ถ้าคุณไม่ชอบเล่น Melee แต่อยากล้มมอนฯ ด้วยลูกตะกั่วแบบพลิ้ว ๆ มาลองดู “Light Bowgun” หรือก็คือปืนเบา ที่บอกเลยว่าใน Monster Hunter Wilds ถูกปรับใหม่ให้เท่และน่าเล่นขึ้นเยอะมาก จะเป็นอย่างไรมาลองดูกัน
บทบาทอาวุธ
Call a cart! But not for me! pic.twitter.com/NI3MOnFUgA
— Monster Hunter (@monsterhunter) February 19, 2025
ปืนเบาเป็นอาวุธที่มีระยะหวังผลของตัวเองอยู่ ถ้าเราอยู่ห่างมอนฯ มากเกินไป ก็จะทำให้ยิงเข้าแค่ 1 เท่านั้น และปืนในเกมนี้จะมีให้เลือกหลายกระสุน แต่ละกระสุนก็อาจมีระยะหวังผลไม่เท่ากันด้วย
นอกจากนี้ แต่ละกระสุนก็มีหน้าที่ต่างกันไป บางอันทำดาเมจธาตุ บางอันยิงเพื่อทำให้มอนฯ ติดสถานะ การเลือกกระสุนที่เหมาะกับสไตล์ของเรา และมอนฯ ที่เราจะสู้จึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งปืนแต่ละกระบอก ก็รองรับกระสุนที่ต่างกันไปด้วย
และในภาคนี้ ปืนเบาถูกปรับใหม่ให้มีโหมด “Rapid Fire” (ยิงรัว) เพิ่มมา ทำให้เล่นสนุกขึ้นมาก นี่คือโหมดสำหรับทำดาเมจ และควรเปลี่ยนมาเป็นโหมดนี้ทุกครั้งที่เกจ Rapid Fire เต็ม หรือเมื่อมีโอกาสเหมาะ ๆ จะจัดหนักจัดเต็มชุดใหญ่ (เช่นตอนที่มอนฯ ล้ม)
ปืนเบาเป็นอาวุธที่มีความคล่องตัว สามารถที่จะยิงแล้วสไลด์ตัวหลบมอนฯ ได้ นอกจากนี้ ด้วยความที่เรานั้นต้องกดเล็งยิง มันก็จะเป็นการเปิดใช้ระบบ Focus Mode ไปในตัว และทำให้เรามองเห็นแผลของมอนฯ แทบตลอดเวลา
หนึ่งในบทบาทของปืนเบาในปาร์ตี้ จึงเป็นการคอยเล็งทำลายแผลมอนฯ ในจุดที่เพื่อน (สายประชิด) น่าจะตีไม่ถึง และคอยยิงกระสุนเพื่อทำสถานะผิดปกติต่าง ๆ นอกจากนี้ ด้วยความที่ปืนเบานั้นเก็บอาวุธได้ไว จึงสามารถเอามาเล่นเป็นสายซัพพอร์ต คอยใช้ไอเท็มบัฟปาร์ตี้ หรือกินยาฟื้น HP ให้ทุกคนได้ด้วย (ผ่านสกิล Wide-Range)
Moveset
ยิงปืน
PS : L2 (เล็ง) → R2
Xbox : LT (เล็ง) → RT
Mouse/Keyboard : คลิกขวา (เล็ง) → คลิกซ้าย
ไม่มีอะไร ยิงปืนด้วยกระสุนที่เราเลือกอยู่
รีโหลด
PS : △ หรือกดยิงปืนต่อเมื่อกระสุนหมด
Xbox : Y หรือกดยิงปืนต่อเมื่อกระสุนหมด
Mouse/Keyboard : R หรือกดยิงปืนต่อเมื่อกระสุนหมด
รีโหลดกระสุนให้เต็มแม็ก, ถ้าเราเก็บอาวุธไว้แล้วกดปุ่มนี้ จะเป็นการหยิบอาวุธมาเข้าสู่ท่าพร้อมสู้ และรีโหลดกระสุนให้พร้อม ๆ กัน
ถ้าเรากระโดดลงมาจากที่สูง หรือกระโดดมาจากตัว Seikret แล้วกดปุ่มนี้ต่อ จะเป็นการทำท่า Jumping Reload รีโหลดกระสุนทันทีเมื่อถึงพื้น
เลือกกระสุน
PS : L1 ค้าง → △ หรือ X
Xbox : LB ค้าง → Y หรือ A
Mouse/Keyboard : Scroll เมาส์ขึ้น-ลง
กดเลื่อนขึ้น-ลง เพื่อเปลี่ยนประเภทกระสุน
กระสุนพื้นฐานของปืนเบา
ในภาคนี้ปืนเบาจะถูกปรับให้มีกระสุนพื้นฐาน สามารถยิงได้เรื่อย ๆ ไม่มีวันหมดอยู่ 3 แบบ คือ
– Normal Ammo : กระสุนปกติ เป็นการยิงแบบ Burst นัดละ 3 Hit, ระยะหวังผลกลาง ๆ
– Pierce Ammo : กระสุนที่ยิงทะลุตัวมอนฯ ได้ ทำดาเมจได้หลาย Hit แล้วแต่ว่ากระสุนผ่านตัวมอนฯ ไปเยอะแค่ไหน, ระยะหวังผลไกลสุด
– Spread Ammo : กระสุนลูกซอง มีแรงถีบเยอะ, ระยะหวังผลใกล้สุด
ยิงปืนแบบ Chaser Shot
PS : O หลังยิงปืน
Xbox : B หลังยิงปืน
Mouse/Keyboard : F หลังยิงปืน
เมื่อเรายิงกระสุนออกไปนัดหนึ่งแล้วกด Chaser Shot ต่อ จะเป็นการยิงนัดถัดไปแบบตั้งใจยิงมากขึ้น ทำดาเมจได้เยอะและหลาย Hit ขึ้นแล้วแต่ประเภทกระสุน
แต่ด้วยความที่ตอนยิง Chaser Shot ตัวเราจะนิ่งกับที่ (บางกระสุนเราจะลงไปนั่งยิงเลย) จึงเหมาะเอาไว้กดตอนจะยิงกระสุนนัดสุดท้ายในแม็ก
การหลบขณะยิง
เมื่อเรายิงเสร็จแล้วกดปุ่มหลบ จะเป็นการสไลด์ตัวหลบนิดหนึ่ง ซึ่งถ้ากดซ้ำอีกรอบก็จะสไลด์หลบด้วยระยะที่ไกลขึ้น เหมาะเอาไว้ยิงแล้วหลบตอนที่มอนฯ จะตีสวนใส่เรา
เปลี่ยนเข้าสู่โหมด Rapid Fire (ยิงรัว)
PS : O
Xbox : B
Mouse/Keyboard : F
ตัวเราจะหยิบแม็กกาซีนมาติดตั้งเพิ่มที่ปืน และเข้าสู่โหมดยิงรัว ที่ทุก ๆ นัดจะยิงออกไปได้มากกว่า 1 Hit และก็สามารถยิง Chaser Shot ต่อได้เหมือนกันอย่างรุนแรง
ทั้งนี้แต่ละปืน จะมีกระสุนแค่ไม่กี่ประเภทที่สามารถใช้ได้ในโหมด Rapid Fire ซึ่งสามารถเช็คได้ในหน้าเมนู โดยกดเลือกไปที่ปืน → เลื่อนแท็บ (R2 / RT) ไปดูตรงแท็บกระสุน ถ้ากระสุนใดมีไอคอนลูกศรสีเหลือง ๆ ขึ้นมา แปลว่าสามารถใช้ได้ในโหมด Rapid Fire
โหมด Rapid Fire จะมีการจำกัดเอาไว้ด้วยเกจที่อยู่ตรงมุมขวาล่างจอ (เหนือตัวเลขจำนวนแม็กกระสุน) ถ้ายิงไปเรื่อย ๆ จนเกจหมดก็จะกลับสู่โหมดปกติ หรือจะกด O / B / F อีกรอบเพื่อกลับโหมดปกติก่อนก็ได้
เกจ Rapid Fire จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นทีละนิดในตอนที่เราอยู่โหมดปกติ, เพิ่มขึ้นเยอะถ้าเรายิงปืนโดนเป้า และเพิ่มขึ้นเยอะสุดตอนเรายิง Chaser Shot (เพราะยิงโดนหลายนัด)
ยิงไปด้วยหลบไปด้วย (Burst Step) ในโหมด Rapid Fire
PS : L2 (เล็ง) → R2+ทิศทางไหนก็ได้+X
Xbox : LT (เล็ง) → RT+ทิศทางไหนก็ได้+A
Mouse/Keyboard : คลิกขวา (เล็ง) → คลิกซ้าย+ทิศทางไหนก็ได้+Space
เมื่ออยู่ในโหมด Rapid Fire เราจะมีท่า “ยิงไปด้วยหลบไปด้วย” เพิ่มมาเท่ ๆ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวขึ้นไปอีก โดยถ้าเป็นกระสุนเบา ๆ จะเป็นการกึ่งเดินกึ่งสไลด์ยิง ส่วนถ้าเป็นกระสุนหนัก ๆ (เช่น Spread Ammo) จะเป็นการกระโดดทิ้งตัวยิงไปในทิศที่เราเลือก
บรรจุกระสุนพิเศษ
PS : △+O (จะใช้ตอนที่เล็งอยู่ก็ได้)
Xbox : Y+B (จะใช้ตอนที่เล็งอยู่ก็ได้)
Mouse/Keyboard : R+F (จะใช้ตอนที่เล็งอยู่ก็ได้)
บรรจุกระสุนพิเศษเข้าลำกล้อง กระสุนนี้เริ่มต้นแล้วจะมีแค่ 1 นัดเท่านั้น (นัดซ้ายสุด ที่อยู่เหนือเกจ Rapid Fire) โดยกระสุนพิเศษ จะมีให้เราใช้ 2 แบบคือ
Wyvernblast : กระสุนพิเศษที่ฮันเตอร์หน้าเก่าคุ้นเคย เป็นการปักระเบิดไว้ที่พื้น ถ้าจุดนั้นโดนโจมตีก็จะระเบิดทำดาเมจอย่างรุนแรง
Adhesive Ammo : ยิงกระสุนติดไว้ที่ตัวมอนฯ เมื่อผ่านไปสักพักมันถึงจะระเบิดทำดาเมจ (หลาย Hit) โดยระหว่างนี้ถ้าเรายิงซ้ำเข้าไปตรงที่กระสุนอยู่เรื่อย ๆ ก็จะยิ่งทำให้ดาเมจตอนสุดท้ายนั้นแรงขึ้น
เราสามารถตั้งค่าสับเปลี่ยนกระสุนพิเศษได้ ในเต็นท์ / แคมป์ -> Equipment Menu -> Customize Bowgun
และในเมนูนี้ ก็สามารถใส่ Mod เพื่อเพิ่มจำนวนกระสุนพิเศษขึ้นได้ด้วยเหมือนกัน
Focus Strike
PS : L2 (เล็ง) → R1 (กดค้างได้)
Xbox : LT (เล็ง) → RB (กดค้างได้)
Mouse/Keyboard : คลิกขวา (เล็ง) → Shift (กดค้างได้)
ท่า Focus Strike ของปืนเบาจะพิเศษกว่าอาวุธอื่นพอสมควร เพราะมันคือการเล็งยิงกระสุนระเบิดที่เรียกว่า Eagle Strike ออกไป
กระสุน Eagle ไม่จำเป็นต้องโดนที่แผลมอนฯ ก็ทำดาเมจได้ แต่ถ้าโดนแผลมอนฯ ก็จะเป็นการปิดแผลและทำดาเมจที่รุนแรงกว่า และส่งผลให้มอนฯ อาจจะล้มได้เลยจากระยะไกล
นอกจากนี้กระสุน Eagle ก็จะมีวิถีย้อยลงมานิด ๆ ด้วย จึงต้องอาศัยความแม่นประมาณหนึ่ง แต่ถ้ายิงโดนก็จะสะใจมาก
ท่านี้สามารถกดชาร์จได้ เพื่อทำดาเมจที่รุนแรงขึ้น, ระเบิดได้กว้างขึ้น และมีเวลาเล็งสักพัก เพื่อหามุมยิงไปให้โดนแผลมอนฯ
นอกจากนี้ก็สามารถยิงโดนพร้อมกันได้หลายแผล และยิงใส่จุดอ่อนสีแดง ๆ ของมอนฯ ได้เช่นกัน (จุดที่มักจะเผยออกมาหลังใช้ท่าบางอย่าง เช่น Rey Dau จะมีจุดแดงที่หัว หลังปล่อยสายฟ้า)
กระสุน Eagle มีอยู่สามนัด ถ้ายิงไปแล้วจะค่อย ๆ ชาร์จกลับมาใหม่ได้เองตามเวลา
Tips
– ปืนเบาเป็นอาวุธที่มีระยะหวังผลของแต่ละกระสุนอยู่ ถ้าไม่อยู่ในระยะจะทำดาเมจแค่ 1 ซึ่งเราสามารถดูที่เป้าเล็งได้ ถ้าเป้าเป็นไฮไลต์สีเหลือง แปลว่าอยู่ในระยะ พร้อมให้ทำดาเมจแล้ว
– ควรเก็บกระสุน Eagle ไว้ยิงปิดแผลมอนฯ ในจุดที่เพื่อนในตี้โจมตี Focus Strike ไม่ถึงก่อน
– การชาร์จกระสุน Eagle แล้วค่อยยิง จะทำให้ระเบิดกว้างขึ้น มีโอกาสโดนหลายแผลพร้อมกันและทำดาเมจได้อลังการขึ้น
– เมื่อเราอยู่ในโหมด Rapid Fire และยิงกระสุนจนหมดแม็กแล้ว สามารถกดกลิ้งหลบต่อได้ จะเป็นการหลบพร้อมกับรีโหลดกระสุนอย่างรวดเร็ว
– ให้ความสำคัญกับการยิงกระสุนธาตุที่มอนฯ แพ้ทางก่อน เพราะทำดาเมจได้ดีที่สุด รองลงมาค่อยเป็นกระสุนอื่น ๆ
– ควรตั้งไอค่อนกระสุนธาตุเอาไว้ในเมนูลัด เมื่อกระสุนหมดแล้วเราสามารถกดเมนูลัดนี้ได้ จะเป็นการคราฟต์กระสุนให้ทันที (ต้องเตรียมของคราฟต์รอไว้ด้วยในกระเป๋า)
– ถ้ามีโอกาส และมอนฯ ไม่หันมาทางเรา ให้ยิง Chaser Shot ปิดที่นัดสุดท้าย เพื่อเพิ่มดาเมจและเร่งเกจ Rapid Fire ขึ้นไว ๆ
สกิลน่าใช้
ปืนเบาสามารถ Build ไปได้หลายสาย แต่ถ้าเอาสกิลที่ใช้ได้ทั่วไป เราจะแนะนำเป็น “Ballistics” (จาก Precise Jewel) ที่ช่วยเพิ่มระยะหวังผลให้กระสุน ทำให้เรายืนยิงได้ไกลและปลอดภัยมากขึ้น
น่าเสียดายที่ภาคนี้ไม่มี Spare Shot มาด้วย สกิลที่เราว่าน่าสนใจรองลงมา ก็คือสายเอาตัวรอดอย่าง “Evade Window” (จาก Evasion Jewel) ที่ช่วยเพิ่ม I-frame ตอนหลบมอนฯ กับ “Evade Extender” (จาก Jumping Jewel) ที่ช่วยเพิ่มระยะการกลิ้ง/แดชหลบ ซึ่งคนเล่นปืนเบาได้ใช้บ่อยแน่นอน