เป็นอีกหนึ่งค่ายเกมที่ออกมาประกาศชัดว่า โมเดลทางธุรกิจของ Steam ที่ขอส่วนแบ่งยอดขายเกมไป 30% นั้นไม่สมเหตุสมผลสำหรับ Ubisoft หลังจากที่เคยย้ำเรื่องนี้ไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้
เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยโดย New York Times ที่ได้พูดคุยกับคุณ Chris Early รองประธานฝ่ายหุ้นส่วนและรายได้ของ Ubisoft ที่ให้ความเห็นอย่างชัดเจน ว่าส่วนแบ่งการตลาด 30% ของ Steam นั้นไม่สมเหตุสมผลอีกต่อไปแล้ว และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่พวกเขาถอนการวางจำหน่ายเกมบน Steam ไปวางจำหน่ายที่อื่นแทน
“มันไม่สมเหตุสมผลเลยครับสำหรับโมเดลทางธุรกิจในยุคปัจจุบันนี้” Early กล่าวถึง Valve “เพราะมันไม่ได้สะท้อนถึงความเป็นจริงในโลกปัจจุบัน ในด้านของการจัดจำหน่ายเกม”
Epic นั้นมีการจัดเก็บส่วนแบ่งที่แตกต่างจาก Steam ที่ขอรับส่วนแบ่งยอดขายเกมเพียง 12% และมอบ 88% ที่เหลือให้กับผู้พัฒนา ซึ่งการขอส่วนแบ่ง 30% นั้นเป็นจำนวนปกติที่ร้านค้าแบบดิจิทัลอย่าง PlayStation, Xbox, Apple, Google และอีกหลายแห่งใช้กันทั่วไป
และดูเหมือนว่าการย้ายการจัดจำหน่ายเกมไปอยู่บน Epic Games Store จะสร้างผลดีให้กับ Ubisoft มากกว่า เพราะยอดผู้ใช้งานและสั่งซื้อเกมบน Uplay ของพวกเขานั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นการรับเงินเต็มโดยที่ไม่ต้องเสียส่วนแบ่งให้ใคร ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือเกม The Division 2 ที่ประธานของ Ubisoft อย่างคุณ Yves Guillemot เคยกล่าวว่า เกมมียอดขายมากกว่าภาคแรกอย่างมากนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม แม้เกมใหม่ ๆ หลายเกมของ Ubisoft จะไม่ได้จัดจำหน่ายบน Steam แล้ว แต่หลายเกมก็ยังได้รับการอัพเดตอยู่อย่างสม่ำเสมอและเท่าเทียมกัน และยังมีการเข้าร่วมกับ Google เพื่อนำเกมไปวางจำหน่ายบนระบบ Stadia อีกด้วย ก็ต้องมาดูกนว่าอนาคตของทาง Ubisoft เกี่ยวกับการพัฒนาเกมนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไปครับ
