ช่วงเวลาปัจจุบัน บ้านเมืองไทยเริ่มให้ความสนใจกับประเด็นน้ำฉี่มากยิ่งขึ้น จนมีการเปิดเผยบทวิจัยขึ้นจากแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ขึ้นมามากมาย รวมไปถึงช่วงงาน Gamescom 2019 ที่ผ่านมา เกม Death Stranding มีการพิสูจน์ระบบเกมเพลย์ว่าตัวละครเอก Sam จะมีความสามารถในการฉี่ออกมาเป็นดอกเห็ด ซึ่งวิดีโอดังกล่าว กลายเป็นเรื่องเฮฮาบนโลกวิดีโอเกมไปช่วงระยะเวลาหนึ่งกันเลยทีเดียว

แต่เกมเมอร์อาจไม่ทราบว่าระบบฉี่ของวิดีโอเกมได้มีมานานตั้งแต่ยุค 80’s แล้ว และนับจากเวลานั้นเป็นต้นมา คุณอาจไม่เชื่อมาก่อนว่าการฉี่ในเกมก็สามารถเปลี่ยนซีนวงการเกมได้ไม่มากก็น้อยเช่นกัน นี่จะเป็นการเปิดประวัติศาสตร์การ “ฉี่” ในโลกวิดีโอเกม ที่เคยสร้างเสียงฮือฮาในคอมมูนิตี้เกม แล้วเนื้อหาจะเป็นอย่างไรบ้าง ก็สามารถรับชมได้เลยครับ

Mystery House

Mystery House เป็นเกมเล่าเรื่องแบบกราฟิกเกมแรกของโลกที่มีฉากหลังเป็นห้องน้ำ โดยผู้เล่นสามารถสั่งให้ตัวละคร “ฉี่ลงโถส้วม”

แต่แน่นอนว่าเกมดังกล่าวเป็นเกมสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ Apple II ของปี 1980 ซึ่งฮาร์ดแวร์เครื่อง PC ดังกล่าว ยังไม่ทรงพลังเท่า PC รุ่นปัจจุบันอีกหลายขุม ฉะนั้นวิธีการ “ฉี่ลงส้วม” จะไม่ใช่เป็นการควบคุมปุ่มแอนะล็อก แต่เป็นการพิมพ์คำสั่ง “PEE” เพื่อปัสสาวะ แล้วเมื่อผู้เล่นออกคำสั่งฉี่เสร็จแล้ว กราฟิกของเกมจะมีการขีดเส้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนฉี่

การออกคำสั่งให้ตัวละครฉี่ของเกม Mystery House จัดเป็นระบบที่สามารถสร้างฮือฮาในวงการเกมได้ แต่น่าเสียดายที่ปี 1983 อุตสาหกรรมเกมทั่วโลกได้เกิดวิกฤตการณ์ “Video Game Crash” ขึ้นมา ส่งผลให้เกมดังกล่าว ถูกลบออกจากร้านค้าขายเกมอย่างรวดเร็ว

Leather Goddesses of Phobos

ถึงแม้วิดีโอเกมยุค 80’s หลายเกมจะเริ่มสามารถสร้างเกมที่มีภาพกราฟิก 8-Bit ซึ่งช่วยนำเสนอเกมให้มีภาพเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น แต่เกมประเภท Text-Based (เล่าเรื่องด้วยตัวอักษรอย่างเดียว) ก็ยังไม่ตายหายจากไปไหน และรับความนิยมบนเครื่อง PC ต่อเนื่อง

แต่ Leather Goddesses of Phobos หนึ่งในเกม Text-Based Game ของ Infocom ในปี 1986 ได้สร้างปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่เกมเมอร์ต่างคาดไม่ถึง นั่นคือผู้เล่นจะสามารถสั่งให้ตัวละครเข้าห้องน้ำผู้ชาย และเลือก “ทำธุระส่วนตัว” ได้ ซึ่งตัวเกมไม่ใช่แค่สั่งให้ เปิดโถ > ฉี่ อย่างเดียว แต่ตัวเกมได้มีความใส่ใจในรายละเอียดในส่วนของการสั่งปัสสาวะ ด้วยการบอกความรู้สึกของตัวละครหลังฉี่เสร็จสิ้นแล้ว เพื่อให้เกมเมอร์สามารถจินตนาการโมเมนต์ที่ “ฟิน” ที่สุดในสามโลกตามมาอีกด้วย

Leisure Suit Larry in the Land of the Lounge Lizards

หลังจากเกม Leather Goddesses of Phobos ประสบความสำเร็จสำหรับวงการเกม Text-Based Game ไปแล้ว ทีมงาน Sierra จึงตัดสินใจสร้างเกม Leisure Suit Larry in the Land of the Lounge Lizards ในปี 1988 ซึ่งเป็นเกมเล่าเรื่องกราฟิกที่มีเนื้อหาสยิวจนติดเรท  ก็ได้ใส่ฉากห้องน้ำให้เกมเมอร์ใช้โถส้วมเพื่อปลดทุกข์เช่นกัน

ด้วยภาพกราฟิก 8-bit ที่มีรูปร่างชัดเจน และมีกล่องข้อความโผล่ขึ้นกลางจอ ทำให้เกมเมอร์รู้สึกเหมือนกำลังมองตัวละคร (ที่ผู้เล่นควบคุม) กำลังยืนฉี่อย่างสบายใจเฉิบ แต่ต่อมาเมื่อเกมเมอร์กดชักโครกจะพบว่าท่อน้ำของโถส้วมแตกจนน้ำท่วมห้อง ซึ่งเกมเมอร์จะต้องหาวิธีออกจากห้องน้ำให้เร็วที่สุด ก่อนที่ผู้เล่นจะต้องจมน้ำ (ฉี่) จนตายในสภาพที่อนาถ และ Game Over ในที่สุด

Duke Nukem 3D

ช่วงปี 1993 เกม Doom ได้สร้างนวัตกรรมเกมยิง-แอ็กชันตลอดกาล ด้วยระบบมุมกล้องแบบ First Person และมีเนื้อหารุนแรงแบบจัดเต็ม จึงทำให้ค่ายเกมหลายเกมเริ่มหันมาสร้างเกม FPS มากขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเกม Duke Nukem 3D จากทีมงาน 3D Realms ที่เคยออกวางจำหน่ายช่วงปี 1996

Duke Nukem 3D กลายเป็นเกมดังในชั่วข้ามคืน ด้วยการเปิดเดบิ้วตัวละคร Duke Nakem ที่มีความน่าจดจำด้วยทรงผมสุดเท่ สามารถพูดกับตัวเองได้ พร้อมกับกล่าวประโยคเด็ดว่า “ได้เวลาเตะก้นพวกเอเลี่ยนกลับโลกเก่า และเคี้ยวหมากฝรั่งแล้ว” ซึ่งเป็นคำพูดที่มีเอกลักษณ์ประจำตัวจนถึงทุกวันนี้

แต่แน่นอนว่าว่าตัวเกมมีการแอบใส่ระบบ “ฉี่” เป็นฟีเจอร์ขำ ๆ เข้าไปอีกด้วย ซึ่งถ้าหากเกมเมอร์แวะเข้าเยี่ยมห้องน้ำ ผู้เล่นสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับโถส้วมด้วยการฉี่ลงโถ และกดชักโครกได้

แม้มันเป็นเพียงฟีเจอร์เล็ก ๆ ที่ไม่ส่งผลต่อเนื้อเรื่องหรือเกมเพลย์ แต่เนื่องจาก Duke Nukem 3D เป็นเกมแอ็กชันที่กำลังบูมมากในปี 1996 และผู้เล่นหลายคนได้มีโอกาสได้ลองสัมผัสเกม PC มากขึ้น ทำให้เกมเมอร์กับเจ้าสำนักเกมหลายแห่ง ยกย่องให้ Duke Nukem 3D เป็นหนึ่งในเกมที่สร้างนวัตกรรมต่อวงการเกม เพราะตัวละครสามารถพูดได้ มีเนื้อเรื่องสุดเท่ และแน่นอนตัวเกมยังมีความใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ด้วยการยกตัวอย่างใส่ระบบฉี่เข้าไปในเกมอีกด้วย

The Sims

The Sims เป็นเกมที่สร้างปรากฏการณ์ต่อวงการเกมจำลองการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง เพราะตัวเกมได้มอบความคิดสร้างสรรค์ให้เกมเมอร์ทุกคนด้วยระบบสร้างบ้าน จัดเฟอร์นิเจอร์ และตกแต่งซิมส์ของตัวเองได้อย่างอิสรเสรี พร้อมมอบประสบการณ์เกมเพลย์ที่ให้ผู้เล่นสามารถใช้ชีวิตบนโลกเดอะซิมส์ได้ตามใจฉันที่อยากต้องการ

แต่ภายใต้ความสดใสและโลกสวยของ The Sims ตัวเกมกลับนำเสนอสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกมเมอร์หลายคนต้องช็อก นั่นคือระบบ “เซนเซอร์” เนื้อหา ซี่งเกมนี้อาจเป็นเกมแรกและเกมเดียวเลยก็ว่าได้ ที่ใส่ฉากโมเสกแบบชัดเจนเมื่อตัวละครเดอะซิมส์อาบน้ำหรือทำธุระส่วนตัวบนโถส้วม

แต่การฉี่ของ The Sims จะไม่เหมือนกับเกมอื่น เพราะเกมนี้จะมีค่าความต้องการของมนุษย์อย่างหนึ่งที่เรียกว่า “ขับถ่าย” ซึ่งถ้าหากค่าขับถ่ายลดลงไม่ถึงครึ่งช่อง ผู้เล่นจะสามารถฉี่ลงโถส้วมได้ แต่ถ้าหากค่าขับถ่ายลดลงจนมิดหลอด ซิมส์จะฉี่แตกคากางเกงตรงนั้นทันที

On the Piste

ในช่วงเวลาอนาคต พวกเราหลายคนอาจได้เห็นรถบินได้, หนัง Jaws ภาคที่ 19 หรือรองเท้าผ้าใบที่สามารถผูกเชือกด้วยตัวเอง เหมือนภาพยนตร์ Back to the Future เคยทำนายอนาคตไว้ แต่สิ่งที่เราเห็นตอนนี้ กลับเป็นวิดีโอเกมที่สามารถควบคุมด้วย “น้ำปัสสาวะของคุณ” ซะอย่างงั้น

ในปี 2011 บริษัท Captive Media ได้ออกแบบเกมสำหรับโถปัสสาวะ เพื่อให้ผู้ใช้งานห้องน้ำทุกคนสามารถเล่นเกมระหว่างการทำธุระส่วนตัว ด้วยการใช้ทิศทางของ “น้ำฉี่” เป็นตัวเซนเซอร์ควบคุมเกมทั้งหมด ส่วนสาเหตุว่าทำไมทีมงานจึงออกแบบเกมบนโถส้วมขึ้นมา ? คำตอบคือ “เพราะพวกเขาทำได้” อย่างไงละ!

Pee World VR

มอบประสบการณ์เกม Virture Reality ในรูปแบบใหม่ที่จะช่วยให้คุณสามารถฉี่คล่องมากยิ่งขึ้น! ด้วยเกม Pee World VR โดย Pablo Rochat ที่ให้คุณสามารถปัสสาวะที่ไหนบนโลกก็ได้บนโลก VR ซึ่งถ้าหากคุณคิดว่าการฉี่ในห้องน้ำมันธรรมดาเกินไปละก็… สามารถทดลองฉี่จากการเล่นเกมนี้ก็ได้ครับ

อ้างอิงข้อมูลจาก: Slate