Prop Hunt เมื่อการละเล่นของเด็ก กลายเป็นโหมดซ่อนแอบสุดหรรษา

อย่างที่เกมเมอร์หลายคนทราบกันดี โหมด Multiplayer ของเกมยิงต่าง ๆ สร้างความกดดัน และหัวร้อนให้เพลเยอร์ เนื่องจากโหมดดังกล่าวกึ่งบังคับให้คุณต้องรีดความสามารถในการเล่นเกมเกือบสูงสุด รวมถึงอาศัยทีมเวิร์กในการเอาชนะการแข่งขันของแต่ละรอบ

แน่นอนว่าบางครั้งการเล่นโหมด Multiplayer เป็นเวลานาน อาจสร้างความปวดหัวให้หลายคน ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่างตั้งแต่ฝีมือการเล่นตก เล่นแพ้หลายรอบติดต่อกัน และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อเป็นการแก้ปัญหา ทางทีมพัฒนาจึงใส่โหมดเกมอย่างหนึ่งที่เรียกว่า Prop Hunt โหมดซ่อนแอบสุดหรรษา ที่สร้างความผ่อนคลายให้ใครหลายคน

ต้นกำเนิดแนวคิด Prop Hunt

อ้างอิงจาก Robert Yang นักค้นคว้าศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเกม เชื่อว่าต้นแบบของโหมดซ่อนแอบสำหรับวิดีโอเกม อาจถือกำเนิดขึ้นจากม็อดขำ ๆ อย่าง CrateDM ของเกม Quake 2 ที่เคยเปิดให้เล่นครั้งแรกเมื่อปี 1998

CrateDM เป็นม็อดโหมดเกมเล็ก ๆ ที่เปลี่ยนตัวละครทั้งหมดให้กลายเป็นกล่อง แล้วปล่อยให้เกมเมอร์ทุกคนสังหารผู้เล่นด้วยกันเองภายในห้องที่เต็มไปด้วยวัตถุกล่องมากมาย ซึ่งฟีเจอร์เด่นของม็อดนี้คือผู้เล่นสามารถแฝงตัวเป็นกล่องแล้วลอบโจมตีผู้เล่นอื่นแบบเซอร์ไพรส์ได้

อ้างอิงจากไฟล์ Readme.txt – Chris “Shatter” Holden ผู้สร้าง CrateDM กล่าวว่าไอเดียการสร้างม็อดนี้ได้ผุดขึ้นมาในหัวสมอง ระหว่างที่เขากำลังทดลองระบบ Plugin Player Model แบบขำ ๆ แล้วผลลัพธ์ออกมา จู่ ๆ โมเดลตัวละครทุกคนกลายเป็นกล่องโดยบังเอิญ

Holden รู้สึก “ขำกลิ้งจนตกเก้าอี้” หลังเห็นโมเดลตัวละครในเกมกลายเป็นกล่องเคลื่อนที่ได้ แล้วพบว่าผู้เล่นที่รับบทเป็นกล่องเอง ก็สามารถแฝงตัวและกลมกลืนไปกับวัตถุประกอบฉากได้ เขาจึงใช้เวลาสร้างม็อดราว 20 นาที ด้วยการทำโหมด Deathmatch ในแผนที่ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยกล่อง และเปลี่ยนตัวละครทั้งหมดให้กลายเป็นกล่อง แล้วสุดท้าย ม็อด CrateDM ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในที่สุด

จากนั้นในปี 2002 นักพัฒนาม็อดเกม Half-Life 1 นามว่า Paul Ehreth ได้สร้างม็อด “Boxwar” หรือโหมดสงคราม Deathmatch ที่ผู้เล่นทุกคนกลายเป็นกล่อง โดยเขายอมรับว่าม็อด Boxwar นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากม็อด CrateDM ของเกม Quake 2 อีกทีหนึ่ง

Ehreth ระบุว่าม็อด Boxwar ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นโหมดเกมสำหรับการแข่งขัน Competitive หรือพิสูจน์ฝีมือการเล่นเกมของตัวเอง แต่เป็นโหมดที่จะมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่แปลกประหลาด แต่เต็มไปด้วยสนุกสนานขำกลิ้ง

นอกจากนี้ Boxwar มีการพัฒนาต่อยอดจาก CrateDM ด้วยการเพิ่มมุมกล้อง Third-Person ให้ผู้เล่นสามารถมองเห็นโมเดลตัวละครของตัวเอง และช่วยวางตำแหน่งของตัวละคร (ซึ่งกำลังเป็นกล่อง) ให้ซ่อนแนบเนียนไปกับฉากหลักมากยิ่งขึ้น

จากโหมดเกมเฉพาะกลุ่ม กลายเป็นโหมดที่หลายคนรู้จักทั่วโลก

ด้วยเกมเพลย์ยังคงเป็นโหมด Deathmatch ที่เริ่มเกมมาก็ซัดกับผู้เล่นคนอื่นทันที และการเปลี่ยนโมเดลกลายเป็นกล่องนั้น ช่วยเพิ่มโอกาสในการเอาตัวรอดในสงครามมากยิ่งขึ้น ทำให้ม็อด CrateDM และ Boxwar ได้รับความนิยมในสังคมเกมบางกลุ่มพอสมควร

อย่างไรก็ดี ความนิยมของโหมดเกมดังกล่าวก็ได้เพิ่มพรวดทันที หลังจาก Garry’s Mod ซึ่งเป็นม็อด Sandbox ของ Source Engine ได้เพิ่มโหมดเกมใหม่อย่างเป็นทางการที่เรียกว่า “Prop Hunt” ที่พัฒนาโดย Andrew “AMT” Theis

Prop Hunt เป็นโหมดซ่อนแอบที่ในเกมจะแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายระหว่างฝ่ายไล่ล่า กับฝ่ายต่อต้าน โดยฝ่ายต่อต้านจะต้องเลือก Object เพื่อซ่อนตัวให้แนบเนียนไปกับวัตถุประกอบฉาก และฝ่ายไล่ล่าจะต้องกำจัดฝ่ายต่อต้านที่กำลังซ่อนตัวให้หมด

Prop Hunt มีความแตกต่างจากม็อด CrateDM และ Boxwar คือในโหมดจะไม่ใช่เป็นการ Deathmatch ที่ทั้งสองฝ่ายต้องไล่ล่าฆ่าฟันกันอีกต่อไป ใน Prop Hunt ฝ่ายต่อต้านจะสามารถทำได้แค่หนีเพียงอย่างเดียว ส่วนฝ่ายไล่ล่าจะถืออาวุธสำหรับใช้สังหารผู้ต่อต้าน

เนื่องจาก Garry’s Mod เป็นม็อดเกมของ Source Engine ที่ได้รับความนิยมจากแฟน ๆ เกมตระกูล Valve ทั่วโลก รวมถึงปี 2007-2010 เป็นยุคทองของแพลตฟอร์ม YouTube ซึ่งมีผู้ผลิตคอนเทนต์วิดีโอได้ถือกำเนิดขึ้นมามากมาย และมียอดผู้เข้าชมเว็บไซต์เพิ่มขึ้นราวกับปล่อยจรวดขึ้นฟ้า ก็ส่งผลลัพธ์ทำให้พวกเราชาวเกมเมอร์รู้จักโหมดเกม Prop Hunt กันจนถึงทุกวันนี้

Prop Hunt โหมดทางเลือกสำหรับคนต้องการเสียงหัวเราะ

หลังจาก Prop Hunt เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการ ทำให้หลายเกมเริ่มนำโหมด Prop Hunt จาก Garry’s Mod ไปพัฒนาต่อยอด  เพื่อมาใส่ในเกมของตนเอง ยกตัวอย่างเกมที่ชัดเจนที่สุด คือ Team Fortress 2, Counter-Strike: Global Offensive, Call of Duty: Modern Warfare Remastered, Call of Duty ที่พัฒนาโดยค่าย Treyarch, Fortnite รวมไปถึงเกมล่าสุดอย่าง Genshin Impact (เป็นโหมดเกมชั่วคราวที่มีชื่อเรียกว่า “Windtrace Event”)

ถึงแม้ Prop Hunt ของเกมต่าง ๆ มีการพัฒนาต่อยอดจาก Garry’s Mod ด้วยการเพิ่มสกิลพิเศษของทั้งสองฝ่าย ช่วยให้การเล่นมีบรรยากาศดุเดือด ลดความซ้ำซาก และลุ้นระทึกมากขึ้น แต่กฎกติกาการเล่นโดยรวมแล้ว ก็แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงมานานเกือบ 10 ปี

แต่ก็นั่นแหละ เพราะรูปแบบเกมเพลย์ที่เข้าถึงง่ายคล้ายกับเรากำลังเล่นซ่อนแอบในช่วงสมัยเด็ก จึงทำให้ Prop Hunt เป็นโหมดเกมสุดหรรษา ที่มอบเสียงหัวเราะกับความผ่อนคลายให้กับหลายคนจนถึงทุกวันนี้

ที่มา: Radiator Design Blog