BY BOM
10 May 18 5:48 pm

Battle Royale : จาก Mod สู่ปรากฏการณ์ของวงการเกม

5 Views

Battle Royale คือแนวเกมใหม่ล่าสุดของวงการเกม

ด้วยรูปแบบของการที่ให้ผู้เล่นต่อสู้กันจนเหลือรอดคนเดียวจึงทำให้เกมแนวนี้ถูกใจเหล่าเกมเมอร์ทั้งหลาย ในปัจจุบันนั้นเกมแนวนี้ออกให้ชาวเกมเมอร์นั้นได้เล่นแทบจะทุกเดือน และมีแนวโน้มจะได้เล่นเกมนี้ใหม่ในทุก ๆ อาทิตย์สำหรับแพลตฟอร์มมือถือ ดังนั้นวันนี้เราจะนำชาว Gamingdose ทั้งหลายไปทำความเข้าใจว่า Battle Royal มาจากไหน ทำไมถึงได้โด่งดัง

“การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด” เป็นหลักการพื้นฐานของชีวิตมนุษย์ที่ต้องพบเจอไม่ว่ากี่ยุคสมัย แต่การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดเพื่อความบันเทิงนั้นเดิมเป็นที่นิยมมากในยุคก่อนการเกิดขึ้นของสิทธิมนุษยชน ในยุคโรมันเหล่า Gladiator ต้องต่อสู้กันในสังเวียนขนาดใหญ่ใน Colosseum เพื่อให้ประชาชนชาวโรมันได้ดูเป็นความบันเทิง ภายหลังการที่แรงงานมนุษย์มีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจมากขึ้นทำให้การต่อสู้ถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นการกีฬาแทน ซึ่งจะมีกติกาเพื่่อทำให้นักกีฬาไม่ถึงขั้นเสียชีวิต อย่างเช่น มวยหรือฟันดาบ ดังนั้นเมื่อการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดในชีวิตจริงเป็นสิ่งผิดศีลธรรมและโหดร้าย สิ่งเหล่านี้จึงได้เข้าไปในสื่อแทน

กำเนิดคำว่า  “Battle Royale”

ในปี 1999 นักเขียนชาวญี่ปุ่นชื่อ Koushun Takami ได้เขียนนิยาย 1 เล่มในชื่อ バトル・ロワイアル ( Batoru Rowaiaru) หรือแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Battle Royale ซึ่งเนื้อเรื่องกล่าวถึงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงคราม เศรษฐกิจตกต่ำ เกิดความขัดแย้งในสังคมรัฐบาลจึงได้ออกกฏหมายควบคุมทุกอย่าง ทางรัฐบาลได้เริ่มทดลงโปรแกรมทางการทหารหมายเลข 68 โดยสุ่มเอาเด็กนักเรียนมัธยมปลายมาเข้าแข่งขันการเอาชีวิตรอดในเกาะแห่งหนึ่งที่รัฐบาลสามารถควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ได้ ทุกคนต้องต่อสู้กันจนเหลือรอดเพียงคนเดียว จุดมุ่งหมายหลักของโปรแกรมนี้คือการที่รัฐบาลได้ค้นคว้าวิจัยทางการทหารและเป็นการแสดงถึงความมีอำนาจของรัฐบาลว่าสามารถควบคุมใครก็ได้ ผู้โชคดีที่ได้รับการสุ่มไปทดลองครั้งนี้คือ กลุ่มเด็กมัธยมปลายจากโรงเรียน Shiroiwa ที่ถูกลักพาตัวในขณะที่กำลังจะไปทัศนศึกษา พวกเขาตื่นมาบนเกาะแห่งหนึ่ง ทุกคนนั้นถูกห่วงเหล็กที่ฝังระเบิดไว้ที่คอ ทุกคนจะได้รับของแบบสุ่มตั้งแต่ ปืน มีด ไปจนถึงของที่ไม่มีประโยชน์อย่างเช่นส้อม หรือ บูมเมอร์แรง ซึ่งผู้เล่นจะมีเวลา 3 วันที่ต้องสังหารคนทั้งหมดในเกาะจนเหลือเป็นคนสุดท้าย หากไม่เช่นนั้นก็ต้องตาย

ด้วยเนื้อเรื่องที่ดราม่า เข้มข้น ทำให้เรื่องนี้ได้รับความนิยมพอที่จะทำเป็นเวอร์ชั่นการ์ตูนมังงะในปี 2000 พร้อมทั้งทำเป็นภาพยนตร์ในปีเดียวกัน พร้อมทั้งได้ดาราแม่เหล็กของวงการญี่ปุ่นในยุคนั้นมาร่วมแสดงอย่าง Takeshi Kitano, Tatsuya Fujiwara, Ko Shibasaki ทำให้หนังเรื่องนี้ได้รับความนิยมมาก สามารถทำรายได้ถึง 200 ล้านเยน แถมยังนำไปเผยแพร่ได้อีกถึง 22 ประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วย แต่ด้วยความรุนแรงที่อยู่ในภาพยนตร์ การใช้เด็กมัธยมปลายที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมาดำเนินเรื่องเข่นฆ่ากัน ทำให้ภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมทั่วทั้งโลก และในตอนที่ฉายในประเทศไทยนั้น ถึงขนาดได้มีการแต่งเพลง “มิตรภาพชั่วนิรันดร์” โดยวง The Olarn Project เพื่อทำให้บรรยากาศของหนังเบาบางลงอีกด้วย

หนังเรื่อง Battle Royale

จากหนังสู่ MOD เกม

แม้กระแสหนังจะดีจนมีภาคต่อ แต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเหมือนภาคแรก จนกระทั่งหนังเรื่อง Hunger Games ได้ออกมาในปี 2012 ทำให้กระแสของ Battle Royale กลับมาอีกครั้ง โดยคราวนี้ไม่ได้นิยมเพียงในหนังแต่เริ่มเข้าสู่เกม แต่ในยุคนั้นเกมแนว Battle Royale ยังไม่ได้เกิด ยังอยู่ในสภาพ MOD ของเกมต่าง ๆ มากกว่า หลาย ๆ คนคิดว่า Mod :battle Royal เกิดครั้งในเกมในเกมประเภท Shooting ความเป็นจริงแล้ว Mod แนวนี้เกิดครั้งแรกในเกม Minecraft ในชื่อ Minecraft: The Survival Games แต่ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดคือ Mod: Dayz จากเกม Arma 2 ที่สร้างขึ้นโดย Dean Hall ซึ่งความสนุกของ Mod นี้คือผู้เล่นต้องใช้ทักษะมากกว่าการยิงปืนปกติ แต่ต้องใช้ทักษะด้านการสังเกตุ การวิเคราะห์สถานการณ์ รวมทั้งดวงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยจึงทำให้ Mod นี้ได้รับความนิยมมากและได้เริ่มแยกเป็นเกมของตัวเอง

MOD:DayZ

จาก MOD เกมสู่เกมเต็ม

ด้วยกระแสความนิยมของ MOD:DayZ ทำให้เกมอย่าง WarZ (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Infestation) ได้ชิงเปิดตัวก่อนเป็นเกมแรกแต่ด้วยความที่ทางผู้พัฒนาได้โม้เรื่องตัวเกมอย่างเกินจริง ทำให้เกิดกระแสต่อต้านมากมายจนถึงขั้นที่ Steam ต้องถอนเกมออกจาก Steam ชั่วคราวและสร้างระบบ Early Access ขึ้นมาเพี่อให้เกมที่ยังไม่เสร๋็จนั้นสามารถวางขายได้ แม้จะโดนวิจารณ์ในแง่ลบแต่เกมก็ยังเป็นกระแสได้อยู่บ้าง นอกจากนี้ยังมีเกมอย่าง Rust ที่ได้นำเอา Minecraft และ MOD:DayZ มารวมกัน ก็รับผลตอบแทนดีมากจากสาวก Battle Royale โดยสามารถขายได้ถึง 5 ล้านชุด หรือแม้แต่เจ้าของ Mod:DayZ เองที่ก็มีเกมของตัวเองเช่นกันในชื่อ DayZ ที่เป็น Stand Alone ซึ่งในปัจจุบันยังอยู่ใน Early Acess ของ Steam แต่คนที่ประสบความสำเร็จที่สุดคือ Brendan Greene ผู้พัฒนา PlayerUnknown ที่เป็นคนทำ Mod : DayZ ให้ Arma 3 มาก่อนและถูกจ้างไปโดยทีมพัฒนา Daybreak Studios ให้ไปพัฒนาเกม H1Z1 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดีโดยทำยอดขายไปได้ถึง 2 ล้านชุดในเดือนแรกที่วางจำหน่าย

จากเกมสู่ปรากฏการณ์วงการเกม

ภายหลัง Brendan Greene ได้ลาออกจาก Daybreak Studios และเข้าร่วมกับ Bluehole พัฒนาเกมของตัวเองในชื่อ PlayerUnknown’s Battlegrounds โดยตัวเกมได้ดัดแปลงระบบต่าง ๆ ให้ดีขึ้นจาก H1Z1 ทำให้เกมได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะสาวก Battle Royale โดยสามารถทำยอดขายได้ 30 ล้านชุดและได้สร้างสถิติเกมที่เล่นพร้อมกันมากที่สุดใน Steam คือ 3,236,027 คน ซึ่งผลจากตอบรับที่ดีได้มีผู้พัฒนาต่าง ๆ ได้ทำเกมออกมาในตลาดมากขึ้นทั้ง Fortnite : Battle Royale ที่ได้เพิ่มในส่วนของการสร้าง, การทำลายสิ่งของทำให้เกมมีการใช้ทักษะที่หลากหลาย หรือเกมอย่าง Paladins ยังสร้างโหมดใหม่ Paladins: Battlegrounds ที่เพิ่มในส่วนของสกิล Hero มาด้วย

เมื่อ Battle Royale ครองโลก

ในปัจจุบัน Battle Royale ได้สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นเกมแนวใหม่อย่างสมบรูณ์ ความหลากหลายของตัวเกมนั้นมีมากกว่าเดิมมาก แต่การที่ได้รับความนิยมนั้นเหมือนเป็นดาบสองคมสำหรับเกมนั้น ๆ อย่างเช่น PUBG ที่ถูกโจมตีอย่างหนักจากบรรดาเหล่า Hacker จนทำให้เกม ๆ นั้นต้องเสียเวลาแทนที่อัพเดทตัวเกมมาเป็นการอัพเดทโปรแกรมป้องกันแทน หรืออย่างเกม Fortnite ที่เปิดให้เล่นฟรี ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากทั่วทั้งโลกการันตีจากสถิติยอดผู้ชมใน Twitch สูงสุด ยังได้สร้างปัญหาแก่ระบบ Wifi ในโรงเรียนทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้เกม Battle Royale ต่าง ๆ พยายามที่จะลงมือถืิอกันอย่างเต็มตัวจึงทำให้ตลาดของ Battle Royale นั้นขยายไปทั้งแพลตฟอร์มต่าง ๆ มากขึ้นและไม่ได้ได้มีเพียง PUBG หรือ Fortnite เท่านั้นแต่ยังมีเกมอื่น ๆ ที่ได้นำแนวคิดของทั้งสองเกมมาทำลงมือถือก่อนเช่น Rule of Survival, fortcraft, Last Battleground: Survival  จนบางครั้งเกิดการฟ้องร้องกันเหมือนกันกรณีที่ PUBG.crop ฟ้อง Netease จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต

อนาคตของ Battle Royale

ตอนนี้กระแสของ Battle Royale นั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเกมประเภท Shooting เท่านั้นแต่ได้ขยายไปสู่เกมแนวต่าง ๆ เช่น Dota 2 ที่ได้ออกโหมด  The Underhollow ที่ให้ผู้เล่นได้แย่งชิง Cheese กันในดันเจี้ยน หรือเกมที่ออกมาหลายปีก่อนเกมแนว Battle Royale จะเกิดอย่าง GTA: Online ยังได้มีการอัพเดทโหมดนี้เข้ามาทีหลังทำให้กระแสเกมแนวนี้ยังคงมีต่อไป ส่งผลถึงเกมในแฟรนไชส์ดังอย่าง Battle Field หรือ Call of Duty ก็มีข่าวที่จะอัพเดทโหมดนี้เข้าสู่เกม นอกจากนี้เกมแนวนี้ยังได้รับความนิยมจนสามารถจัดเป็นการแข่งขัน eSport อย่างเช่น PUBG ที่ได้เพิ่งได้ประกาศจัดงานของตัวเองครั้งแรกในชื่อ PUBG GLOBAL INVITATIONAL  ที่มีเงินรางวัลมากถึง 60 ล้านบาท หรือ H1Z1 ที่ได้นำเอาระบบลีกส์แบบ Overwatch มาใช้ ซึ่งเรียกได้ว่าตอนนี้อนาคตของ Battle Royale นั้นสดใสมาก ๆ ในยุคนี้

สรุป

ตอนนี้เราสามารถหาเกมแนว Battle Royal ได้ง่ายกว่าการหาเกมแนวอื่น ๆ เล่นหลายเท่านัก ที่สำคัญเกมแนวนี้ยังจะมีก็วางจำหน่ายเรื่อย ๆ ไปจนกว่ากระแสจะซาลงยังคงฮิตไปอีกนาน การมาถึงของ Battle Royale นั้นอาจจะคล้าย ๆ กับการมาถึงของแนวเกมต่าง ๆ อย่าง Moba หรือ MMORPG แต่ว่าด้วยเงื่อนไขที่ต่างกันทำให้เกมแนวนี้กลายได้รับความนิยมที่เร็วกว่าและเป็นวงกว้างกว่าแนวอื่น ๆ และเพื่อน ๆ ละ มีเกม Battle Royale ในดวงใจเกมไหนบ้างสามารถแบ่งบันกันได้ที่นี่เลย

Nuttawat Lokkumlue

บ๋อม - Content Writer

Back to top