BY KKMTC
7 Aug 18 4:49 pm

Team Fortress 2 บทเรียนเกมดีแต่ผู้เล่นลดเพราะ “นิ่งอยู่กับที่”

11 Views

เกมเมอร์หลายคนที่ครอบครองบัญชี Steam จะต้องผ่านมือผ่านไม้ Team Fortress 2 เกม FPS Multiplayer ของค่าย Valve มาบ้างอย่างแน่นอน เพราะว่าเกมนี้เป็น Free 2 Play ที่ทุกคนเล่นได้ รวมถึงเกมนี้ติดอันดับท็อป 10 เกมที่มีผู้เล่นออนไลน์มากที่สุดใน Steam และทุกวันนี้ยังคงรักษาสถิติไว้มาโดยตลอด จนกระทั่งเข้าสู่ปี 2018 เป็นปีทองของเกม Multiplayer ประเภท Competitive Play อย่าง Overwatch และเกมยิงเอาตัวรอดสไตล์ Battle Royale เช่น PUBG ที่ได้ครองสถิติอันดับหนึ่งในตำแหน่งยอดผู้เล่นที่เยอะที่สุดใน Steam มาตั้งแต่ปลายปี 2017 จนถึงปี 2018 ในปัจจุบัน

เพราะด้วยกระแสเกมประเภทใหม่กำลังมาแรง ย่อมต้องส่งผลกระทบต่อยอดผู้เล่นเกมอื่น ๆ ตามมาหลายเกม และเหยื่อรวมไปถึงเกม Team Fortress 2 ที่ชาร์ทสถิติตกลดหวบอย่างเห็นได้ชัดเจน ในขณะที่เกม DotA2 และ Counter-Strike: GO ของ Valve ยังคงรักษายอดผู้เล่นสูงสุดไว้ได้สมดุลอยู่

Team Fortress 2

ตั้งแต่ต้นปี 2015 ยอดผู้เล่น TF2 น้อยลงตามกาลเวลาโดยเฉพาะปี 2018 ที่ลดลงอย่างชัดเจน

ผู้เขียนได้เล่นเกม Team Fortress 2 มาตั้งแต่สมัยเกมยังขายในเกมกล่อง The Orange Box และยังคงเล่นเกมนี้เป็นระยะ ๆ ไว้แก้เบื่อจน แต่ก็ไม่เหมือนในอดีตที่ผมเล่นเกม TF2 เป็นประจำ และใช้เวลาในการเล่นนานถึง 3-5 ชั่วโมงเกือบทุกวัน แต่แล้วทำไมจู่ ๆ ยอดผู้เล่นเกม Team Fortress 2 ไม่ขยับกระเตื้องขึ้นเลยตั้งแต่ปี 2016 ? แต่ก่อนที่ไขข้อสงสัยเหล่านี้ เราจะต้องย้อนอดีตกลับไปสู่จุดรุ่งเรืองของเกมนี้ซะก่อน

จุดเริ่มต้นของ TF2

ย้อนกลับไปในปี 2007 เกมนี้ได้รับความสนใจในหมู่เกมเมอร์สาวก Valve เป็นอย่างมาก ด้วยพลังของเกมกล่อง The Orange Box ที่ประกอบไปด้วย 5 เกมคุณภาพอย่างเช่น Half-Life 2 ทุกภาค, Portal และ Team Fortress 2 ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล และผู้เล่นทุกคนสามารถจ่ายเงินซื้อได้โดยกระเป๋าไม่ช็อตจนเกินไป

The Orange Box

เกมเมอร์หลายคนเข้าใจดีว่า ดั้งเดิมเกม Team Fortress 2 ไม่ใช่เป็นเกมเล่นฟรี, ไม่มีระบบ Microtransections, ไม่มีไอเท็มตกแต่งตัวละคร, เนื้อหาของเกมมีระบบน่าสนใจ และเกมการเล่นเรียบง่ายที่ผู้เล่นทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยโหมดหลัก ๆ ยังมีเพียงแค่ Attack/Defend, Payload, Control Points และ Capture the Flag เท่านั้น

แต่สิ่งที่เกมนี้โดดเด่นมากที่สุดก็คือ เรื่องของกราฟิกในรูปแบบสไตล์การ์ตูน Pixar พร้อมกับการนำเสนอที่รุนแรงปนตลกร้าย และ คลาสในแต่ละคนจะมีลักษณะนิสัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เป็นแกนหลักของเกมนี้ ซึ่งทีม Valve ได้เริ่มทยอยปล่อยวีดีโอโปรโมทเกทในซีรี่ส์ Meet the … ที่จะนำเสนอถึงชีวิตประจำวันของแต่ล่ะคลาสในรูปแบบแอนิเมชั่นที่ผลิตโดย Source Flim Maker ทำให้เกมนี้เริ่มเป็นกระแสได้รับความสนใจจากหมู่คนเล่นเกม Multiplayer มากขึ้น และได้กลายเป็นเกมที่ครองใจในเฉพาะกลุ่ม

Meet the Sniper

ส่วนเกม TF2 เองได้มีการอัปเดทเนื้อหาตามปกติเหมือนเกมออนไลน์ทั่วไป โดยการอัปเดทเนื้อหาตัวแรกมีนามว่า Sniper vs. Spy Update ในช่วงปี 2009 ที่ได้เพิ่มอาวุธชนิดใหม่และนำเสนอไอเท็มตกแต่งตัวละครเป็นครั้งแรกในรูปแบบ “หมวก” และพร้อมเพิ่มโหมดต่าง ๆ เช่น Arena Mode กับ King of the Hill ซึ่งทำให้เกมได้สร้างรสชาติความหลากหลายให้กับตัวเกมมากขึ้น

คอมมูนิตี้ของเกม TF2 เองก็เป็นมิตรทั้งในกลุ่มมือใหม่และหมู่ผู้เล่นจริงจัง ทำให้เกม TF2 จัดว่าเป็นเกมที่เพอร์เฟ็คมาก ๆ สมกับที่เป็นเกม Multiplayer ที่ดีที่สุดในยุคนั้น การันตีโดย Metacritic ให้คะแนนเกมนี้สูงถึง 92/100 ทีเดียว

Team Fortress 2

TF2 เปิดให้เล่นในรูปแบบ F2P แบบสายฟ้าแลบ

จุดสูงสุดของ Team Fortress 2 ก็คือการเปิดเกมให้เล่นฟรีอย่างเต็มรูปแบบในปี 2011 โดยไม่มีการประกาศล่วงหน้าโดย Valve และการประกาศเปิดให้เล่นฟรี สร้างความไม่พอใจให้กับแฟน ๆ เกมนี้บางส่วน เพราะเชื่อว่าผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่ได้ผ่านการคัดกรองจากการซื้อเกมจริง ๆ จะทำให้คอมมูนิตี้ของเกมนี้ดรอปคุณภาพลง

แต่อย่างไรก็ตาม เพราะว่าเกมนี้ได้เปิดให้ทุกคนเล่นได้โดยไม่ต้องจ่ายตัง การโฆษณาเกมที่มีประสิทธิภาพ และเป็นเกมดีที่บอกกันปากต่อปากระหว่างคอเกมเมอร์ด้วยกันเอง ทำให้ยอดผู้เล่น Peak Players สูงสุดถึง 100,917 คนในวันเปิดตัวครั้งแรก (อ้างอิงจาก Steamcharts) ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในประวัติการณ์ของ Team Fortress 2

Team Fortress 2

และในปี 2012 ต่อมา Valve ได้เพิ่มโหมด Co-op ในชื่อโหมด MvM ที่ต้องให้ทีมปาร์ตี้ของเรา ที่มีหน้าที่ช่วยกันกำจัดการเหล่าฝูงหุ่นยนต์ให้สิ้นซาก พร้อมกับนำเสนอแรร์ไอเท็มชนิดใหม่เป็นรางวัลจากการเล่นโหมด MvM อย่างเช่น ปืนระดับ Austrarium และปืนประเภท Botkillers เพื่อเสริมความขลัง และโชว์ถึงประสบการณ์ผู้เล่นให้โลกว่าผ่านอะไรมาบ้าง (และอวดไอเท็มของตนไปในตัว)

ที่สำคัญแม้ว่าเกมนี้จะเปิดให้เล่น Free 2 Play และได้เพิ่มระบบซื้อไอเท็มด้วยเงินจริงอย่าง Microtransections เพื่อไว้ใช้สอยไอเท็ม, สอย lootbox เพื่อสุ่มเปิดไอเท็มเครื่องแต่งกายระดับ Unusual ที่เป็นคุณภาพแรร์สูงสุดพร้อมกับเอฟเฟคสวยงามก็จริง แต่เกมนี้ก็ไม่ได้จัดว่าเป็นเกม Pay 2 Win เลยแม้แต่นิดเดียว

Team Fortress 2

เพราะเกือบทุกไอเท็มในเกมนี้ สามารถสุ่มดรอปในระหว่างการเล่นเกมได้ ถ้าหากผู้เล่นไม่ใช่อาวุธชนิดนี้ ก็สามารถนำไปคราฟไอเท็มเป็นหมวกแบบสุ่มได้ และทุกการอัปเดทใหญ่ ทางทีมงาน Valve จะนำไอเท็มยอดนิยมทั้งในส่วนของอาวุธ และไอเท็มตกแต่งที่เหล่าคอมมูนิตี้ได้โหวตเรียกร้องขึ้นมาใน Steam Workshop แล้วนำมาใช้เป็นไอเท็มในเกมจริง ๆ ซึ่งเป็นการแสดงถึงความเอาใจใส่ระหว่างทีมงาน Valve และคอมมูนิตี้ของเกมนี้อย่างชัดเจน

Team Fortress 2

สำหรับปี 2012 – 2015 นี่คือจุดสูงสุดของเกม Team Fortress 2 ที่เกมเมอร์ทุกคนต่างพูดว่าเป็นเกม FPS Multiplayer ที่ยังไปได้อีกไกล และเชื่อว่ามันจะไม่มีทางตายอย่างแน่นอน .. จริงหรือ ?

ร่วงไปตามกาลเวลา

เมื่อกาลเวลาผ่านไปก็จะต้องกัดฟันเลยว่า TF2 ไม่ได้สนุกเหมือนยุคสมัยที่เกมเปิด F2P ในช่วงยุคทองของมัน และผู้เล่นประจำก็ลดลงไปทุกที สังเกตจากสถิติสำหรับเดือนกุมภาพันธ์ที่มีผู้เล่นหายไปเยอะถึง -29% เลยทีเดียว (อ้างอิงจาก:Steamcharts)

ซึ่งสาเหตุของมันง่ายนิดเดียวเพราะ TF2 “นิ่งอยู่กับที่นานเกินไป” เพราะว่าทีมงาน Valve ไม่ได้เอาใจใส่ที่จะเกม Team Fortress 2 อย่างจริงจัง ไม่เหมือนในอดีตที่จะเพิ่มเนื้อหาอะไรให้รู้สึกน่าตื่นเต้นเหมือนที่ควรเป็นมานานถึง 3 ปีแล้ว

  • ผู้เล่นหน้าเก่าหาย หนีไปเล่นเกมอื่นหมด : ตั้งแต่ปีที่เกมเปิดบริการมา เกมนี้ก็มีอายุนาน 11 ปีมาแล้ว จึงเป็นปกติที่ผู้เล่นหน้าเก่า ๆ จะรู้สึกเบื่อกับเกมอะไรที่เหมือนเดิม แล้วหนีไปเล่นเกมที่ทันสมัย ดูสดใหม่มากกว่าเดิม อย่างเช่น Overwatch, Paladins หรือ PUBG เกมยอดนิยมในปี 2016 – 2018 ที่มีลักษณะเป็นเกมรูปแบบ Competitive Play ที่ผู้เล่นจะได้รู้สึกถึงทีมเวิร์คจริง ๆ

Team Fortress 2

ต่างจาก Team Fortress 2 ที่เล่นเพื่อฆ่าเวลาเท่านั้น ถึงแม้ว่าเกมนี้จะเพิ่มโหมด Competitive Mode ในภายหลังไม่นานหลังจากเกม Overwatch ได้ใส่โหมด Ranking แต่มันก็สายไปซะเสียแล้ว

  • เกมอัปเดทไม่มีความว้าวเลย : ทุก ๆ ครั้งที่ TF2 อัปเดทแทบไม่ได้รู้สึกให้เกมน่าเล่นมากขึ้นเลย โดยเนื้อหาที่อัปเดตก็มีเพียงแค่มีแผนที่ใหม่ (ที่ออกแบบซับซ้อนเกินไปจนคนไม่เล่น) ปรับสมดุลจนอาวุธในเกมใช้ไม่สนุก และแก้บัคเล็กน้อยเท่านั้น

Team Fortress 2

มันอาจจะมีเนื้อหาที่เพิ่มเข้ามาอย่าง เช่น Taunt ชนิดใหม่ที่ดูเท่ ดูกวนโอ๊ยก็จริง แต่ไอเท็มชนิดนี้สามารถได้มาจากการสุ่มดรอปที่มีโอกาสต่ำติดดิน, เปิด loot box, และซื้อไอเท็มได้ใน Mann Co. เท่านั้น ทำให้การอัปเดทในแต่ละครั้งในช่วงหลัง ๆ แทบจะไม่ได้รู้สึกว่าผู้เล่นได้รับผลประโยชน์อะไรเลย ทำให้ผู้เล่นไม่รู้สึกคุ้มค่าที่จะกลับมาเล่นต่ออีกครั้ง

  • ชื่อโหมดหรูหรา ความจริงแค่เปลี่ยนชื่อ : แม้ว่าในเกมนี้จะมีโหมดให้เลือกเล่นมากมาย แต่พอได้เล่นจริง ๆ แล้วมันก็แค่เปลี่ยนชื่อโหมด, กฎเล็กน้อย และเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอให้ดูใหม่ ยกตัวอย่างเช่น Doomdays โหมดที่จะต้องแย่งกันส่งของ “Special Delivery” ขึ้นอวกาศ แต่ความจริงแล้วมันก็แค่โหมด King of The Hills ที่ไม่มีเวลากำกับ

Team Fortress 2

หรือจะยกอีกตัวอย่างหนึ่งคือโหมด Mannpower ที่ผู้เล่นจะสามารถใช้อุปกรณ์ Grappling Hook เพื่อไต่กำแพงดั่ง Spider-Man พร้อมกับมีพาวเวอร์อัพมากมายให้เลือกเก็บระหว่างทาง ดูเหมือนจะเป็นรูปแบบเกมใหม่ แต่มันก็เพียงแค่ Capture The Flag ที่มีการออกแบบแผนที่ให้ผาดโผนนิดหน่อยก็เท่านั้น

  • คนรุ่นเก่าตาย คนรุ่นใหม่เข้ามาแทนที่ กลายเป็นเกมสังคมเสื่อมโทรม : TF2 ในปัจจุบัน ผู้เล่นส่วนใหญ่จะมีอายุในวัยเด็กซะส่วนมาก ซึ่งเป็นวัยที่เด็กกำลังคึกคะนอง ทำให้สังคมในเกมนี้เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือไปเป็นหลังมือ เมื่อคุณได้เข้าร่วมเซิร์ฟเวอร์เกม คุณจะมีโอกาสมากกว่า 60% พบเด็กสแปมไมค์, ทำตัว Edgy, สังคมสุดแสนจะ Toxic และมีการแบ่งแยกชนชั้นระหว่าง F2P (ผู้เล่นตลาดล่าง) และ P2P (ผู้จ่ายเงินซื้อเกม)

Team Fortress 2

ด้วยความเป็นเด็กชอบล่นอะไรที่ง่าย ๆ ทำให้เซิร์ฟเวอร์ส่วนใหญ่ห้องจะหมกอยู่กับ idle server (เซิฟปล่อยอิสระ), เซิฟม็อต กับเซิร์ฟเวอร์ห้องที่กำลังเล่นแผนที่ 2fort หรือ Turbine ซึ่งเป็นแมปที่มีขนาดเล็กมาก ไม่ต้องใช้ความเข้าใจเรื่องแผนที่ก็เล่นได้ทันที นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้โหมดและแผนที่ใหม่ใน TF2 ขายไม่ค่อยออกเท่าที่ควร ในขณะที่แผนที่คลาสสิกยังคงได้ความนิยมมาโดยตลอด 11 ปี

Team Fortress 2

จะบอกว่า TF2 เป็น Dead Game ไหม ? ผมจัดว่าเป็นเรื่องจริงครึ่งหนึ่ง เพราะว่าในขณะที่ TF2 ยังคง “อยู่กับที่” และยอดผู้เล่นก็ลดลงอย่างต่อเนื่องทุก ๆ เดือน แต่มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเล่นเกมนี้อย่างต่อเนื่องเพราะเป็นเกมเล่นฟรี และระบบของเกมเพลย์ยังคงทำมาได้สนุกในรูปแบบของมันเอง

แต่ถ้าทีมงาน Valve ยังคงลอยแพเกม TF2 โดยไม่มีการเพิ่มเติมเนื้อหาอะไรเลย ผมก็คิดว่า TF2 ก็มีแนวโน้มว่าจะไปไม่รอดในอีก 10 ปีข้างหน้า หรืออาจจะเร็วกว่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้เขียนอดเป็นห่วงไม่ได้ และน่าเสียดายมาก ถ้าเกมนี้ได้ปิดบริการไปจริง ๆ เพราะ TF2 เป็นหนึ่งในเกมที่ผู้เขียนเติบโตชอบเล่นเกมมาจนถึงทุกวันนี้

ก็หวังว่าทางทีมงาน Valve จะเริ่มมองถึงปัญหา และเข้าใจถึงสถานการณ์ของเกมนี้ในปัจจุบัน เพื่อให้เกมนี้ยังคงอยู่ยืนยาวต่อไปครับ

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top