BY KKMTC
2 Nov 18 4:44 pm

6 เกมที่ปล่อยวางจำหน่ายทั้งที่เกมยังไม่เสร็จสมบูรณ์

23 Views

ไม่มีเกมไหนที่มีเวลาพัฒนาเกมโดยไม่มีกำหนดเดธไลน์ เพราะถ้าหากไม่มีเส้นตายตัวเกมก็ไม่มีทางเสร็จซะที แต่เกมใหญ่บางเกมมีแนวคิดที่ใหญ่โตมาก โตเกินกว่าที่จะควบคุมคุณภาพได้ทั้งหมดจนพอมารู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นว่าใกล้ถึงกำหนดการพัฒนาเกมเสร็จสมบูรณ์แล้ว! จึงเป็นเหตุให้มีเกมในปัจจุบันมากมายที่พยายามเร่งรีบพัฒนาเกมให้เสร็จสิ้นหรือกั๊กเนื้อหาบางส่วนแล้วปล่อยวางขายตามกำหนดโดยมองข้ามคุณภาพบางส่วนที่อาจจะเป็นตัวการทำให้เกมพังได้

นี่คือบทความ นี่คือ 6 เกมที่ปล่อยวางจำหน่ายทั้งที่เกมยังไม่เสร็จสมบูรณ์

Metal Gear Solid V: The Phantom Pain

เกมตระกูล MGS V: The Phantom Pain เกือบจะเป็นเกมที่มีคุณภาพเพอร์เฟ็กท์ ถ้าหากสร้างเกมให้เสร็จก่อนแล้วค่อยปล่อยวางจำหน่าย

สำหรับคนที่สั่งจองเกมชุด Collector Edition ทาง Konami ได้เปิดเผยวีดีโอ Chapter 51 หรือตอนสุดท้ายของ MGS V ที่โดนลบในช่วงหลังของการพัฒนาเกม ซึ่งเป็นตอนจบที่แท้จริงที่เหตุการณ์ Big Boss ต้องปะทะกับ Eli ที่ใช้ Metal Gear Sahelanthropus ที่เสร็จสิ้นอยู่เพียงแค่ 30% เท่านั้น และยังไม่รวมถึง Chapter 3 ที่โดนลบทิ้ง และ Chapter 46 ที่มีเนื้อเรื่องเสริมพิเศษที่ไม่มีในตัวเกมหลักอีกด้วย

แต่ครั้งนี้เกมเมอร์ได้รู้สาเหตุที่เกมปล่อยวางจำหน่ายทั้งที่เกมไม่เสร็จ เพราะว่าผู้กำกับเกม Hideo Kojima ได้มีปัญหาไม่ลงรอยกับ Konami จนทำให้โคจิม่าโดนบีบให้ลาออกจากบริษัท Konami ในขณะที่ตัวเกมยัง MGS V ไม่เสร็จสมบูรณ์ แล้วบริษัทได้ตัดสินใจรับช่วงต่อแล้วปล่อยจำหน่ายเกมนั้นเอง

Metal Gear Solid V: The Phantom Pain

Mass Effect Andromeda

เกมที่เป็นตราบาปมากที่สุดของซีรี่ส์ Mass Effect ที่มีปัญหาภายในมากมายตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนาเกม และผลลัพธ์ก็จบลงไม่สวยอย่างไม่ต้องสงสัย

ในเกม Mass Effect Andromeda เต็มไปด้วยบัคจุกจิกมากมายและมิชชั่นที่ซ้ำซาก โดยเฉพาะ Facial Animation ที่แสดงผลไม่สมบูรณ์ ทำให้มีใบหน้าตัวละครมีลักษณะที่ดูตลกคาเฟ่ และเนื้อภายในเกมหลักยังไม่มีการขัดเกลาที่ดีพอทั้งในส่วนของเนื้อเรื่องแกนหลักกับตัวละครภายในเกม

ซึ่งความจริงเนื้อเรื่องภายในเกมยังมีเยอะกว่านี้ในรูปแบบ DLC แต่ทว่าเนื่องจากบทวิจารณ์ที่แย่จากเจ้าสำนักรีวิวและยอดขายที่ไม่ตรงเป้า ทางทีมงาน Bioware จึงปล่อยลอยแพตัวเกมอย่างไม่มีเยื่อใย และเกมเมอร์ทุกคนก็พลาด DLC Singleplayer ทั้งหมด จึงทำให้เกมนี้ยังคงเต็มไปด้วยปริศนาที่ผู้เล่นรู้สึกไม่เคลียร์อีกมากมาย

Mass Effect Andromeda

Final Fantasy XV

พัฒนาเกมกันมานาน 10 ปี ในขณะที่เกมนี้ได้กระแสตอบรับแบบผสมระหว่างสาวกแฟนเดนตายและผู้ที่เพิ่งเข้าถึงซีรี่ส์นี้โดยการเล่น Final Fantasy XV เป็นภาคแรก แต่สิ่งที่เกมเมอร์ทุกฝ่ายเห็นตรงกันและแซวเกมนี้กันสนุกปากว่า ‘Demo ราคาหนึ่งพัน’

ทีมผู้พัฒนา Square Enix ยังคงอัปเดทเกมนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันอาจจะฟังดูดีอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ไม่ใช่สำหรับ FF XV ที่เนื้อหายังคงขาดหายไปทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่างเปล่า และสังเกตได้ว่าเกมยังไม่เสร็จอย่างได้เห็นชัด ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตเนื้อหาที่ทำให้เนื้อเรื่องในเกมมีสมเหตุสมผลมากขึ้น, เพิ่มฉากจบ Alternate Ending และเพิ่มแผนที่ขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อเนื้อเรื่อง ซึ่งเนื้อหาประเภทนี้ไม่ควรจะอยู่ในส่วนของอัปเดตเกมซะด้วยซ้ำ

แต่อย่างไรก็ตามเกมนี้ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะยังคงมีเนื้อหาอัปเดตอยู่เรื่อย ๆ ในอนาคต

No Man’s Sky

เป็นเกมหลายคนไฮป์และคาดหวังมากที่สุดในช่วงที่เปิดตัวเกมในงาน PAX 2013 และ E3 2014 ที่ทีมผู้พัฒนาโดย Hello Games โดยได้บอกตัวเกม No Man’s Sky ว่าจะเป็นเกมเปิดโลกกว้างประเภท Sandbox ที่จะมีจักรวาลดาวเคราะห์กว้างใหญ่ไพศาลถึง 18 Quintillion และดาวทุกดวงกับสัตว์ประหลาดทุกตัวจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งผู้เล่นสามารถผจญภัยเดินทางสู่อวกาศโดยไม่มีการปิดกั้น

แต่เมื่อถึงวันปล่อยเกมในปี 2016 เกม No Man’s Sky ได้สร้างความอื้อฉาวและสร้างความผิดหวังให้กับเกมเมอร์ทั่วโลก โดยเฉพาะเนื้อหาคอนเท้นท์ที่ขาดหายไม่ตรงกับทีมงานสัญญาไว้, ภาพกราฟิกไม่สวยงามเหมือนกับ Trailer, บัคกราฟิกมากมาย และมอนสเตอร์ที่ทีมงานบอกว่าจะไม่มีลักษณะจำเจกันทุกตัวเป็นเพียงแค่เปลี่ยนโมเดลเท่านั้น ซึ่งทำให้ Sean Murray หัวหน้าผู้พัฒนาเกมโดนโจมตีอย่างหนักจากเกมเมอร์ จนเกือบเป็นเรื่องถึงศาลฟ้องร้องเกี่ยวกันเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าเกมนี้ได้สร้างวาทะระดับโลกเกี่ยวกับเกมสร้างไม่เสร็จแล้วปล่อยวางขาย แต่อย่างไรก็ตาม ทีมงาน Hello Games ยังคงพัฒนาเกม No Man’s Sky อย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่เวอร์ชั่น Next ซึ่งส่งผลทำให้ผู้เล่นเกมมากมายได้กลับมาเล่นเกมนี้และได้รับวิจารณ์ในแง่บวกเป็นอย่างมากอย่างต่อเนื่อง

No Man's Sky

Big Rigs: Over the Road Racing

ตำนานเกมถ้วยสามหูและ ‘You’re Winner!’ ในตำนานที่เจ้าสำนัก IGN ยกให้เป็นเกมที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์โดยกดคะแนนรีวิวต่ำติดดินอยู่ที่ 1.0

ไม่ต้องอธิบายว่าเกมนี้มีจุดด้อยอะไรบ้าง เพราะว่าเกมทั้งเกมเต็มไปด้วยบัคกราฟิกมากมายที่มิอาจจะอธิบายได้หมด (เพียงแค่ใช้ตามองก็รู้แล้ว) รวมไปถึงความพังของตัวเกมที่เพียงแค่ควบคุมรถเข้าเกียร์ถอยหลังที่มีความเร็วไม่สิ้นสุดและระบบอื่น ๆ ที่กล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า ‘เกมคุณยังไม่เสร็จ!’

Big Rigs: Over the Road Racing ได้ยกย่องว่าเป็นเกมที่ห่วยที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่เพราะแย่ที่สุดจึงทำให้ผู้เล่นจะต้องพูดคุยบอกต่อจากรุ่นสู่รุ่นกลายเป็น So Bad That Good (เกมดีเพราะแย่)

Big Rigs: Over the Road Racing

The Quiet Man

เกมอินดี้ม้ามืดที่เพิ่งปล่อยวางจำหน่ายมาไม่นานก็โดนถล่มโป้งแดงเละซะแล้ว ถึงแม้ว่าเกมนี้จะมีไอเดียที่น่าสนใจ แต่พอมาใช้สำหรับวีดีโอเกมแล้วมันกลับไม่เวิร์คเอาซะเลย

ภายในเกมทั้งหมด ผู้เล่นจะไม่ได้มีเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงหูหนวก (ทั้ง ๆ ที่ตัวเอกในเกมเข้าใจ) ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถจับใจความได้ว่าเนื้อเรื่องภายในเกมเป็นอย่างไร ซึ่งก็มีทางเลือกเดียวก็คือการเปิดซับไตเติ้ล แต่คุณรู้ไหม? มันเปิดไม่ได้ เพราะมันไม่มีให้ใส่ระบบนี้มาตั้งแต่แรก! โดยทีมงานใช้เป็นข้ออ้างว่าจะเป็นแรงจูงใจให้กลับมาเล่นเกมอีกรอบ โดยการปลดซับไตเติ้ลได้ถ้าหากเล่นเกมจนจบหนึ่งรอบ

ในขณะที่ไอเดียเอกลักษณ์ที่น่าสนใจ แต่รูปแบบการนำเสนอกลับดูมักง่ายโดยการกั๊กเสียงและซับจนกว่าจะอัปเดตโหมด New Gamer+ ซึ่งจะปลดเนื้อหาเสียงหมดทุกอย่างในสัปดาห์หน้า ผู้เขียนอยากจะชอบเกมนี้แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเกมสร้างเสร็จจริง ๆ หรือเปล่า

The Quite Man

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top