ลองแผนที่ใหม่ PUBG เด็ดขนาดไหน มีอะไรน่าสนใจ ไปดูกัน

เปิดให้ทดสอบกันแบบสดๆร้อนๆสำหรับ Project Savage แผนที่อันดับที่ 3 จากเกมดัง PUBG มีจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรน่าสนใจไปชมกัน 

สัมผัสแรก

หลังได้ Code ทดสอบผมก็รีบกระโดดเข้าสู่สนามรบใหม่อย่างรวดเร็วตามประสาแฟนเกม PUBG สำหรับจุดเด่นอย่างแรกที่เห็นได้ชัดเจนคือการที่ตัว Project Savage มีขนาดที่เล็กกว่าด่านเก่าทั้งสองแบบชัดเจน โดยด่านใหม่นั้นมีขนาดเพียงแค่ 4 X 4 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น

อีกจุดที่เห็นได้ชัดเจนคือสภาพแวดล้อมที่เป็นหมู่เกาะทะเลใต้ให้ความรู้สึกสดใสร่มรื่น แตกต่างจากด่านทะเลทราย Miramar และด่าน Erangel ด่านแรกของเกมแบบเห็นได้ชัด

อาคารปลูกสร้างภายในด่านนั้นจะเป็นการผสมพสานระหว่างตึกทั่วไปกับอาคารที่ดูจะมีสถาปัตยกรรมแถวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นแรงบันดาลใจ การที่ตัวด่านยังอยู่ในช่วงทดสอบก็ทำให้ตึกและบางพื้นที่ดูโล่งๆอยู่ แต่เราก็ยังสามารถเห็นพวกอาคารและของตกแต่งฉากอย่างซากรถหรือหอคอยแบบใหม่ได้ทั่วไป

ลองเล่นจริง

ใน Server ทดสอบนั้นเปิดให้เล่นกันโหมดเดียวคือโหมด Solo แบบ TPP การที่ตัวด่านมีขนาดเล็กผลที่ตามมาก็คือไม่ว่าคุณจะพยายามหนีไปโดดร่มลงตรงไหนก็ดูเหมือนจะมีคนตามไปลงด้วยทุกที่

เมื่อด่านมีขนาดเล็กก็ทำให้รูปเกมดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าโดดร่มลงปุ๊บก็พร้อมลุยกันทันที ความรู้สึกช่วงต้นเกมนั้นจริงๆก็ไม่ต่างกับแผนที่เก่าสักเท่าไหร่ คุณยังพยายามดิ้นรนต่อสู้ให้เป็นผู้รอดชีวิตออกจากจุดลงจอดให้ได้เหมือนเดิม และไม่รู้ว่าเพราะตัวด่านมีขนาดเล็กลงด้วยหรือเปล่าแต่ผมรู้สึกว่าเราสามารถ Farm หาของได้ง่ายขึ้นไม่จำเป็นต้องออกเดินทางไกลตระเวนหาปืนดีๆไปทั่วแผนที่เหมือนในด่านเดิมๆ

ช่วงกลางเกมถือว่าเป็นจุดที่มีความเปลี่ยนแปลงมากที่สุด ด้วยขนาดที่เล็กของด่านทำให้คุณแทบไม่มีเวลาได้หยุดลุยแม้จะพึ่งสู้ยกแรกเสร็จออกมาจากจุดลง

หากเป็นในด่านเก่าช่วงกลางเกมจะเป็นช่วงที่หลายทีมเลือกที่จะหาจุด Camp หรือตระเวนหาของเพิ่ม ทำให้มีการประทะกันน้อย แต่ในด่าน Project Savage นั้นเรียกได้ว่าไม่ว่าเดินไปทางไหนคุณก็พร้อมเจอลูกปืนตลอดเวลา หรือสรุปได้ว่าแผนที่ใหม่นั้นไม่มีช่วงกลางเกมแต่เป็นการลุยกันยาวๆไปเลยตั้งแต่ต้นจนจบ

นอกจากนั้นยานพาหนะก็มีความสำคัญลดลงเพราะคุณสามารถเดินทางเข้าไปในวงได้ไม่ไกลเกินเอื้อมหากดวงซวยวงดันไปผิดทิศตามที่เดาไว้

ส่วนช่วงท้ายเกมนั้นเท่าที่ผมเล่นมาการต่อสู้ดูจะถึงเนื้อถึงตัวยิงกันในระยะใกล้มากขึ้นกว่าเดิมด้วยสภาพแวดล้อมของฉาก  การที่ตัวด่านมีต้นไม้อยู่จำนวนมากถือเป็นข้อดีอีกอย่าง ฝั่งที่ถูกยิงก่อนสามารถมองหาทำกำบังได้ตลอดเวลา และด่านก็ไม่ได้มีพื้นที่สูงต่ำแตกต่างกันมากเท่าด่านเก่าแม้คนทำเลดีจะได้เปรียบเหมือนเดิมแต่ใน Project Savage ฝ่ายที่อยู่ต่ำกว่าก็ยังพอมองหาทางชนะได้

จุดอื่นๆที่น่าสนใจ

ใน Server ทดสอบตัวนี้ยังมีระบบใหม่อื่นๆที่น่าสนใจอยู่หลายอัน อย่างแรกก็คือการกลับมาของระบบสภาพอากาศ  ฝน และ หมอก ถูกใส่กลับเข้ามา แต่ที่พิเศษยิ่งขึ้นก็คือสภาพอากาศนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงไปในระหว่างการเล่น เช่นในฉากฝนตกนั้นช่วงต้นเกมด่านจะดูครึ้มฟ้าครึ้มฝน ก่อนที่ด่านจะค่อยๆมืดมากยิ่งขึ้นนำไปสู่ฟ้าร้องฟ้าผ่าในท้ายที่สุด หรือในด่านหมอก ความหนาก็หมอกก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อตัวเกมดำเนินไป

ตัวเกมยังมาพร้อมระบบ Spectate ให้คุณตาม “เชียร์” หรืออาฆาตแค้นผู้เล่นที่สามารถฆ่าคุณได้ก่อนจะกระโดดให้คุณตามชมเกมไปเรื่อยๆจนจบเกม

จุดอืนที่ผมสังเกตุเห็นก็มีความเร็วของวงฟ้าที่ดูจะเคลื่อนไหวช้าลงใน Server นี้ หรือการที่ระเบิด Frag Grenade ที่ระเบิดใกล้คุณจะทำให้คุณหูอื้อวิ้งงงงงงไปสักระยะ

สรุป

Project: Savage ถือเป็นด่านใหม่ที่น่าสนใจโดยเฉพาะผู้เล่นสายลุยที่ต้องการเกมเร็ว เล่นให้จบกันในระยะ 20 ถึง 30 นาที แม้จะยังมีหลายจุดของตัวด่านที่จะต้องถูกปรับปรุงแต่ก็ถือว่าทีมงาน PUBG เริ่มต้นด่านที่ 3 ของเกมได้สวยงามเลยทีเดียว

ระบบสภาพอากาศและการปรับปรุงส่วนอื่นๆของเกมก็ถือเป็นโบนัสที่เราคาดหวังว่าจะถูกเข็นขึ้นสู่ Server จริงในเร็วๆนี้

เรื่องเดียวที่เราน่าจะต้องสนใจกันต่อจากนี้ก็คือว่าทีมงาน PUBG จะใช้เวลาอีกนานแค่ไหนจนกว่าเราจะได้เห็นด่านใหม่นี้ในแบบฉบับสมบูรณ์