BY KKMTC
8 May 20 6:00 pm

DiRT Showdown กาลครั้งหนึ่งเมื่อ DiRT เคยเป็นเกมแข่งรถชนแหลก

10 Views

เกมเมอร์อาจจะรู้จัก DiRT ในฐานะเกมแข่งรถประเภทแรลลีที่มีระบบการเล่นแบบบาลานซ์ระหว่างความสมจริงกึ่งอาร์เคดที่ทุกคนสามารถเล่นได้ แต่ผู้เล่นอาจไม่รู้มาก่อนว่า DiRT ก็มีภาคสปินออฟกลายเป็นเกมแข่งรถชนแหลกที่คอเกมซิ่งไม่ต้องการ และประสบความล้มเหลวในด้านยอดขายจนกลายเป็นเกมแกะดำในซีรีส์ไปโดยปริยาย

DiRT Showdown คืออะไร ?

สำหรับคนที่ไม่รู้จักมาก่อน DiRT เป็นซีรีส์เกมแข่งรถประเภทแรลลีของค่าย Codemasters ซึ่งเป็นเกมภาคต่อจากตระกูล Colin McRae Rally ในสมัย PlayStation

ซีรีส์เกมดังกล่าวได้แยกออกเป็นเกมสามภาค คือ DiRT ภาคหลัก เป็นเกมแข่งรถแรลลีแบบ Simcade ที่มีความท้าทายในระดับพอดี, DiRT Rally เกมภาคสปินออฟเน้นความสมจริง ซึ่งมีระดับความยากแบบไม่ปรานีใคร และภาคที่คาดว่าหลายคนต้องเคยได้ยินมาบ้าง (เพราะแจกฟรีบ่อยเหลือเกิน) นั่นคือ DiRT Showdown เกมสปินออฟมุ่งเน้นการแข่งขันเอามันแบบอาร์เคด 100%

ซึ่งแน่นอนว่าจุดประสงค์ของการสร้าง DiRT Showdown ก็เพื่อเจาะกลุ่มตลาดใหม่ให้เกมเมอร์ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะคนเล่นเกมทั่วไป เกมเมอร์ขาซิ่ง และแฟนซีรีส์ สามารถสนุกสนานกับตัวเกมได้ไม่ยาก

ซึ่งตอนแรกฟังดูแล้วเหมือนเกม DiRT รูปแบบใหม่ที่น่าสนใจ แต่ด้วยสาเหตุหลายอย่าง DiRT Showdown กลับกลายเป็นแกะดำของซีรีส์ DiRT ที่ไม่มีใครเหลียวและเหล่าแฟนไม่อยากให้นำกลับพูดถึงซะเท่าไหร่นัก

DiRT กลายเป็นเกมชนแหลก

DiRT Showdown มีการเปลี่ยนแปลงจากเกมภาคหลักแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ซึ่งทำให้แฟนเกมอาจร้อง ‘เหวอ’ หรือไม่ก็รู้สึกตื่นเต้นทันที นั่นคือภาคนี้กลายเป็นเกมชนแหลกสไตล์ Demolition Derby ที่ค่าย Codemasters ไม่เคยทำมาก่อน

ความจริงแล้ว ทีมงานเคยมีประสบการณ์สร้างเกมแนวแข่งรถ Demolition Derby ในเกม GRID ซึ่งเป็นโหมดการแข่งขันที่ไม่มีบทบาทหลักซะเท่าไหร่นัก แต่เกมนี้คือเกมแรกของค่าย Codemasters (และอาจเป็นเกมเดียวในตอนนี้) ที่เป็นแนวอาร์เคดแท้ไม่มีความ Realism มาผสม

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก DiRT เป็นซีรีส์ที่ทำเกมแข่งรถประเภทแรลลีมาแล้วหลายภาค แต่จู่ ๆ ก็มีเกม DiRT ภาคสปินออฟแนวชนแหลก ทำให้ความประทับใจครั้งแรกของเหล่าเกมเมอร์ขาซิ่งจึงมีทั้งคนที่ชื่นชอบและเกลียดไปเลย โดยบางกลุ่มกล่าวว่าเป็นแนวทางใหม่ที่น่าสนใจ แต่บางกลุ่มก็วิจารณ์ว่าแม้เป็นเกมภาคสปินออฟ แต่ตัวเกมกลับไม่มีกลิ่นอายของความเป็น DiRT เลยแม้แต่นิดเดียว

ถึงอย่างนั้น เนื่องจาก (ช่วงเวลานั้น) ตัวเกมยังไม่ออกวางจำหน่าย กลุ่มเกมเมอร์ขาซิ่งจึงยังไม่สามารถวิจารณ์เกมอะไรได้มากนักนอกจากจะลองสัมผัสเกมจริง ๆ กับมือตัวเอง แต่แล้วหลังจาก DiRT Showdown ได้ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เกมดังกล่าวก็เริ่มมีกระแสตอบรับที่ไม่น่าปลาบปลื้มทันที

DiRT Showdown เป็นเกมที่มีกระแสตอบรับในระดับเกณฑ์โอเค, ไม่เป็นที่ชื่นชอบไปจนถึงเกลียดเลยก็มี โดยองค์ประกอบแรกที่ตัวเกมถูกวิจารณ์มากที่สุด คือความซ้ำซากของเกมเพลย์ และคอนเทนต์หลายอย่างรีไซเคิลมาจากเกมภาคเก่า

สนามแข่งเกือบทั้งหมดใน DiRT Showdown นำมาจากเกมเก่ามาใส่ในเกมแล้วเพิ่มวัตถุขวางหน้า, แรมป์กระโดด และพลุรอบสนาม เพื่อบรรยากาศการเล่นเกมดูมีความวินาศสันตะโรมากยิ่งขึ้น แต่เส้นถนนยังคงเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมมากนัก

นอกจากนี้ ตัวเกมมีการเพิ่มระบบหลอดเลือกให้กับคู่แข่งทุกคน, การ Boost รถยนต์สามารถพุ่งตัวด้วยความเร็วสูง และการชนต่างจะมีชื่อเรียกเฉพาะตัว คล้ายกับซีรีส์เกม FlatOut หรือ Burnout

แม้ตัวเกมมีการระบบเกมเพลย์ใหม่เพื่อให้เกมมีความแตกต่างจาก DiRT ภาคหลัก แต่เนื่องจากการออกแบบสนามแข่งเป็นเส้นตรงเกินไป, หลายสนามนำมาจากเกมภาคเก่า และโหมดเกมส่วนใหญ่จะเน้นการแข่งขันเพื่อชิงเส้นชัยอันดับหนึ่งหรือมีอยู่แล้วในเกมภาคเก่า ทำให้เกมการเล่นซ้ำซากอย่างรวดเร็วด้วยคอนเทนต์แทบไม่มีการอัปเดตจาก DiRT 3

ระบบการชนเองก็ไปได้ไม่สุดทางเช่นกัน เพราะการชนในเกมนี้เปรียบเสมือนเป็นการถ่วงเวลาคู่แข่งซะมากกว่า นอกจากนี้ โมเดลพังของรถยนต์กับระบบฟิสิกส์ก็ยังต่อสู้เทียบเท่ากับเกมอื่นไม่ได้ ทำให้การชนรถใน DiRT Showdown จึงไม่สะใจเท่าที่ควร

โหมดเกมจาก DiRT 3 อย่าง Gymghana Mode โดนลดทอนความยากจนเล่นง่ายเกินไป จากโหมดที่ต้องใช้ทักษะการเข้าโค้ง การดริฟต์ ปรับแต่งรถยนต์ และการศึกษาแผนที่ กลายเป็นเกมเบรกเพื่อริฟต์เพราะการทำงานของระบบ Assist อัตโนมัติ ทำให้การขับเคลื่อนลื่นไหลกว่าเกมภาคหลักอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งความจริงแล้ว ระบบนี้แม้จะสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้เล่นคนใหม่ที่ไม่คุ้นเคยกับเกมแข่งรถก็จริง แต่เอกลักษณ์ความท้าทายจากการเล่นโหมดดังกล่าวก็ลดลงอย่างมากอีกด้วย

แม้ DiRT Showdown ไม่ใช่เป็นเกมแข่งรถที่แย่ที่สุด แต่แน่นอนว่าด้วยองค์ประกอบที่มีข้อเสียมากกว่าข้อดี รวมถึงระบบไม่สุดสักทาง นี่จึงเป็นเกม DiRT ที่มีกระแสตอบรับเงียบเหงาทั้งด้านยอดขายกับรีวิวในบรรดาเกมทุกภาคอย่างไม่ต้องสงสัย

นับตั้งแต่ปี 2012 ก็ไม่มีการประกาศทำภาคต่อของเกม DiRT Showdown อีกเลย ในขณะที่ DiRT Rally เกมสปินออฟที่มีกระแสตอบรับเป็นที่หลงรักสำหรับเกมเมอร์ได้ถูกสร้างไปแล้วสองภาค รวมถึงล่าสุด DiRT 5 ซึ่งเป็นภาคต่อของเกมซีรีส์หลัก เพิ่งประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไลฟ์สตรีม Inside Xbox เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา และทุกวันนี้ DiRT Showdown ก็ยังคงถูกระบุว่าเป็นแกะดำของเกมตระกูล ที่แฟน ๆ ไม่ค่อยอยากต้อนรับให้กลับมาสักเท่าไหร่นัก

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top