BY Aisoon Srikum
6 May 25 3:24 pm

R.E.P.O. แอนดรอยด์ยอดนักดอย เกมสร้างเสียงหัวเราะและคอนเทนต์แห่งปี

99 Views

เปิดปี 2025 เรามีเกมอินดี้ที่มาแรง แซงเกมฟอร์มยักษ์อยู่หลายเกมไม่ใช่น้อย R.E.P.O เป็นหนึ่งในนั้น แม้มันจะไม่ใช่แนวเกมแบบใหม่แกะกล่อง แต่มันกลับจุดกระแสให้คนแห่มาเล่น และจนถึงวันนี้ เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว นับตั้งแต่วางขาย แต่ R.E.P.O ยังคงทำยอดผู้เล่นสูงถึงวันละ 100,000 คน เกมนี้มันมีอะไรดี วันนี้เราขอมาเล่าให้ฟัง

จุดเริ่มต้นและความสำเร็จของ R.E.P.O.

R.E.P.O. เป็นผลงานการสร้างเกมของสตูดิโอ Semiworks หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อเพราะพวกเขาคือทีมทำเกมขนาดเล็ก และมีผลงานก่อนหน้านี้เพียงเกมเดียวเท่านั้นคือ Voidigo เกมแนว Action Roguelike ที่ออกมาในปี 2023 ก่อนที่จะมาเริ่มโปรเจกต์ R.E.P.O ที่ไอเดียตั้งต้นนั้น เป็นเพียงแค่เกม Single Player เท่านั้น โดยไม่มีใครคาดคิดว่า การเปลี่ยนแปลงไอเดียระหว่างทางจะทำให้มันประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้

Semiwork สตูดิโอเกมผู้พัฒนานั้น ตั้งอยู่ที่ประเทศสวีเดน แรกเริ่มเดิมทีพวกเขาทำงานเกี่ยวกับแอนิเมชัน งานศิลป์ และดนตรีเท่านั้น ปี 2023 พวกเขาออกเกมแรกของตัวเองอย่าง Voidigo และมันกวาดคำชมจากเหล่าผู้เล่นบน Steam ไปด้วยบทวิจารณ์ในแง่บวกจากผู้เล่นกว่า 3,000 คน ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลย สำหรับเกมหน้าใหม่ จากผู้พัฒนาหน้าใหม่เช่นกัน

จุดเริ่มต้นของ R.E.P.O. นั้น เริ่มจากแนวคิดเกมสยองขวัญและมีกลไกเกี่ยวกับทำความสะอาดผสมอยู๋ด้วย และตั้งเป้าแรกคือเป็นเกม Single Player เท่านั้น และทีมงาน Semiwork เลือกที่จะใช้ Unity Engine ในการพัฒนา แต่ปรากฎว่าทำไปทำมาก็เกิดอยากจะผลักดันให้มันกลายเป็นเกม Multiplayer ขึ้นมาซะอย่างนั้น แต่ปัญหาก็คือ Unity นั้นเป็นเอนจิ้นที่ไม่เหมาะกับการทำเกม Multiplayeer เอาซะเลย ก่อนที่พวกเขาจะได้คำแนะนำจากทีมพัฒนาเกมแนวเดียวกันอย่าง Landfall (ผู้จัดจำหน่ายเกม Content Warning) ให้ลองใช้ Photon ดู เพราะ Photon ถือเป็นเอนจิ้นที่ทำให้เกมทั้งสนุกและทำงานกับระบบเกมมัลติเพลเยอร์ได้ดี

Semiwork พบว่า Photon นั้นเป็นเอนจิ้นที่ใช้งานได้ง่ายมาก ๆ และเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ ก็สามารถตั้งค่าพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว สำหรับทีมที่ไม่มีประสบการณ์ในการทำเกม Multiplayer มาก่อน การตั้งค่าปรับแต่งเอนจิ้นที่สะดวกสบายและใช้งานง่าย ถือเป็นเครื่องทุ่นแรงที่ดี

แต่อย่างไรก็ตาม การทำเกม Multiplayer นั้น มีอุปสรรคใหญ่อยู่อีกหนึ่งอย่าง นั่นคือเรื่องของการซิงโครไนซ์หรือความเข้ากันได้ระหว่างระบบฟิสิกส์และไคลเอนต์ของตัวเกม เพราะมันมีปัจจัยหลากหลายอย่างเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งความล่าช้าของเครือข่ายอินเทอร์เนตผ้เล่นแต่ละคนที่อาจจะไม่เท่ากัน อัตราเฟรมเรทของผู้เล่นที่ไม่เท่ากัน ไม่ว่าจะปัญหาใด ล้วนส่งผลต่อประสบการณืการเล่น Multiplayer อย่างแน่นอนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งสุดท้ายทีมงานก็ต้องอาศัยสกิล และความสามารถของตัวเอง เรียนรู้ที่จะใช้งานเอนจิ้นและทำให้เกมออกวางขายจนได้

ตั้งแต่ยังไม่ทันได้วางขาย สิ่งที่ R.E.P.O. ทำได้ คือการเข้าถึงผู้เล่นจำนวนมาก และทำให้มันเป็นหนึ่งในเกมที่มียอดคนกด Wishlist สูงมาก จนกระทั่งถึงวันที่เกมเปิดตัว มันประสบความสำเร็จด้วยยอดขายคร่าว ๆ อ้างอิงจากเว็บ Alinea Analytics ว่าอยู่ที่ประมาณ 8.7 ล้านชุด ภายในเดือนมีนาคม (เกมวางขาย 26 ก.พ.) ซึ่งยอดนี้เป็นยอดขายชนิดทวีคูณกับตอน Voidigo เกมแรกของพวกเขาแบบไม่เห็นฝุ่น

นอกจากนั้น  R.E.P.O. ยังเปิดตัวด้วยยอดผู้เล่นหลักหมื่นคน ซึ่งถือว่าเยอะมากแล้วสำหรับเกมอินดี้ ก่อนที่มันจะกลายเป็นกระแสไวรัลแบบปากต่อปากและบนโลกโซเชียล ทำให้ช่วงเดือนมีนาคมนั้น R.E.P.O สามารถกอบโกยยอดผู้เล่น (และมองไปถึงยอดขายได้) ด้วยตัวเลขผู้เล่นสูงสุด 271,571 คน และไต่ขึ้นไปติดอันดับเกมขายดีบน Steam เป็นอันดับ 9 และตอนนี้คะแนนรีวิวในแง่บวกสูงกว่า 96.50%

อย่างไรก็ตาม แสงที่สว่างจ้า ย่อมมาพร้อมกับเงามืด ด้วยความที่เกมมันกลายเป็นกระแสปากต่อปากด้วยความรวดเร็ว มีหรือจะพ้นการโกงเกมของเหล่าคนโฉดทั้งหลาย ด้วยความที่เกมมีโหมด Single Player และในตอนแรก R.E.P.O เปิดตัวเกมมาด้วยระบบ Matchmaking แต่เพราะเหล่าคนโกงเกมเข้ามาทำลายประสบการณ์เล่นของคนเล่นทั่วไปจนวุ่นวายไปหมด และในที่สุดทางผู้พัฒนาจึงตัดสินใจถอดระบบ Matchmaking ออกไป ก่อนจะนำกลับเข้ามาในอัปเดตใหม่เร็ว ๆ นี้

ความปั่นของเหล่าหุ่นกระป๋องนักขนของที่สร้างเสียงหัวเราะแบบเต็มแมกซ์

ไฮไลท์เด่นที่ทำให้เกมกลายเป็นจุดสนใจในทันทีที่มันเปิดตัว คือดีไซน์ของตัวละครที่ของผู้เล่น ที่มาในรูปแบบหุ่นกระป๋องที่รูปร่างหน้าตาเหมือนกับหุ่นแอนดรอยด์ไม่มีผิด แต่มาในลักษณะคล้ายหัวกระสุน มีลูกตาแปะสองข้าง และแขนเหล็กสำหรับดูดจับสิ่งของ และด้วยความที่เกมนี้ใช้ระบบ Voice Chat ภายในเกม ที่เมื่อพอเราพูด ตัวละครของเราก็จะขยับปากพูดเหมือนกัน ด้วยดีไซน์หุ่นกระป๋องแบบนี้ แค่เรากดพูดบางทีก็เรียกเสียงฮากันได้แล้ว และบวกกับอีกระบบเด่นของเกมคือการอ้างอิง Physics Base ที่ทำให้เกมวุ่นวายมากขึ้นไปอีก

เป้าหมายหลักของ R.E.P.O คือ การเข้าไปยังสถานที่ต่าง ๆ แล้วทุกคนจะต้องช่วยกันนำของมีค่าด้านในออกมา ขั้นต่ำคือตามที่ระบบกำหนด แต่สามารถหาเงินเกินที่ระบบกำหนดได้ เพื่อที่ผู้เล่นและทีมจะสามารถนำเงินส่วนเกินไปซื้อของมาอัปเกรดพลังของเจ้าแอนดรอยด์กระป๋องกันได้ สิ่งของแต่ละอย่างจะมีมูลค่าไม่เท่ากัน ชิ้นเล็กก็จะมีราคาที่ถูกหน่อย ส่วนชิ้นใหญ่ก็จะมีราคาแพงมหาศาล แต่แลกมากับการที่มันจะขนย้ายได้ยากมาก รวมไปถึงของทุกอย่างสามารถแตก หรือพังได้ หากไปกระแทกพื้นหรือกำแพง หรือถ้าเหวี่ยงไปโดนผู้เล่นด้วยกันก็แตกหักได้เช่นกัน

การขนของทำให้เกมสนุกตรงที่เราจะหาเงินยังไงให้ได้เยอะที่สุด ถ้าจะขนของหนัก ของใหญ่ ต้องขนยังไงให้มันเสียหายน้อยที่สุด หรือบางทีเพื่อนเราอาจจะทำตัวเป็นอุปสรรคซะเองด้วยการวิ่งปาดหน้า ทำของพัง จนลำบากหาของเพิ่ม และหลังจากจบแต่ละรอบ เราก็จะเข้าสู่เฟสของร้านค้าซื้อของ ผู้เล่นจะสามารถใช้เงินส่วนเกินที่หามาได้จากการเล่นในแต่ละด่านมาซื้อของอัปเกรดทักษะตัวละครได้ ทั้งเพิ่มแรงยกของ เพิ่มระยะ เพิ่มพลังชีวิต รวมไปถึงไอเทม Utility จำพวกระเบิด กับดัก ไปจนถึงอาวุธสำหรับต่อกรเหล่า “ศัตรู”

และศัตรูนี่แหละคือหนึ่งในสิ่งที่จะทำให้เกมลำบากขึ้น แต่บางครั้งก็ฮาขึ้นด้วย ศัตรูในเกมนี้จะมีมากมายหลายประเภทตั้งแต่ตัวที่มันปั่นประสาท มาทำลายข้าวของที่มีมูลค่าของเราให้พัง ไปจนถึงตัวที่มาโจมตีคุณโดยตรง ทำให้เสียงคุณเพี้ยนหนัก จนเวลากดไมค์พูดแล้ว เพื่อนร่วมทีมฮาแตกแน่นอน และตัวประเภทดาเมจหนัก One Shot Kill ที่อาจส่งเราไปนั่งดูเพื่อนเล่นแทนเฉย ๆ ได้เลย และศัตรูมันจะสุ่มออกมาในแต่ละด่านโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า บางตัวโผล่มาข้างหลัง บางตัววิ่งออกมาดื้อ ๆ ทำให้การขนของเกมนี้ นอกจากเสียงฮาแล้ว ยังมีเสียงกรี๊ดของเพื่อนช่วยสมทบ

ยิ่งเล่นเยอะ ยิ่งฮา แต่ยิ่งยาก

จริงอยู่ว่า R.E.P.O นั้น เป็นเกมที่เน้นจำนวนผู้เล่น เพื่อสร้างเสียงหัวเราะและความตลกโปกฮาขั้นสด โดยตัวเกมรองรับผู้เล่นมากที่สุดถึง 6 คนด้วยกัน แต่แทนที่มีคนเล่นเยอะแล้วมันจะเล่นง่ายขึ้น กลับกลายเป็นว่ามันเล่นยากขึ้น แต่ได้เสียงหัวเราะและคอนเทนต์แทน การที่จำนวนคนเล่นเยอะ นั่นหมายถึงเสียงโหวกเหวกโวยวาย ที่อาจ Triggered มอนสเตอร์แต่ละตัวให้ออกมาไล่ล่าเรา หรือเสี่ยงต่อการโยกย้ายสิ่งของแล้วชนกันเอง คนนึงเข็นรถ ยิ่งยกของหลาย ๆ ชิ้น การมีจำนวนผู้เล่นหลายคน แทนที่จะสามัคคีกัน กลับได้เสียงหัวเราะไปแทนซะงั้น

กลับกัน หากเล่นด้วยจำนวนคนที่น้อย (2 คนขึ้นไป) เกมจะเล่นง่ายขึ้นเยอะ แต่สิ่งที่ขาดหายไป คือเสียงหัวเราะและฉากฮา ๆ ที่เราจะได้มาจากการเล่นด้วยกลุ่มผู้เล่นจำนวนมาก ซึ่งจากที่ลองเล่นมาทั้งสองแบบ บอกเลยว่า แบบไหนก็สนุก ก็ขึ้นอยู่กับโอกาสแล้วว่าวันที่เราเล่น เพื่อนจะพร้อมมาลุย หรือฉายเดี่ยวกันไม่กี่คน

ส่วนนี้รวมไปถึงเรื่องของจำนวนของที่เราขนกันได้หลังจบเกม เพราะหากเราขนของจนได้จำนวนเงินเกินกว่าที่ระบบกำหนด เรายิ่งมีเงินเหลือไปใช้ในเฟสของร้านค้ามากขึ้น แต่ยิ่งเล่นไปไกลยิ่งต้องบริหารจัดการให้ดี ศัตรูก็โหด อาวุธเยอะเกินก็ต้องใช้การดูแลรักษา หรือทำหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องใช้เงิน มันกระตุ้นให้เราหาเงินมากขึ้น ท้าทายขึ้น ยากขึ้น ในช่วงเลเวลสูง ๆ กลายเป็นความสนุกอีกรูปแบบหนึ่งที่คนเล่นจะต้องช่วยกันฟันฝ่าอุปสรรคในแต่ละด่าน ปลดล็อคสิ่งของ และขึ้นไปในเลเวลสูงขึ้นไปอีก

ด้านไอเทมตัวช่วยเองก็มีหลากหลายรูปแบบ แต่เพื่อไม่ให้มันตายตัวจนน่าเบื่อ ทุกครั้งที่เราเข้าสู่ร้านค้า มันจะสุ่มไอเทมมาให้เรา สุ่มแม้กระทั่งกล่องอาหารเสริมพลังที่มีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่เพิ่มพละกำลัง ทำให้ยกของหนักได้ การเพิ่ม Stamina ที่ทำให้การวิ่งของเราทำได้นานขึ้น หรือแม้เกระทั่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเช่น Drone ในรูปแบบต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งอาวุธ

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่มันสุ่ม ทำให้แม้บางรอบเราจะขนของหาเงินมาได้เยอะแค่ไหน แต่ถ้าไม่เจออาวุธดี ๆ ก็อาจจะสูญเปล่า และกล่องอาหารเสริมเอง ยิ่งกินซ้ำ ราคาก็ยิ่งแพงขึ้นแบบก้าวกระโดด

SHARE

Aisoon Srikum

Related posts

Read More
Back to top