BY Aisoon Srikum
12 Nov 19 4:03 pm

Single Player แนวเกมที่ไม่มีวันตายและเป็นที่ต้องการของผู้เล่นเสมอ

51 Views

ไม่ว่าจะเป็นคนเล่นเกมประเภทใด แต่เชื่อว่าเกม Single Player นั้นเป็นแนวเกมที่ต้องการของผู้เล่นเสมอมา เพราะมันไม่ต้องหาเพื่อนเล่นให้ยุ่งยาก หรือต่อให้มีเพื่อนเล่นก็ไม่จำเป็นจะต้องมานั่งรอคอยกันว่าเมื่อไรจะมาครบทีมกันแน่ พูดง่าย ๆ คือ มันเป็นความสนุกที่ผู้เล่นพร้อมจะเพลิดเพลินและสนุกไปกับมันได้เลย ทันที ไม่ต้องรอใคร แล้ววลีเด็ด “เกม Single Player มันตายแล้ว” ที่ทาง EA เคยลั่นวาจาไว้ แต่สุดท้ายผลงานใหม่ของพวกเขาอย่าง Star Wars Jedi : Fallen Order ก็มาเป็นเกม Single Player เต็มตัวอีกครั้ง วันนี้เรามาดูกันว่า ทำไมเกม Single Player ถึงไม่มีวันตาย และมันยังคงเป็นที่ต้องการของผู้เล่นอยู่อย่างเสมอ

ความโดดเด่นของเกม Single Player

นอกจากการเล่นโดยไม่ต้องรอเพื่อน รอฝูงแล้ว สิ่งที่ทำให้ Single Player โดดเด่นมากคือการเล่าเรื่องและมีจุดประสงค์ของเกมที่ชัดเจน ในเกม Multiplayer หรือ Co-op Online ตัวเกมมักจะมีจุดประสงค์ในการเล่นที่น้อยมาก นั่นคือการต่อสู้กับผู้เล่นอื่น หรือ PvP ถ้าเป็นเกมแนว Survival หรือเอาชีวิตรอดก็จะเป็นกันช่วยกันหาทรัพยากร และช่วยกันเอาตัวรอด

ในขณะที่เกม Single Player นั้นบางเกมในยุคนี้ก็มีโหมด Co-op หรือ Multiplayer เข้ามาเป็นทางเลือกเช่นกัน เพียงแต่อย่างไรก็ตาม ตัวเกมก็ยังเน้นไปที่การเล่าเรื่องผ่านโลกของเกม ตัวละคร และอื่น ๆ อีกมากมาย โหมด Co-op หรือ Multiplayer เป็นเพียงส่วนเสริมที่เข้ามาเป็นทางเลือกให้ผู้เล่นเท่านั้น เช่นเกมตระกูลโซล หรือ Bloodborne

ในขณะที่บางเกมนั้น แม้จะใส่โหมด Co-op / Multiplayer มา แต่มันก็ไม่ได้อรรถรสหรือดีเท่าการเล่นคนเดียว เพราะมันจะทำให้เกมที่ดูจริงจัง ซีเรียส กลายเป็นเกมตลกโปกฮาไปเลย เช่น Far Cry 5

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ความโดดเด่นของเกม Single Player อยู่ที่การเล่าเรื่อง และทำให้ผู้เล่นเสพบรรยากาศและอรรถรสของโลกในเกมได้อย่างเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยว ในกรณีที่ผู้สร้างเขาตั้งใจทำมาอย่างดีอยู่แล้ว ส่วนบางเกม ก็เหมือนใส่เข้ามาเพื่อเป็นทางเลือกเท่านั้น เหมือนเป็นการรองรับผู้เล่นอีกกลุ่มหนึ่งเฉย ๆ

เกม Single Player คุณภาพ จะทำให้คุณประหยัดเงินซื้อเกม

ต้องขีดเส้นใต้กันตัวหนา ๆ ไว้ก่อนว่ามันต้องเป็นเกมคุณภาพ และอยู่ที่ว่าคุณชอบแนวทาง และเนื้อหาของเกมนั้น ๆ ไหม หากให้พูดถึงชื่อเกม Single Player ที่น่าจะถูกยกขึ้นหิ้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ย่อมมีทั้ง Skyrim , The Witcher 3 , Dragon Age : Inquisition ซึ่งเกมเหล่านี้หากคุณคิดจะเล่นแบบดำดิ่งสู่โลกของเกมให้อินจัด ๆ ก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30 ชั่วโมงขึ้นไป (บางเกมอาจใช้เวลาเป็นร้อยชั่วโมงหรือหลายร้อยชั่วโมง) และขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบเสพ Lore หรือเนื้อหาภายในเกมมากน้อยแค่ไหน ถ้าคุณบ้าเก็บทุกอย่าง ทุกไฟล์เอกสาร ทุกความลับที่ซ่อนอยู่ในเกม ยังไงก็ไปแตะหลักร้อยชั่วโมงได้ไม่ยาก ซึ่งมันจะทำให้คุณประหยัดเงินซื้อเกมขึ้นเยอะ

แต่..ทั้งนี้ทั้งนั้น อีกหนึ่งตัวแปรที่มันจะทำให้คุณเซฟงบจริง ๆ ก็คือ “กิเลส” ของคุณนั่นแหละ คุณจะอดทนรับเกมใหม่ ๆ ที่เปิดตัวมาได้หรือไม่ คุณจะกำเงินของคุณไว้ได้แน่นแค่ไหน เพื่อไม่ให้ปลิวไปกับเกมใหม่ ๆ ที่ออกในช่วงนั้น แต่เชื่อเถอะว่าถ้าคุณทำได้ และจมดิ่งอยู่กับเกมเกมนึงได้นานมากพอจนคุ้ม คุณจะประหยัดเงินไปได้หลายบาทเลยล่ะจะบอกให้

ค่ายเกมหันกลับมาให้ความสำคัญกับเกมแนวนี้มากขึ้น

อย่างที่ได้เกริ่นไปช่วงแรก วลีเด็ดของ EA ที่กล่าวไว้ว่า Single Player นั้นมันตายไปแล้ว กลายเป็นตัวจุดกระแสและเป็นที่ถกเถียงกันของเหล่าเกมเมอร์เป็นอย่างมาก และดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อเกม Single Player ดี ๆ ยังออกมากวาดคำวิจารณ์ในระดับสวยหรู แถมค่าย EA เองก็ยังต้องทำเป็นลืม ๆ คำพูดนี้ไป และหันมาทำ Star Wars Jedi : Fallen Order ที่เป็นเกมผู้เล่นคนเดียวอย่างเต็มรูปแบบ

CD Projekt RED ที่ทำให้ The Witcher 3 กลายเป็นเกมเทพที่แม้จะผ่านไป 4 ปีเต็มแล้วก็ยังมีคนเล่น และมีคนพูดถึงอยู่เสมอ เกมตระกูลฮีโร่อย่าง Batman และ Spider-Man ก็เป็นอีกกรณีตัวอย่างที่่บ่งชี้ว่าเกม Single Player นั้นไม่เคยตายไปจากโลกของวิดีโอเกม นี่ยังมีเกมที่เราไม่ได้พูดถึงอีกมาก

และทีเด็ดเลยคือ Star Wars ของ EA ที่เจ้าของค่ายดันลั่นวาจาข้างต้นเอาไว้ แต่สุดท้าย เพราะยังไงมันก็ขายได้ แม้จะไม่การันตีรายได้จากการเติมเงินแบบพวกเกมออนไลน์ แต่พวกเขาก็ยังต้องทำเกมแนวนี้ออกมาขาย เพราะมันมีผู้เล่นรอคอยและรองรับอยู่นั่นเอง ดังนั้นไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เราอาจจะมีเกม Single Player คุณภาพออกมาให้เราเห็นอีกมากมายเลยก็เป็นได้

สุดท้ายแล้วก็อยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล

จริง ๆ แล้วที่กล่าวมาในประเด็นนี้ ไม่ใช่ว่า Multiplayer ไม่ดี เพราะตัวผู้เขียนเองก็ยังชอบไปนั่งเล่นเกม Multiplayer อยู่เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น Apex Legends หรือ Rainbow Six Siege เพียงแต่ว่าบางครั้งเราก็อยากนั่งสัมผัสกับโลกของเกมแบบเพียว ๆ โดยที่ไม่ต้องไปนั่งแข่งขันกับใคร เพียงแค่เนื้อเรื่องดี ๆ ระบบเกมที่สนุกสนาน ก็เพียงพอที่จะทำให้เราสนุกไปกับการเล่นเกมได้แล้ว

มันขึ้นอยู่กับว่า ณ ช่วงเวลานั้นเราอยากได้อะไรจากการเล่นเกม อยากสนุกไปกับเพื่อนฝูง อยากแข่งขัน หรือแค่อยากจะสนุกไปกับการเล่นเกมเฉย ๆ เพราะสุดท้ายแล้ว พวกเราเหล่าเกมเมอร์ ก็ไม่เกี่ยงอยู่แล้วว่าจะเล่นเกม Single Player หรือ Multiplayer ขอแค่ได้เล่นเกมที่สนุก ก็เพียงพอแล้ว

 

SHARE

Aisoon Srikum

Back to top