BY Aisoon Srikum
4 Jul 25 4:30 pm

เนื้อเรื่อง Reverse: 1999 แปลไทย เวอร์ชัน 2.7 1987 เพลงโหมโรงแห่งจักรวาล ตอนที่ 1 – How to Find Shelter (ภารกิจหาที่พักพิง)

256 Views

จักรวาลนั้น ห่างไกลจากความไร้เดียงสา


 

???: สูดหายใจเข้าลึก ๆ ผ่อนคลายเข้าไว้ นี่ผลงานเปิดตัวของฉัน จะพลาดไม่ได้ ไม่ใช่ตอนนี้ ฉันต้องทำเพื่อคุณและคุณนาย Kozlov และเพื่อทุกคนในคณะ ฉันต้องทำให้พวกเขาภูมิใจ

คุณนาย Kozlov บอกว่าฉันต้องทำให้ลมหายใจไหลผ่านร่างกายของฉันจนกว่าจะพบจุดสมดุล ซ้าย… ขวา… เยี่ยม ทีนี้ก็โบกมือทักทายผู้ชม โอ๊ะ ไม่นะ! ฉันทำได้ ใกล้แล้ว

ตั้งหลักไว้ หาจุดยืนของตัวเองบนลวดเส้นเล็กนี่ มันอยู่ที่นั่นด้วยเหรอ? ฉันเอาอยู่ ก่อนอื่นฉันต้อง…  ฉัน… ไม่มีทิศทางที่แน่นอน จะขึ้นหรือลง มันอยู่ที่เราเลือก

ฉันคิดว่าเธอมีสิทธิ์จะรู้ว่าจริง ๆ แล้ว “พายุ” คืออะไร เราต้องผ่านปี 1999 ไปให้ได้

???: Alia กลับบ้านกันเถอะ


 

สถานที่: Medical Ward, Cosmodrome

???: Kiperina สัญญาณชีพคงที่ ไบโอเมตริกส์กลับมาเป็นปกติ

นักวิจัยของ Laplace ยังคงไม่อาจสลัดความเหนื่อยล้าจากการเดินทางของเธอได้ แพทย์กำลังตรวจเธออย่างใกล้ชิด โดยพิจารณาอารมณ์ของเธอ ขณะกำลังอธิบายสถานการณ์ปัจจุบัน

Medical Staff Member: ได้ยินว่าคุณออกไปแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะกลับมาเร็วขนาดนี้นะ เห็นชัดเลยนะว่าเป็นห่วงพวกเขา คงรู้นะว่าต้องทำยังไงตอนพวกเขาตื่นขึ้นมา คุณ Pointer

Pointer พยักหน้า เธอจ้องตาและสแกนหน้าจอที่กะพริบอยู่ข้างเตียง

Medical Staff Member: เธอไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงอะไร คุณ Kiperina ต้องพักผ่อนหน่อยเท่านั้นแหละ แต่ถ้าจะพิจารณาอาการของเธอ ฉันแนะนำให้เธออยู่ต่ออีกสัก 2-3 วัน เพื่อสังเกตอาการ

Pointer ไม่ตอบอะไร หลังจากเงียบไปนาน เธอก็เอ่ยปากพูด

Pointer: ขอบคุณนะ แล้วคนอื่น ๆ เป็นไงบ้าง?

Medical Staff Member: คุณ Hissabeth สบายดี เธอตื่นขึ้นมาก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที เธอลงชื่อไว้ในใบผู้บริจาค และชวนให้พี่น้องเธอมาร่วมลงชื่อด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าจะทำอะไรกับมันได้บ้าง สุภาพบุรุษคนนั้นกับเจ้าซาลาแมนเดอร์ตัวน้อยก็คงทำแบบเดียวกันตอนพวกเขาตื่นขึ้นมา แต่นั่นไม่น่ากังวลเท่าไร ฉันเคยเจอคนบ้าหลายคนก็เป็นแบบนี้ ปัญหาจริง ๆ คือการตัดสินใจเลือกวิธีรับการรักษา มีหลายเรื่องให้ต้องระวังตอนเจอผู้ป่วยพิเศษเหล่านี้ ทั้งขนาดยา อาการดื้อยา และฉันไม่ใช่สัตวแพทย์นะ รู้ใช่ไหม? ฉันต้องไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ ฉันไม่ได้ตั้งใจ แต่ดีใจที่คุณไม่ได้จะเอาด้วย ไม่งั้นฉันอาจต้องรับมือเรื่องทั้งหมดนี่ด้วยตัวเอง

Pointer หันหน้าหนีไปจากเตียงและจ้องมองไปที่พนักงานคนนั้น

Pointer: ฉันอาจไม่เห็นด้วยกับการที่พวกเขาทำโปรเจกต์นี้ แต่ฉันก็ยังเป็นสมาชิกของทีม เฮ้อ สถาบันน่าจะวางกฎระเบียบให้เยอะกว่านี้ เพื่อควบคุมตอนเจ้าหน้าที่ประมาทเลินเล่อจนส่งผลต่อชีวิตของพวกเขา

Medical Staff Member: นั่นสิ น่าจะพิจารณาควบคุมการใช้งานและเข้าถึง Picrasma Candy บ้าง

Pointer: ช่างมันเถอะ บางครั้งฉันก็ช่วยเกินปริมาณยาที่แนะนำไม่ได้หรอกนะ

Medical Staff Member: ฉันจะไปรายงานที่สำนักงานใหญ่ของศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพเดือนหน้า แล้วเดี๋ยวฉันจะแจ้งปริมาณยาโดยเฉลี่ยอีกทีแล้วกัน แต่ยังไงซะฉันก็ต้องเขียนตารางเยี่ยมผู้ป่วย เอาให้แน่ใจว่าผู้ป่วยได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ

เสียงเคาะประตูดังขึ้น เห็นชัดเลยว่าการจัดการตารางเวลาให้เหมาะสม มีความจำเป็นมากจริง ๆ

???: เธอเป็นยังไงบ้าง? ฉันเพิ่งมาจากอีกวอร์ด เลยแวะมาซะหน่อย

แม้น้ำเสียงนี้จะฟังดูสุภาพและอบอุ่น แต่ก็ทำให้คนในห้องตกใจไม่น้อย

Pointer: สวัสดี คุณ Windsong

Medical Staff Member: อาการคงที่แล้ว เรากำลังติดตามผลการฟื้นตัวของเธอค่ะ แต่เบื้องต้นก็คือเป็นไปในทางที่ดี คงยังบอกไม่ได้ ว่าจะได้สติเมื่อไร แต่คิดว่าคงไม่นานเกิน 1 สัปดาห์

Windsong: ข่าวดีนี่นา ฉันจะแวะมาเป็นช่วง ๆ แล้วกัน ถ้ามันรบกวนเกินไปก็บอกฉันนะ

Medical Staff Member: คุณจะมาตอนไหนก็ได้เลยค่ะ แต่ห้องแยกโรคเป็นห้องเก็บเสียง ควรเบาเสียงลงเมื่อไปเยี่ยมผู้ป่วยแผนกอื่นค่ะ

Windsong: โอเค ฉันแค่เป็นห่วงพวกเขาน่ะ รู้ไหมว่านอกจากนี้ Vila กับ Avgust ก็เขียนจดหมายมาถามฉันเกี่ยวกับโปรเจกต์นี้ตลอดเลย สำคัญกว่านั้นคือสายสัมพันธ์ของอาจารย์กับศิษย์

Medical Staff Member: รับทราบค่ะ ฉันจะติดต่อไปหาหากต้องการความช่วยเหลือ กดปุ่มเรียกฉันได้เลยนะคะ แล้วก็นะคะคุณ Pointer ขอให้คุณและทีมโชคดีค่ะ กลุ่มคนบ้าทำงานร่วมกันเพื่อไปให้ถึงห้วงอวกาศ เจ๋งสุด ๆ ไปเลยค่ะ

เป็นคำชมที่แปลกประหลาดและคาดไม่ถึง จนทำให้สีหน้าของ Pointer เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

Windsong: เห็นด้วยเลย

Pointer: คุณพูดจริงเหรอ? คิดว่ามันพอจะเป็นไปได้ไหมที่เราจะทำมันสำเร็จ?

Windsong: ดูพูดเข้าสิ ใช้คำว่า “เรา” งั้นเหรอ? เธอออกจากทีมไปแล้วรึไง?

ความเงียบก่อตัวขึ้นครู่หนึ่ง ทั้งสองตัดสินใจไม่ตอบคำถามอะไรเพิ่ม Windsong ออกเดินก่อนเป็นคนแรก และ Pointer ตามหลังเธอมาตามโถงทางเดิน และปิดประตู

Windsong: ที่เธอบอกว่าโปรเจกต์ของ Hissabeth นั้น “มันดูเป็นไปไม่ได้” ฉันไม่คิดว่าเธอจะหมายความอย่างนั้นจริง ๆ แต่ทำไมไม่ลองช่วยเหลือพวกเขาบ้างล่ะ ไอเดียล่าสุดที่ว่าใช้แผ่นดิสก์เทเลพอร์ทนั่นฟังดูดีเลยนะ ความล้มเหลวแค่ครั้งเดียวคงหยุดพวกนั้นไม่ได้หรอก เธอก็ทำงานกับ Hissabeth มานาน เธอน่าจะรู้ว่าเธอกำลังทำเรื่องโง่ ๆ อยู่

Pointer เลือกที่จะเงียบอีกครั้ง แต่คราวนี้ Windsong กดดันเธอต่อ

Windsong: แล้วเธอคิดยังไงกันแน่ล่ะ?

Pointer: ความคิดของฉันไม่สำคัญหรอก ไม่ว่าจะพยายามให้พวกเขาเปลี่ยนใจยังไงก็คงไม่ได้ผล ที่แย่กว่านั้นคือยิ่งฉันพยายามให้พวกเขาเลิกเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งมุ่งมั่นมากขึ้นเท่านั้น

Windsong: งั้นไหนบอกฉันหน่อย ทำไมถึงคิดว่าพวกเขาจะล้มเหลวล่ะ?

Pointer: ไม่เห็นจะมีเหตุผลที่จะต้องมานั่งเสียพลังงานในการอธิบายเรื่องนี้เลยนะ

Windsong หันมองไปที่วอร์ดผู้ป่วยด้านหลัง Pointer

Windsong: ไม่ว่ายังไง ฉันก็จะตัดสินใจเรื่องนี้เอง

Pointer: … Hissabeth เป็นนักวิจัยที่ยอดเยี่ยมมาก เฉียบคม เด็ดขาด เอาแค่เรื่องพวกนี้ ฉันก็วางใจเธอได้แล้ว ฉันวิเคราะห์ดูแล้วถึงความอันตรายและความไม่แน่นอนของโปรเจกต์นี้ ถ้าดีหน่อยก็อาจจะแค่บาดเจ็บและใช้เวลาพักฟื้นไม่กี่วัน แต่ถ้าบาดเจ็บมากไปกว่านี้ พวกนั้นอาจถึงขั้น…

เธอเกร็งตัวจนไหล่ทั้งสองหดเข้ามา แต่น้ำเสียงยังคงสงบ

Pointer: สิ่งที่ฉันทำไปตามธรรมชาติ คือทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่ของเราจากอันตราย และฉันอยากให้เพื่อนของฉันมีชีวิตอยู่ต่อไป มันจะไปสำคัญอะไรกัน ถ้าเราไปถึงอวกาศและรู้ว่า “พายุ” ส่งผลกระทบต่อจักรวาลทั้งหมดหรือเปล่า แล้วถ้ามันส่งผลกระทบแค่กับโลก จะทำอะไรต่อ? เราออกไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว ไม่มีเทคโนโลยีมากพอจะบินไปที่อื่น หรือต่อให้มันมีผลกระทบกับทั้งจักรวาล ดาวทั้งดวงก็โดนกลืนกินไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มันจะไปมีความหมายอะไรอีก? ไม่ว่าจะทางไหน การคำนวณของฉันก็ชัดเจนแล้ว คำตอบสั้น ๆ คือ มันไม่คุ้มค่ากับชีวิตพวกเรา

Windsong: โอเค ฉันเข้าใจว่าเธอรู้สึกยังไงแล้ว แล้วทำไมไม่บอกพวกเขาล่ะ?

Pointer: ก็พยายามจะหาเวลาเหมาะ ๆ ที่จะบอกอยู่

เธอพูดพลางยักไหล่ เธอมีคำตอบในใจอยู่แล้ว

Windsong: ก็คงงั้น แต่เรื่องที่ฉันจะพูดคือ ฉันมีข่าวบางอย่างจะบอก และคิดว่ามันน่าจะดีกว่าถ้าเธอได้ยินมันจากฉัน Laplace ตัดสินใจอพยพผู้คนออกจากสถานีอวกาศ เจ้าหน้าที่ทั้งหมดในสถานีจะต้องย้ายออกก่อนสิ้นเดือนนี้

Pointer: อพยพงั้นเหรอ? ไปที่ไหนล่ะ? ที่นี่มีอุปกรณ์สำคัญที่น่าจะขนย้ายไปไม่ทันด้วยนะ นอกจากนี้สถานีอวกาศนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างเรากับรัฐบาลท้องถิ่นด้วย

เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น Windsong ก็ไม่ได้หลบสายตาของเธอเลยแม้แต่น้อย

Pointer: อ๋อ ย้ายไปที่สาขาหลักของเราใน Plesetsk สินะ สาขาที่อยู่บริเวณชายขอบของเส้นรุ้งซีกโลกเหนือ และพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยจาก “พายุ” เดี๋ยวนะ นี่มันแผนรับมือฉุกเฉินสำหรับ “พายุ”!

Windsong: ถูกต้องตามนั้น เจ้าหน้าที่ทุกคนของ Laplace จะต้องอยู่ที่ศูนย์ดูแลเป็นเวลา 1 สัปดาห์หลังรายงานตัวที่ Plesetsk ส่วนเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จะได้รับวันหยุดพักร้อนแบบมีเงินเดือนตามปกติ

ทั้งสองรู้ดีว่า “วันหยุดพักร้อนแบบมีเงินเดือน” นี้ จะสิ้นสุดลงตอนไหน

Windsong: Hissabeth กำลังรอเวลาเหมาะ ๆ อยู่เหมือนกันนะ และฉันว่าเวลานั้นคือตอนนี้แหละ เซ็นชื่อให้เธอทีนะ ไม่ต้องห่วง ไม่ใช่ใบรับบริจาคอะไรหรอก

Windsong ส่งเอกสารมาให้ตรงหน้า Pointer

Pointer: นี่จะให้ฉันเซ็นยินยอมว่าเพื่อนร่วมทีมของฉันจะต้องอยู่ที่นี่ และตายไปใน “พายุ” เนี่ยนะ?

Windsong: ฉันไม่ได้ขอ ฉันแค่มาส่งมันให้เธอ แต่พวกเขาก็รู้ว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ที่นี่ นั่นแหละคือเหตุผลที่ฉันอยากจะช่วย

Pointer: ฉันขอเวลาหน่อย ไม่อย่างนั้นการวิเคราะห์ของฉันอาจไม่นิ่งพอ

Windsong: ก็ได้ แต่อย่าให้เพื่อนร่วมทีมรอนานนักล่ะ เวลาไม่ค่อยจะมีนะ

Pointer: …

 


 

อ่านต่อตอนต่อไป

Aisoon Srikum

Back to top