BY Nattapit Arsirawatvanit
28 Feb 22 12:53 pm

Uncharted กับเวลาที่ล่วงไป 10 ปี ก่อนจะได้ออกฉายจริง

9 Views

แม้ว่าภาพยนตร์จะเข้าฉายไปหลายวันแล้ว แต่เรายังขอเกาะติดกับ Uncharted อีกสักหนึ่งบทความ เพื่อเป็นการสรุปไทม์ไลน์ทั้งหมดของมหากาพย์หนังจากเกมอีกเรื่องที่เป็นกระแสอย่างมาก

วันนี้เลยจะพาไปย้อนดูถึงจุดเริ่มต้นว่ากว่าจะมาเป็นหนังเรื่องนี้มันยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหน โดยจะไล่เป็นปี ๆ ตามไทม์ไลน์เพื่อให้เข้าใจง่ายที่สุด

ปี 2005

ก่อนอื่นต้องพูดถึงชื่อเสียงเรียงนามของ Uncharted ก่อน เกมนี้เป็นเกมเพลย์สเตชั่นประเภทแอ๊คชั่น-ผจญภัยของค่ายคุณภาพอย่าง Naughty Dog ที่ได้รางวัลทั้ง Game of the Year และรางวัลอื่นๆมาจากหลายๆเวที ซึ่งเริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2005 และได้ launch ให้โลกได้รู้จัก ในปี 2007 โดยเป็นเกมที่ว่าด้วยเรื่องราวการล่าสมบัติของ Nathan Drake

ปี 2008

ทีนี้พอเกมดังและได้รางวัลเกมแห่งปีตั้งแต่ภาคแรก (Uncharted: Drake’s Fortune) ค่ายก็ไม่รอช้าที่จะเข็นภาคต่อ และพร้อมกันนั้น Avi Arad ผู้เป็นโปรดิวเซอร์หนังฮีโร่ชื่อดังที่เราเคยดูกันตั้งแต่ X-men, The Punisher, Hulk, Daredevil, Fantastic Four และอีกมากมายก็ได้ร่วมกับ Sony ในการดัดแปลงเกมๆนี้ให้กลายเป็นหนังฉายโรงหรือฉบับคนแสดง (live-action)

ซึ่งพอมีข่าวดังนั้นนักข่าวก็ไปถาม Richard Lemarchand ที่เป็นหัวเรือของแผนกเกมดีไซน์ว่าอยากเห็นหนังดัดแปลงจากเกมของเขาหรือไม่ เขาตอบกลับว่า “โนคอมเม้นต์แล้วกัน”

ปี 2009

มีการยืนยันว่าหนังถูกพัฒนาเป็นรูปเป็นร่างประมาณนึงแล้วจากการพัฒนาในระยะเวลา 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา ซึ่งนักแสดงซีรีส์ชื่อดังในขณะนั้นอย่าง Nathan Fillion พระเอกซีรีส์ Firefly และ Serenity ก็แสดงความสนใจอยากจะเล่นเป็น Nathan Drake (แถมชื่อเหมือนกันอีก) เลยไปหาพวกในทวิตเตอร์เพื่อให้ค่ายตอบรับความสนใจนี้ แต่จากตอนแรกๆที่มีคนบอกว่า “เอาสิ” “คนนี้เหมาะนะ” ภายหลังก็เงียบหายไปเฉยเลย

ปี 2010

ค่าย Columbia Pictures ประกาศว่า David O. Russell ผู้กำกับหนังต่อยมวยดราม่าน้ำดีอย่าง The Fighter คือผู้กำกับที่ได้รับมอบหมายให้เขียนบทและกำกับ โดยมีนาย Avi Arad คนเดิม กับโปรดิวเซอร์อีกสองคนคือ Charles Roven และ Alex Gartner เป็นผู้ดูแลโปรเจ็คต์นี้ (ฟังดูเป็นรูปเป็นร่างแล้ว)

หลังจากนั้นก็มีแฟนๆไปถามว่า จะให้พี่ Nathan Fillion มาเล่นมั้ย มีแต่คนหนุนแกนะ แต่ David O. Russell ไม่ซื้อ ซึ่ง Nathan Fillion แม้จะเฟลแต่เขาก็อยากรับบทนี้จริงๆ หนังสั้นก็เอา จึงได้ไปรับบทเป็น Nathan Drake ในหนังสั้นบทยูทูปแทน หนังสั้นเรื่องนี้มียอดวิวเยอะถึง 10 ล้าน ไปหาดูกันได้ และต้องบอกว่านักแสดงคนนี้ในบทนี้ถือว่าไม่ขี้เหร่เลยทีเดียว

ส่วนนักแสดงที่จะมารับบท Nathan Drake ที่ David เล็งไว้แล้วคือพี่ Mark Wahlberg เนี่ยแหละ แถมยังจะได้ Robert De Niro มารับบทเป็นพ่อ และมี Joe Pesci มารับบทเป็นลุงอีกด้วย แต่ถ้าถามว่าโอเคมั้ยพี่ Mark ไม่ได้ติดอะไร แค่คิดว่าหนังมันดูบรรยากาศมาเฟียๆชอบกล

ปี 2011 

David O. Russell ถอนตัวจากโปรเจ็คต์โดยไม่ทราบสาเหตุราวๆช่วงกลางปีเพื่อไปกำกับ Silver Linings Playbook ทำให้ Neil Burger จากหนังบูสต์พลังสมองด้วยยาอย่าง Limitless มาเสียบแทนโดยทำการเริ่มเขียนบทใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้นแบบไม่มีเค้าโครงของบทเก่าอยู่เลย

ปี 2012

ให้ทายครับว่าเกิดอะไรขึ้น ใช่แล้ว Neil Burger ถ้นตัวจากโปรเจ็คต์เพื่อไปทำหนัง Divergent ซึ่งแม้หนังจะมีความลุ่มๆดอนๆแต่ก็ถือว่าเดาคิดถูก ทางสตูดิโอก็เลยจ้างสองสามีภรรยา Cormac กับ Marianne Wibberley ที่เคยมีผลงานก่อนหน้าซึ่งก็คือหนังล่าสมบัติสนุกๆแนวเดียวกันอย่าง National Treasure มาเขียนบทใหม่ทั้งหมดอีกรอบ

คู่หูคู่ทำหนังฮาอย่าง Seth Rogen กับ Even Goldberg เองก็เคยถูกขอให้มาเขียนบทแต่พวกเขาปฏิเสธไป

ปี 2014

ไม่ต้องเดากันแล้ว เรียกได้ว่าถึงจุดนี้คือเปลี่ยนแปลงจนเป็นกิจวัตร บทสองคนนี้ไม่ได้ถูกใช้แต่สตูสนใจบทของ David Guggenheim คนเขียนบท Designated Survivor แทน จึงดึงตัว Seth Gordon ที่ภายหลังเป็นผู้กำกับ Baywatch มารับหน้าที่กำกับ

ปี 2015

จากที่จะถ่ายทำอยู่รำไรอยู่แล้วและมีการวางกำหนดฉายปี 2016 จู่ๆบทเดิมก็ถูกดร็อปไป Mark Boal จาก Zero Dark Thirty และ The Hurt Locker ถูกเชิญมาเขียนบทอีกเวอร์ชั่นที่พัฒนามาจากบทเดิมของ Guggenheim แต่ยังไม่ทันไร Seth Gordon ก็ถอนตัวไปกำกับ Baywatch แถมนักแสดงที่ถูกเล็งไว้ตอนนั้นอย่าง Chris Pratt ก็ปฏิเสธบทนี้อีก สรุปคือตอนนี้เหลือแค่คนเขียนบทคนใหม่ที่ร้องเพลงว่า ‘ฉันมาทำอะไรที่นี่’ แต่ถึงกระนั้นว่ากันว่าบทเวอร์ชั่นนี้สนุกและน่าตื่นเต้นมากๆ ที่สำคัญคือเข้าท่าพอที่จะเอาไปสร้างแล้ว

แต่ดันมาเจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ตอนนั้นที่ Sony โดนแฮ็กครั้งใหญ่หากใครจำได้ บท Uncharted ที่เริ่มจะเข้าท่าขึ้นมาและดูทรงจะได้เอาไปใช้ถ่ายทำแน่ๆแล้วคือหนึ่งในนั้น ทำให้ทุกคนรู้เนื้อเรื่องหมดเลย หนังจึงถูกเลื่อนไปฉาย 2017 แทนจากเดิมที่จะฉาย 2016 เพราะต้องทำการปรับเปลี่ยนบทใหม่ ส่วนในปีเดียวกันนั้น Nolan North คนที่ให้เสียงเป็น Nathan Drake ให้สัมภาษณ์ถึงความเห็นที่มีต่อหนังที่ไม่ได้สร้างซักทีเรื่องนี้ว่า “แฟนๆไม่ต้องการหนัง Uncharted หรอก”

ปี 2016

Joe Carnahan คนเขียนบทหนัง The A-Team มารับหน้าท่ีเขียนบทใหม่ให้กับหนังเรื่องนี้ ซึ่งในอีกไม่กี่เดือนต่อมา ด้วยความที่ยังไม่มีผู้กำกับและนักแสดงเลย มีแต่คนเขียนบทอีกเช่นเคย หนัง Uncharted ถูกลบออกจากตารางการฉายเหมือนถูก Thanos ดีดนิ้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าค่าย Sony ยอมแพ้กับหนังเรื่องนี้

หนึ่งเดือนหลังจากลบกำหนดฉายออก Shawn Levy หนึ่งในผู้สร้างซีรีส์ Stranger Things และยังเป็นผู้กำกับหนังสนุกๆอย่าง Night at the Museum ถูกประกาศชื่อให้เป็นผู้กำกับหนังเรื่องนี้ ซึ่ง Joe Carnahan บอกว่าเขากับ Shawn Levy ทั้งคู่ต่างก็เป็นแฟนเกมและรู้และเข้าใจเนื้อเรื่องเกมอย่างทะลุปรุโปร่ง ทำให้เข้าใจดีว่าหนังเรื่องนี้ต้องการอะไร ต้องหยิบวัตถุดิบอะไรมาใช้ และเล่าเรื่องยังไงด้วยเนื้อเรื่องแบบไหน พร้อมกับสัญญาว่าจะให้ตัวละครออกมาเที่ยงตรงกับเกมที่สุด

ปี 2017

เป็นกำหนดการเริ่มถ่ายทำของหนัง Uncharted เวอร์ชั่นซูเปอร์พร้อม ด้วยการยืนยันจากนาย Joe Carnahan ที่โพสต์บทลงไอจีว่าบทเสร็จแล้วนะและหนังเรื่องนี้จะเป็น prequel หรือภาคก่อนหน้าของเกม และในช่วงเวลาหลายเดือนต่อมาก็มีการประกาศว่านักแสดงสุดฮ็อตจากหนัง Marvel อย่าง Tom Holland จะมารับบทเป็น Nathan Drake ตอนวัยรุ่น

แต่จะได้สร้างง่ายๆก็ไม่ใช่นิสัยของ Uncharted เพราะจู่ๆไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดปัญหาอะไร จู่ๆ Rafe Judkins คนเขียนบทซีรีส์ Wheel of Time ของ Amazon Prime (ที่สนุกแบบบครึ่งๆกลางๆ) ก็ถูกจ้างมาเขียนบทต่ออีกที และ Shawn Levy ถอนตัวไปทำหนัง Free Guy ซึ่งเป็นหนังเรื่องนึงที่สนุก ดูง่าย และคนชอบกันมาก (ดูเหมือนคนที่ถอนตัวไปจากโปรเจ็คต์นี้เพื่อไปทำเรื่องอื่นจะตัดสินใจถูกหมดเลยแฮะ อารมณ์เหมือนแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้วหน้าตาดีขึ้นกับแต่งตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ได้ดีกว่าเดิม และไม่มีวันจะรีเทิร์นกันอีก)

ปี 2019

ไทม์สคิปกันเลยทีเดียว หลังจากการห่างหายไปเป็นปีและไม่มีวี่แววยิ่งกว่าขุมทรัพย์ในเกมที่ต้องตามหาโดยไม่มีลายแทง Dan Trachtenberg ผู้กำกับ 10 Cloverfield Lane กับซีรีส์ The Boys และ Black Mirror ถูกประกาศชื่อให้เป็นผู้กำกับหนังเรื่องนี้ พร้อมวางกำหนดฉายคือปี 2020 แต่นั่นแหละครับ ต่อราวๆ 7-8 เดือน Dan Trachtenberg ก็ถอนตัว

แต่ Sony ยังไม่ยอมแพ้ ยังไงหนังเรื่องนี้ก็จะต้องเกิดขึ้นในนามของหนังเรื่องแรกของ PlayStation Productions และยังไงก็จะต้องฉาย 2020 ให้ได้ ฉะนั้นแม้จะยังไม่มีอะไรเป็นรูปเป็นร่างและยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะใช้บทนี้หรือบทอื่น Sonyก็ยังเช็นวันถ่ายทำเป็นต้นปี 2020 ซึ่งก็คืออีกไม่กี่เดือนจากตอนนั้น

อีกหนึ่งเดือนต่อมาทางค่ายไม่รอช้าที่จะเปิดตัวผู้กำกับคนใหม่ Travis Knight ผู้กำกับหนัง Bumblebee และ Kubo and the Two Strings โดยได้ Mark Wahlberg กลับมาอีกครั้ง แต่เนื่องจากมีน้อง Tom แล้ว ดาราที่เคยเกือบจะได้เป็น Nathan Drake จึงมารับบทเป็น Victor Sullivan แทน แต่แล้วแค่ 2 เดือนหลังประกาศ Travis Knight ก็ถอนตัวอีกเพราะตารางการถ่ายทำไม่ตรงกันกับ Tom Holland สุดท้ายกลายเป็นต้องเลื่อนฉายไปตามระเบียบ

ปี 2020

Ruben Fleischer ผู้กำกับ Venom และ Zombieland เข้าไปเจรจาเพื่อมาแทน Travis Knight ในตำแหน่งผู้กำกับ ส่วนหนังก็ถูกเลื่อนไปฉายช่วงต้นปี 2021 แทน และแม้จะบอกว่าเป็นหนัง prequel ของเกมแต่ Sony ก็ต้องการให้หนังได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Uncharted 4: A Thief’s End ซึ่งเป็นเกมภาคที่หลายคนชมว่ายอดเยี่ยมมาก จึงได้จ้างคนเขียนบทเพิ่มอีก 4-5 คน ทำให้รวมๆหนังที่ปล่อยออกมามีคนเขียนบทรวมกันทั้งสิ้น 6 คนด้วยกัน และไม่มีคนไหนเป็นคนที่ได้พูดชื่อไปในก่อนหน้านี้เลย

หนังได้เดินหน้าจริงๆซะทีและทะลุไปถึงขั้นตอนการถ่ายทำจนได้ แต่ถ่ายไปได้ไม่เท่าไหร่ก็เจอกับสถานการณ์โควิด ทำให้ต้องหยุดพักไป 3-4 เดือน จากนั้นพอกลับมาถ่ายต่อ Antonio Banderas หนึ่งในนักแสดงหลักติดโควิดทำให้ต้องหยุดพักกันอีกรอบ จนในที่สุดก็กลับมาถ่ายต่อและถ่ายทำเสร็จสิ้นจนได้ แต่ก็ยังไม่จบ ต้องมารีชู๊ตอีกในปี 2021 เพราะยังมีเวลาก่อนหนังฉาย

และในปี 2022

อย่างนึงที่พูดได้คือนับถือความพยายาม Sony จริงๆ หนังเรื่องนี้คือการวิ่งมาราธอนที่แท้ทรู ถ้าถอดใจก่อนก็คงเลิกวิ่งและไม่ได้ถึงเส้นชัยไปแล้ว

หลังจากได้ผ่านมรสุมมากมายในช่วงเวลา 10 กว่าปีมานี้จนเกือบไม่ได้สร้างหลายรอบ เปลี่ยนผู้กำกับแล้วเปลี่ยนผู้กำกับอีก เปลี่ยนคนเขียนบทแล้วเปลี่ยนคนเขียนอีก ในที่สุดหนัง Uncharted ก็ได้ฉายเสียที แม้จะทำคะแนนไปได้ไม่สวยเท่าไหร่นัก แต่ในส่วนของผู้ชม Uncharted คือหนังจากเกมที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม

แม้หนังจะถูกล้อว่ามีโทนเหมือน National Treasure กับหนังล่าสมบัติทั่วไปมากกว่า Uncahrted แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่อยากบอกก็คือ มีเพียงเราเท่านั้นที่จะให้คำตอบของคำถามเหล่านั้นได้ เราอาจจะเห็นด้วยกับคะแนนจากนักวิจารณ์ หรือจะเห็นด้วยกับเสียงจากผู้ชมก็ได้นะ

#WatchGame คอลัมน์วิเคราะห์วิจารณ์หนังซีรีส์ที่สร้างจากเกมโดย Watchman

SHARE

Nattapit Arsirawatvanit

มาร์ค - Senior Content Writer

Back to top