BY StolenHeart
2 Sep 19 12:07 pm

Max Payne กับการนำพาโลกวิดีโอเกมสู่ความ Slow Motion

11 Views

เชื่อว่าเกมเมอร์ทุกคนน่าจะต้องรู้จักหรือผ่านตากับเกมเดินหน้ายิงสุดระห่ำอย่าง Max Payne มาแล้วอย่างแน่นอน ด้วยความเท่บาดใจของตัวเอก ฉากบู๊สนั่นหวั่นไหว และที่ลืมไม่ได้คือระบบ Bullet Time หรือ Slow Motion หน่วงเวลาทุกอย่างให้ช้าลง แต่เล็งยิงปืนได้ตามเวลาจริง ช่วยให้การเล่นสนุกขึ้นและทำให้ได้ฉากเท่ ๆ สร้างความสะใจให้กับผู้เล่นได้อย่างมหาศาล และเกม Max Payne ก็คือผู้ที่ทำให้ปรากฎการณ์เห่อการ Slow motion เกิดขึ้นในวงการเกมนั่นเอง

ก่อนที่เราจะพูดถึงตัวเกม Max Payne เรามาดูกันก่อนว่าเทคนิคนี้คืออะไร Bullet Time คือเทคนิค Visual Effect ที่ลดความเร็วของเวลาลง แต่มีการหมุนและเคลื่อนไหวมุมกล้องด้วยความเร็วปกติหรือเท่าเดิม ทำให้เราสามารถเห็นบริเวณรอบด้านของฉาก เสริมอารมณ์ในช่วงต่อสู้หรือยิงใส่กันจนเห็นลูกกระสุนวิ่งออกมาจากปากกระบอกปืนได้เลย ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากในภาพยนตร์แอคชั่นมากมายจนถึงทุกวันนี้

https://www.youtube.com/watch?v=4tLAByHDp_0

ตัวอย่างภาพยนตร์ Kill And kill Again หนังทุนต่ำที่มีฉาก Slow Motion เรื่องแรก ๆ ของโลก

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้เห็นความตื่นตาตื่นใจจากการ Slow Motion สุดเท่แบบนี้ ในโลกภาพยนตร์อย่าง The Matrix(เพาะพันธุ์มนุษย์เหนือโลก 2199: 2542) ก็ทำให้ทุกคนรู้จักสิ่งนี้ด้วยการตั้งชื่อว่า Bullet Time หรือถ้าย้อนกลับไปให้ไกลกว่านั้น เราก็มีภาพยนตร์อย่าง Kill and Kill Again(2524) ภาพยนตร์แอคชั่นทุนต่ำที่ใช้เทคนิคจับภาพลูกกระสุนปืนแบบช้าให้เห็นกันเป็นเรื่องแรก ๆ หรืออย่างหนังของผู้กำกับชาวฮ่องกงคนดังอย่าง John Woo ก็มีฉาก Slow Motion ใส่เข้าไปในหนังมากมาย เช่น Hard Boile d(ทะลักจุดแตก: 2535)

แต่ในวงการเกมเองก็ยังไม่มีการใส่เทคนิคเหล่านี้ลงไปในระบบการเล่นของเกมให้เห็นแบบเป็นรูปธรรมแต่อย่างใด

อาจจะมีบ้างในบางฉากที่ใช้การสโลว์เพื่อเสริมอารมณ์ร่วมของเกม หรือเป็นลูกเล่นในการหยุดหรือหน่วงเวลาด้วยไอเท็ม ที่ไม่ใช่ระบบหลักของเกม

จนกระทั่งการมาของทีมพัฒนาจากฟินแลนด์อย่าง Remedy Entertainment ที่เริ่มโปรเจกต์เกมใหม่สุดทะเยอทะยานอย่าง Max Payne ที่ใช้เวลาในการพัฒนาและวางคอนเซ็ปต์มาตั้งแต่ปี 1996 หลังจากเห็นความสำเร็จของเกมอย่าง Tomb Raider ที่ทำให้ Sam lake มือเขียนบทเริ่มต้นการเขียนบทเกมของตำรวจเลือดร้อนขึ้นมานั่นเอง

และแน่นอนว่าการพัฒนาเกมเดินหน้ายิงในลักษณะนี้นั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างเก่าไปแล้ว เนื่องจากตอนนั้นเป็นยุคทองของเกมเดินหน้ายิงทั้งหลายนั่นเอง พวกเขาจึงต้องหาความแตกต่างให้กับตัวเกม นั่นก็คือการพัฒนาระบบ Slow Motion รวมไปถึงการทำฉาก Cutscene ให้ได้อารมณ์เหมือนกับอ่านหนังสือการ์ตูนคอมิกส์ แต่เนื่องจากงบในการจ้างนักแสดงมีจำกัด ทางทีมงานจึงต้องสวมบทเป็นนักแสดงจำเป็นและอาศัยความช่วยเหลือจากเหล่าญาติ ๆ ของพวกเขา ซึ่งเราจะเห็นว่าคุณ Sam Lake เองก็มาสวมบทเป็น Max Payne ช่วงฉาก Cutscene ด้วยเช่นกัน

Max Payne เป็นเรื่องราวของนายตำรวจหนุ่มตามชื่อของเกม ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมร่วมกับคู่หู มีครอบครัวที่อบอุ่นและสมบรูณ์แบบ แต่แล้ววันหนึ่งบ้านของเขาก็ถูกพวกเด็กขี้ยาบุกปล้น และฆ่าลูกเมียของเขาอย่าวงเลือดเย็น ชีวิตที่เคยสมบูรณ์แบบก็พังทลายลง พร้อมกับเรื่องราวโชคร้ายที่วิ่งเข้าหาเขาไม่หยุดนับตั้งแต่วันนั้น ซึ่งก็รวมไปถึงการดวลปืนกับเหล่าร้ายแสนอันตรายเหล่านี้นั่นเอง

May Payne วางจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ 23 กรกฎาคม ปี 2001 บนระบบ PC และประสบความสำเร็จอย่างสูง ผู้เล่นหลายคนเริ่มติดตามข่าวเกมนี้ตั้งแต่ช่วงแรกที่เห็นตัวอย่างของเกมที่ดูเท่และน่าสนใจ และด้วยระบบ Bullet time ที่ช่วยในการต่อสู้กับศัตรูได้ง่ายขึ้นและยังเสริมให้ตัวเกมดูดีขึ้นมาก ไม่ใช่เพียงแค่ยิงใส่กันอย่างเดียว แต่มีการบริหารการใช้ Bullet Time เพื่อจัดการกับศัตรูได้อย่างถึงใจอีกด้วย

และอย่างที่หลายคนน่าจะเห็นกัน ว่าตัวเกมนั้นได้รับอิทธิพลมาจากภาพยนตร์แอคชั่นหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น The Matrix กันฉากแรกของเกมที่เป็นสถานีรถไฟใต้ดิน และฉากสุดท้ายของเกมที่ยิงกันในล็อบบี้ของบริษัท Aesir ก็เหมือนกับในหนังแทบจะเป๊ะ ๆ กันเลย เรียกว่าเป็นจุดที่ผู้เล่นหลายคนเห็นแล้วก็กรี๊ดกันเลย

ด้วยความโด่งดังของ Max Payne ที่ช่วยผลักดันให้เกมเมอร์ได้รู้จักกับระบบ Bullet time หรือ Slow Mo แบบชัดเจน

จึงไม่น่าแปลกใจที่ในยุคต่อมา เกมอีกหลาย ๆ เกมต่างหยิบเอาระบบนี้มาใช้ในเกมของตนเอง เช่น F.E.A.R. , Time Shift, Call of Juarez หรือเกมจากผู้กำกับคนดัง John Woo Stranglehold ก็หยิบระบบสโลว์นี้มาใช้กันอย่างแพร่หลายมาจนถึงทุกวันนี้

แม้จะไม่ใช่เกมแรกที่นำระบบนี้มาใช้ แต่ Max Payne ก็เหมือนเป็นตัวจุดชนวนให้ทั้งผู้เล่นและผู้พัฒนาได้รู้ว่าระบบ Slow Motion สามารถต่อยอดเพิ่มความสนุกของเกมไปได้มากน้อยแค่ไหน

และได้นำพาพวกเราไปสู่ขอบเขตใหม่ของการพัฒนาวิดีโอเกม ปรับแต่งจนกลมกล่อมและเป็นเอกลักษณ์และร่วมสมัยมากขึ้นมาจนถึงตอนนี้ และเชื่อว่าเราน่าจะได้เห็นเจ้าระบบวโลว์โมชั่นนี้อย่าคู่ไปกับวงการเกมไปอีกนานเลยทีเดียวครับ

อ่านประวัติความเป็นมาของ max Payne แบบเต็ม ๆ ได้ ที่นี่

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม: A videogame history of bullet-time

SHARE

Putinart Wongprajan

เค้ก - Content Writer

Back to top