อเทียบกับเกมในตำนานเกมอื่น ๆ จนทำให้บริษัทประสบปัญหาขาดทุนในช่วงหลังจากปี 2000 เป็นต้นมา จนในที่สุดก็ต้องขายสินทรัพย์ให้กับบริษัท Million Co., Ltd ในอเมริกา ซึ่งพวกเขาก็ได้ทำเกม Kunio ส่งลงให้กับเครื่อง Gameboy Advance แต่ก็ยังคงไม่ได้รับความนิยมเช่นเดิม และในปัจจุบันนี้ ลิขสิทธิ์ในซีรีส์นี้ก็ตกเป็นของ Arc System Works ที่ได้พัฒนาเกมในภาครวมกีฬากลับมาวางจำหน่ายใหม่อีกครั้งบนคอนโซลรุ่นใหม่และ PC และยังคงมีแผนในการส่งเกม Kunio ภาคใหม่มาให้เราเห็นกันอยู่เรื่อย ๆ

แต่อนาคตก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แม้ Kunio จะเป็นซีรีส์เกมที่ได้รีบความนิยมมากในอดีต แต่ในปัจจุบันนี้ก็เป็นเกมที่น่าจะมีแต่แฟนเกมยุคเก่าหรือเกมเมอร์รุ่นใหม่ที่สนใจในเกมย้อนยุคเท่านั้นที่ให้ความสนใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคก่อนปี 2000 นั้น Kunio ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักของผู้เล่นเกมชาวไทยแทบจะทุกคนกันเลยทีเดียว ต้องมาดูกันว่า Arc System Works นั้นมีแผนการอย่างไรในการคืนชีพซีรีส์นี้ให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งได้อย่างไรกันครับ

SHARE

Putinart Wongprajan

เค้ก - Content Writer

Back to top