BY KKMTC
18 Sep 18 6:14 pm

ครบรอบ 5 ปี Grand Theft Auto V เกมเปิดโลกกว้างที่นวัตกรรมที่สุดแห่งทศวรรษ

21 Views

สุขสันต์วันเกิดครบอายุ 5 ปี เกม Grand Theft Auto V ที่ได้วางจำหน่ายในวันที่ 17 กันยายน 2013 โดยเกมเมอร์ทั่วโลกรวมถึงฝั่งบ้านเราก็เห็นพ้องตรงกันว่าเป็นเกมแห่งนวัตกรรมที่สุดในทศวรรษ 2010 และได้ขึ้นแท่นอันดับสามเกมขายดีที่สุดตลอดกาลเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งผู้เขียนก็เห็นด้วยว่าเป็นเกมหนึ่งที่มีชื่อเสียงแข็งแกร่งและยังคงรักษามันไว้ได้คงที่แล้วได้สร้างความว้าวสุด ๆ มาโดยตลอด แล้วเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง ผู้เขียนอยากจะแสดงความรู้สึกต่อเกมนี้ซะหน่อย

นี่คือ “ครบรอบ 5 ปี Grand Theft Auto V เกมเปิดโลกกว้างที่นวัตกรรมที่สุดแห่งทศวรรษ” จะเป็นการแสดงความคิดเห็นต่อเกมระดับตำนานที่ได้ขึ้นผลงานชิ้นโบว์แดงแรงแซงโค้งมากกว่าภาคเก่าไปหลายเท่าสำหรับเกมค่าย Rockstar Games ตั้งแต่ช่วงก่อนวันวางจำหน่ายเกมมาจนถึง Day One สำหรับฝั่ง PC ที่ได้รับการพอร์ตลงภายหลังในรูปแบบ Remastered

ไฮป์ตั้งแต่ก่อนเปิดตัว Trailer ตัวแรกจนถึงวันปล่อยเกม

ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ปี 2011 (ช่วงที่ประเทศไทยพบกับวิกฤติการณ์ธรรมชาติน้ำท่วมหนักสุดในรอบหลายปี) Rockstar Games ได้ประกาศเปิดตัว Trailer เกมตัวแรกสำหรับ Grand Theft Auto V โดยก่อนหน้านี้สำนักเกมต่าง ๆ เริ่มได้เดาต่าง ๆ ว่าจะตั้งสถานที่ไว้ที่ไหน ขนาดแผนที่ใหญ่ขนาดไหน ก็ต้องบอกเลยว่ามันไฮป์ตั้งแต่ Trailer ได้เริ่มนับเวลาถอยหลังแล้ว

 

Trailer ตัวนี้สร้างความว้าวให้ผู้เขียนหลายอย่างไม่ว่าการนำเสนอด้วยการอธิบายสุดหรูหรา, ฉากเซตติ้งในเมือง Los Santos ที่อยู่ในภาคขวัญใจมหาชนอย่างภาค San Andreas, ฉากทิวทัศน์ภายในเกมตั้งแต่ตัวเมืองจนถึงย่านชนบท, ฉากปล้นเพชรไล่ล่าระหว่างโจรกับตำรวจ, ความเลื่อมล้ำเน่าเฟะทางสังคมในปัจจุบัน ซึ่งทั้งหมดที่นำเสนอเป็นการสื่อถึงความมีชีวิตเป็นธรรมชาติที่ผู้เล่นจะได้ประสบเจอในเกม GTA V ทั้งสิ้น

แต่ที่สำคัญที่สุด เสียงพากย์ที่คาดว่าเป็นตัวละครเอกได้กล่าวไว้ว่า เขาเป็นอดีตอาชญากรที่ย้ายเมืองเข้ามาใน Los Santos เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่สุดท้ายก็วกวนอยู่วัฏจักรเดิม ๆ ซึ่งเป็นสัญญาที่ดีว่าเนื้อเรื่องจะต้องออกมาดูดีและดราม่าแน่นอน

แล้วความไฮป์เริ่มทยอยเป็นทวีคูณ หลังจากทางทีมงาน Rockstar Games ได้เปิดเผยถึงข้อมูลเกมเพลย์ที่เกมเมอร์จะได้พบ โดยเฉพาะระบบการเปลี่ยนตัวละครที่สามารถเลือกเล่นได้สามคน Micheal De Santa ชายผู้เกษียณได้วางมือจากโลกอาชญากรรม แต่ต้องกับประสบปัญหาครอบครัวแทน, Franklin Clinton สมาชิกแก๊งผิวสี Grove Street Family ที่ต้องการโอกาส และ Trevor Philips เจ้าโรคจิตต่อต้านสังคมที่จะกำจัดทุกคนที่ขวางหน้า

ซึ่งตัวละครทุกคนจะมีความสัมพันธ์ต่อกัน มีเอกลักษณ์ความสามารถที่แตกต่างกันไป และมิชชั่น Heist ที่เป็นไฮไลท์ของเกมการเล่นภาคนี้มันนำเสนอรู้สึกเจ๋งกับครีเอทีฟสุด ๆ

GTA V

ไม่ใช่เพียงเท่านี้ เป็นครั้งแรกที่เกมได้เปิดตัว GTA Online หรือโหมด Multiplayer ในเกม GTA V ที่คุณสามารถแต่งตัวละครตามที่ตนเองต้องการ โดยคุณจะมีอาชีพรับจ็อบต่าง ๆ จากตัวละครที่มีบทบาทในโหมดเนื้อเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นมือปืนสังหาร โจรกรรม ลักลอบสินค้า ซึ่งจะสามารถลุยเดี่ยวหรือเล่นกับเพื่อน ๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการของมิชชั่น

รวมไปถึงยังมีโหมดเกมสนุกทั่วไป อย่าง Deathmatch, Racing ที่สามารถปรับแต่งสนามอารีน่าสนามรบกับสนามแข่งได้อย่างอิสระ พร้อมอัปโหลดแชร์ให้เหล่าคอมมูนิตี้ได้ทดลองเล่นสนุกแล้วร่วมกัน แล้วนำเงินในเงินในเงินไปใช้สอยเปย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถยนต์ อุปกรณ์รบ และอื่น ๆ อีกมากมาย

ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมา ในตอนนั้นผู้เขียนยังคงเป็นเด็กโตศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายไม่เคยรู้สึกไฮป์จนถึงขั้นสาหัสได้ขนาดนี้ แต่ทว่าน่าเสียดายที่ตอนนั้นผมไม่ได้มีโอกาสได้ Day One เกมนี้ เพราะในตอนนั้น GTA V ยังคงลงให้กับแพลตฟอร์มเครื่องคอนโซล PS3 และ XBox 360 เท่านั้น ทำให้เกมเมอร์หลายคนต่างเรียกร้องให้ GTA V พอร์ทลง PC ด้วย

GTA V

และแล้วความฝันก็เป็นจริง เพราะว่าปีต่อมาทาง Rockstar Games ได้ประกาศเวอร์ชั่น PC ในรูปแบบ Remastered ที่ยกระดับภาพกราฟิกให้สูงขึ้นให้เทียบเท่ากับระดับ Next Generation ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งผู้เขียนได้เริ่มเก็บเงินเพื่อประกอบ PC ตัวใหม่เพื่อเกม GTA V มาโดยเฉพาะ ด้วยการบังคับตัวเองให้ Pre-Order เกมเพื่อเป็นแรงผลักดันให้เก็บเงินเลยทีเดียว แล้วจนกว่าจะถึงวันปล่อยเกมสำหรับ PC ผู้เขียนจะหลีกเลี่ยงการโดนสปอยล์ให้ได้มากที่สุดตลอด 2 ปี หลังจากเกมได้ปล่อยวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

ความรู้สึกหลังจากการเล่น

ความรู้สึกส่วนตัวสำหรับเกม GTA V โดยรวมแล้ว มีความเห็นว่าเป็นเกมที่ดีที่สุดและเป็นเกมแห่งนวัตกรรมนับตั้งแต่เริ่มทศวรรษมาปี 2010 เป็นต้นไป แต่จะบอกว่าเป็น “เกม GTA ที่ดีที่สุด” หรือไม่? ผมว่าไม่

สิ่งที่ผมชอบสุด ๆ สำหรับเกม GTA V ก็คือการออกแบบมิชชั่นได้อย่างสร้างสรรค์และเล่นสนุกมากกว่าหลายภาคที่ผ่านมา โดยเฉพาะมิชชั่น Heist ที่เป็นไฮไลท์หลักของ GTA V ก็สามารถบรรลุความหวังตามที่ผู้เขียนคาดหวังไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตัวทีมสมาชิกที่มีความเสี่ยงว่าจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่, จะเลือกแผน A หรือ B ได้ตามอิสระ และรู้สึกเร้าใจตั้งแต่ต้นจนจบ โดยเฉพาะมิชชั่น The Paleto Score ปล้นธนาคารชนบทที่พกอาวุธหนักเต็มอัตราศึกที่ถึงขั้นต้องเอากองทัพมาจัดการกับเรา

GTA V

และมิชชั่นทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น Micheal, Franklin และ Trevor ต่างมีการนำเสนอในรูปแบบของตัวเอง ทำให้มิชชั่นในเกมแทบจะไม่มีความซ้ำซากเลย แล้วนอกจากนี้กิจกรรมภายในเกมก็ได้ยกระดับความหลากหลายมากขึ้นไปอีกไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง Side Mission จากคนสุดเพี้ยน (Papalazzi อย่างเ*ี้ย), ตีกอร์ฟ, ล่าสัตว์, เล่นหุ้น, เปย์ระบำเปลือยผ้าแบบจัดเต็มกว่าเดิม

หรือรวมไปถึง Collector Item มากมายน่าสนใจที่ทำให้ผู้เล่นขยันค้นหาตามเมืองชนบทต่าง ๆ (แต่ไม่มีตัวไหนเมากาวเท่ากับ Peyote Plants ที่ได้เล่นเป็นสัตว์อีกแล้ว)

GTA V

แต่สิ่งที่ผู้เล่นไม่ชอบเท่าไหร่นักก็คือตัวร้ายและความซีเรียสของเนื้อเรื่อง เพราะตัวร้ายของ GTA V เหมือนเป็นแค่ตัวตลกเกรียน ๆ ที่ไม่มีอะไรน่าจดจำเท่าไหร่เลย แตกต่างจากภาคเก่าที่มีตัวร้ายที่มีวีรกรรมทำให้ผู้เล่นรู้สึกเกลียดขี้หน้าสุด ๆ รวมไปถึงความซีเรียสของเกมนี้ได้โดนลดท่อนลงไปมาก ทำให้ GTA V กลายเป็นเกมตลกร้ายเสียดสีสังคมแทน

และระบบสลับตัวละครทั้งสามคนเป็นดาบสองคมที่ผมคาดไม่ถึง แม้ว่าจะทำให้การนำเสนอแปลกตา น่าจดจำ ได้รับรู้ถึงวิธีการใช้ชีวิตในแต่ละคน แต่กลับกลายเป็นว่าทำให้ตัวละครไม่รู้สึกเต็มที่สุดซักทาง ยกเว้นแต่ Micheal De Santa ที่ผมอินกับตัวละครนี้มากที่สุดในเกม แต่ก็ไม่สู้เทียบเท่ากับ Niko Bellic จาก GTA IV ที่มีความเป็นมนุษย์มากกว่าอยู่ดี

GTA V

ปริมาณรถยนต์มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางน้ำ ทางบก และทางอากาศ แล้วฟิสิกส์การขับรถเปลี่ยนเป็นสไตล์อาร์เคตที่ขับรถได้สนุกสนาน แต่ส่วนตัวแล้วยังคงชอบฟิสิกส์การขับรถแบบภาค IV ที่มีความสมจริงขับยากเพื่อเสริมความท้าทายในการไล่ล่า

แต่สิ่งที่ผู้เขียนไม่เข้าใจคือทำไมต้องลดท่อนระบบฟิสิกส์ Ragdoll ของ GTA V ให้เรียบง่ายกว่าเดิมด้วย เพราะว่า GTA IV มีระบบ Ragdoll ที่ไหล่ลื่นมาก แต่กลับทำให้มันแย่ลงกว่าเดิมซะงั้น ซึ่งอาจจะเป็นเพราะทีมงานต้องการให้เกมไม่กินประสิทธิภาพมากจนเกินไปจึงตัดสินใจลดท่อนลงไปก็มีความเป็นไปได้

กราฟิกรูปแบบ Remastered ก็ได้รับการอัปเกรตและมีตัวเลือกมากมายให้ปรับแต่ง รวมถึงผ่าน Optimization มาอย่างดี แม้เกมนี้จะมีภาพกราฟิกในยุคปลายก่อนเข้าสู่ยุค Next Generation แต่ก็ยังดูสวยงามเป็นอย่างมาก ซึ่งผมมักจะใช้เวลาว่างไปเที่ยวตามสถานที่แลนด์มาร์คต่าง ๆ ในเกมแล้วเข้าโหมด Rockstar Editor ที่เป็นระบบรีเพลย์ภาพที่มีอุปกรณ์ตัดต่อมากมายให้เกมเมอร์ได้ทำ footage ลงคลิป Youtube เพื่อให้เกมเมอร์ได้สร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ โดยไม่รู้จบ

GTA V

มาพูดถึงสิ่งที่เกลียดที่สุดในเกม GTA V นั้นก็คือคอมมูนิตี้เกมในส่วนของ Online – เกมเมอร์เกือบทุกคนเกรียนแตก หรือ Toxic กันหมด อย่างเช่นอยู่ดี ๆ ก็โดนฆ่าแบบไม่มีเหตุผลบ้าง, จู่ ๆ ก็มีแฮกเกอร์แจกมาตังให้ทุกคนบ้าง (อันนี้ไม่รู้ว่าควรชื่นชมหรือด่าดี) แต่บางส่วนที่ผู้เขียนไม่ค่อยถูกจริตในส่วนของระบบ Online เพราะการ “Grinding”

ซึ่งเป็นตัวร้ายของผู้เขียนเองที่ไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมกับการนั่งเล่นเกมทำมิชชั่นเดิม ๆ ทั้งวันเพื่อปั๊มเงินเท่าไหร่นัก และที่น่าเจ็บใจคือผู้เขียนไม่ค่อยมีเพื่อนเล่นเกมแนวนี้เลย รวมไปถึงรสนิยมของผู้เขียนชอบลุยเดี่ยวมากกว่าลุยเป็นกลุ่มจึงทำให้ผู้เขียนไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมกับการเล่น GTA Online เท่าที่ควร ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ผู้เขียนไม่สามารถสนุกกับมันได้เท่าที่ควร ทั้ง ๆ ที่ทุกวันนี้ยังมีอัปเดตเนื้อหามาโดยตลอด

สรุปแล้ว สำหรับผู้เขียนเอง GTA V เป็นเกมที่ต้องการให้รูปแบบเกมการเล่นเรียบง่ายมากขึ้นหลังจากที่เกมเมอร์หลายคนได้รับฟิตแบคจากภาค GTA IV ที่เกมเมอร์หลายคนมองว่าเล่นยาก และตัวละครเอกอีโมเกินไป (WTF มันไม่ดีเรอะ!)

ซึ่งสำหรับผู้เขียนแม้ว่าจะไม่ใช่เกม GTA ที่ดีที่สุด แต่ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่า GTA V เป็นเกมนวัตกรรมที่ได้สร้างนิยามเกมประเภท Open-World ให้ล้ำขึ้นไปอีกขั้น ด้วยความใส่ใจในรายละเอียด เกมเพลย์เล่นสนุก ตัวละครน่าจดจำด้วยนิสัยการแต่งกาย และการยกระดับความ Immersive ของโลกในวีดีโอเกมที่ออกแบบได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีชีวิตชีวาที่สุด ที่ไม่มีเกมไหนเทียบเท่าได้อีกแล้วในตอนนี้

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top