BY Zreast
2 Mar 25 8:46 pm

แนะนำอาวุธ Light Bowgun (ปืนเบา) ใน Monster Hunter Wilds (วิธีเล่น / เทคนิค / สกิลน่าใช้)

1,123 Views

ถ้าคุณไม่ชอบเล่น Melee แต่อยากล้มมอนฯ ด้วยลูกตะกั่วแบบพลิ้ว ๆ มาลองดู “Light Bowgun” หรือก็คือปืนเบา ที่บอกเลยว่าใน Monster Hunter Wilds ถูกปรับใหม่ให้เท่และน่าเล่นขึ้นเยอะมาก จะเป็นอย่างไรมาลองดูกัน

บทบาทอาวุธ

ปืนเบาเป็นอาวุธที่มีระยะหวังผลของตัวเองอยู่ ถ้าเราอยู่ห่างมอนฯ มากเกินไป ก็จะทำให้ยิงเข้าแค่ 1 เท่านั้น และปืนในเกมนี้จะมีให้เลือกหลายกระสุน แต่ละกระสุนก็อาจมีระยะหวังผลไม่เท่ากันด้วย

นอกจากนี้ แต่ละกระสุนก็มีหน้าที่ต่างกันไป บางอันทำดาเมจธาตุ บางอันยิงเพื่อทำให้มอนฯ ติดสถานะ การเลือกกระสุนที่เหมาะกับสไตล์ของเรา และมอนฯ ที่เราจะสู้จึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งปืนแต่ละกระบอก ก็รองรับกระสุนที่ต่างกันไปด้วย

และในภาคนี้ ปืนเบาถูกปรับใหม่ให้มีโหมด “Rapid Fire” (ยิงรัว) เพิ่มมา ทำให้เล่นสนุกขึ้นมาก นี่คือโหมดสำหรับทำดาเมจ และควรเปลี่ยนมาเป็นโหมดนี้ทุกครั้งที่เกจ Rapid Fire เต็ม หรือเมื่อมีโอกาสเหมาะ ๆ จะจัดหนักจัดเต็มชุดใหญ่ (เช่นตอนที่มอนฯ ล้ม)

ปืนเบาเป็นอาวุธที่มีความคล่องตัว สามารถที่จะยิงแล้วสไลด์ตัวหลบมอนฯ ได้ นอกจากนี้ ด้วยความที่เรานั้นต้องกดเล็งยิง มันก็จะเป็นการเปิดใช้ระบบ Focus Mode ไปในตัว และทำให้เรามองเห็นแผลของมอนฯ แทบตลอดเวลา

หนึ่งในบทบาทของปืนเบาในปาร์ตี้ จึงเป็นการคอยเล็งทำลายแผลมอนฯ ในจุดที่เพื่อน (สายประชิด) น่าจะตีไม่ถึง และคอยยิงกระสุนเพื่อทำสถานะผิดปกติต่าง ๆ นอกจากนี้ ด้วยความที่ปืนเบานั้นเก็บอาวุธได้ไว จึงสามารถเอามาเล่นเป็นสายซัพพอร์ต คอยใช้ไอเท็มบัฟปาร์ตี้ หรือกินยาฟื้น HP ให้ทุกคนได้ด้วย (ผ่านสกิล Wide-Range)

Moveset

ยิงปืน

PS : L2 (เล็ง) → R2

Xbox : LT (เล็ง) → RT

Mouse/Keyboard : คลิกขวา (เล็ง) → คลิกซ้าย

ไม่มีอะไร ยิงปืนด้วยกระสุนที่เราเลือกอยู่

รีโหลด

PS : △ หรือกดยิงปืนต่อเมื่อกระสุนหมด

Xbox : Y หรือกดยิงปืนต่อเมื่อกระสุนหมด

Mouse/Keyboard : R หรือกดยิงปืนต่อเมื่อกระสุนหมด

รีโหลดกระสุนให้เต็มแม็ก, ถ้าเราเก็บอาวุธไว้แล้วกดปุ่มนี้ จะเป็นการหยิบอาวุธมาเข้าสู่ท่าพร้อมสู้ และรีโหลดกระสุนให้พร้อม ๆ กัน

ถ้าเรากระโดดลงมาจากที่สูง หรือกระโดดมาจากตัว Seikret แล้วกดปุ่มนี้ต่อ จะเป็นการทำท่า Jumping Reload รีโหลดกระสุนทันทีเมื่อถึงพื้น

เลือกกระสุน

PS : L1 ค้าง → △ หรือ X

Xbox : LB ค้าง → Y หรือ A

Mouse/Keyboard : Scroll เมาส์ขึ้น-ลง

กดเลื่อนขึ้น-ลง เพื่อเปลี่ยนประเภทกระสุน

กระสุนพื้นฐานของปืนเบา

ในภาคนี้ปืนเบาจะถูกปรับให้มีกระสุนพื้นฐาน สามารถยิงได้เรื่อย ๆ ไม่มีวันหมดอยู่ 3 แบบ คือ

– Normal Ammo : กระสุนปกติ เป็นการยิงแบบ Burst นัดละ 3 Hit, ระยะหวังผลกลาง ๆ

– Pierce Ammo : กระสุนที่ยิงทะลุตัวมอนฯ ได้ ทำดาเมจได้หลาย Hit แล้วแต่ว่ากระสุนผ่านตัวมอนฯ ไปเยอะแค่ไหน, ระยะหวังผลไกลสุด

– Spread Ammo : กระสุนลูกซอง มีแรงถีบเยอะ, ระยะหวังผลใกล้สุด

ยิงปืนแบบ Chaser Shot

PS : O หลังยิงปืน

Xbox : B หลังยิงปืน

Mouse/Keyboard : F หลังยิงปืน

เมื่อเรายิงกระสุนออกไปนัดหนึ่งแล้วกด Chaser Shot ต่อ จะเป็นการยิงนัดถัดไปแบบตั้งใจยิงมากขึ้น ทำดาเมจได้เยอะและหลาย Hit ขึ้นแล้วแต่ประเภทกระสุน

แต่ด้วยความที่ตอนยิง Chaser Shot ตัวเราจะนิ่งกับที่ (บางกระสุนเราจะลงไปนั่งยิงเลย) จึงเหมาะเอาไว้กดตอนจะยิงกระสุนนัดสุดท้ายในแม็ก

การหลบขณะยิง

เมื่อเรายิงเสร็จแล้วกดปุ่มหลบ จะเป็นการสไลด์ตัวหลบนิดหนึ่ง ซึ่งถ้ากดซ้ำอีกรอบก็จะสไลด์หลบด้วยระยะที่ไกลขึ้น เหมาะเอาไว้ยิงแล้วหลบตอนที่มอนฯ จะตีสวนใส่เรา

เปลี่ยนเข้าสู่โหมด Rapid Fire (ยิงรัว)

PS : O

Xbox : B

Mouse/Keyboard : F

ตัวเราจะหยิบแม็กกาซีนมาติดตั้งเพิ่มที่ปืน และเข้าสู่โหมดยิงรัว ที่ทุก ๆ นัดจะยิงออกไปได้มากกว่า 1 Hit และก็สามารถยิง Chaser Shot ต่อได้เหมือนกันอย่างรุนแรง

ทั้งนี้แต่ละปืน จะมีกระสุนแค่ไม่กี่ประเภทที่สามารถใช้ได้ในโหมด Rapid Fire ซึ่งสามารถเช็คได้ในหน้าเมนู โดยกดเลือกไปที่ปืน เลื่อนแท็บ (R2 / RT) ไปดูตรงแท็บกระสุน ถ้ากระสุนใดมีไอคอนลูกศรสีเหลือง ๆ ขึ้นมา แปลว่าสามารถใช้ได้ในโหมด Rapid Fire

โหมด Rapid Fire จะมีการจำกัดเอาไว้ด้วยเกจที่อยู่ตรงมุมขวาล่างจอ (เหนือตัวเลขจำนวนแม็กกระสุน) ถ้ายิงไปเรื่อย ๆ จนเกจหมดก็จะกลับสู่โหมดปกติ หรือจะกด O / B / F อีกรอบเพื่อกลับโหมดปกติก่อนก็ได้

เกจ Rapid Fire จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นทีละนิดในตอนที่เราอยู่โหมดปกติ, เพิ่มขึ้นเยอะถ้าเรายิงปืนโดนเป้า และเพิ่มขึ้นเยอะสุดตอนเรายิง Chaser Shot (เพราะยิงโดนหลายนัด)

ยิงไปด้วยหลบไปด้วย (Burst Step) ในโหมด Rapid Fire

PS : L2 (เล็ง) → R2+ทิศทางไหนก็ได้+X

Xbox : LT (เล็ง) → RT+ทิศทางไหนก็ได้+A

Mouse/Keyboard : คลิกขวา (เล็ง) → คลิกซ้าย+ทิศทางไหนก็ได้+Space

เมื่ออยู่ในโหมด Rapid Fire เราจะมีท่า “ยิงไปด้วยหลบไปด้วย” เพิ่มมาเท่ ๆ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวขึ้นไปอีก โดยถ้าเป็นกระสุนเบา ๆ จะเป็นการกึ่งเดินกึ่งสไลด์ยิง ส่วนถ้าเป็นกระสุนหนัก ๆ (เช่น Spread Ammo) จะเป็นการกระโดดทิ้งตัวยิงไปในทิศที่เราเลือก

บรรจุกระสุนพิเศษ

PS : △+O (จะใช้ตอนที่เล็งอยู่ก็ได้)

Xbox : Y+B (จะใช้ตอนที่เล็งอยู่ก็ได้)

Mouse/Keyboard : R+F (จะใช้ตอนที่เล็งอยู่ก็ได้)

บรรจุกระสุนพิเศษเข้าลำกล้อง กระสุนนี้เริ่มต้นแล้วจะมีแค่ 1 นัดเท่านั้น (นัดซ้ายสุด ที่อยู่เหนือเกจ Rapid Fire) โดยกระสุนพิเศษ จะมีให้เราใช้ 2 แบบคือ

Wyvernblast : กระสุนพิเศษที่ฮันเตอร์หน้าเก่าคุ้นเคย เป็นการปักระเบิดไว้ที่พื้น ถ้าจุดนั้นโดนโจมตีก็จะระเบิดทำดาเมจอย่างรุนแรง

Adhesive Ammo : ยิงกระสุนติดไว้ที่ตัวมอนฯ เมื่อผ่านไปสักพักมันถึงจะระเบิดทำดาเมจ (หลาย Hit) โดยระหว่างนี้ถ้าเรายิงซ้ำเข้าไปตรงที่กระสุนอยู่เรื่อย ๆ ก็จะยิ่งทำให้ดาเมจตอนสุดท้ายนั้นแรงขึ้น

เราสามารถตั้งค่าสับเปลี่ยนกระสุนพิเศษได้ ในเต็นท์ / แคมป์ ->  Equipment Menu -> Customize Bowgun

และในเมนูนี้ ก็สามารถใส่ Mod เพื่อเพิ่มจำนวนกระสุนพิเศษขึ้นได้ด้วยเหมือนกัน

Focus Strike

PS : L2 (เล็ง) → R1 (กดค้างได้)

Xbox : LT (เล็ง) → RB (กดค้างได้)

Mouse/Keyboard : คลิกขวา (เล็ง) → Shift (กดค้างได้)

ท่า Focus Strike ของปืนเบาจะพิเศษกว่าอาวุธอื่นพอสมควร เพราะมันคือการเล็งยิงกระสุนระเบิดที่เรียกว่า Eagle Strike ออกไป

กระสุน Eagle ไม่จำเป็นต้องโดนที่แผลมอนฯ ก็ทำดาเมจได้ แต่ถ้าโดนแผลมอนฯ ก็จะเป็นการปิดแผลและทำดาเมจที่รุนแรงกว่า และส่งผลให้มอนฯ อาจจะล้มได้เลยจากระยะไกล

นอกจากนี้กระสุน Eagle ก็จะมีวิถีย้อยลงมานิด ๆ ด้วย จึงต้องอาศัยความแม่นประมาณหนึ่ง แต่ถ้ายิงโดนก็จะสะใจมาก

ท่านี้สามารถกดชาร์จได้ เพื่อทำดาเมจที่รุนแรงขึ้น, ระเบิดได้กว้างขึ้น และมีเวลาเล็งสักพัก เพื่อหามุมยิงไปให้โดนแผลมอนฯ

นอกจากนี้ก็สามารถยิงโดนพร้อมกันได้หลายแผล และยิงใส่จุดอ่อนสีแดง ๆ ของมอนฯ ได้เช่นกัน (จุดที่มักจะเผยออกมาหลังใช้ท่าบางอย่าง เช่น Rey Dau จะมีจุดแดงที่หัว หลังปล่อยสายฟ้า)

กระสุน Eagle มีอยู่สามนัด ถ้ายิงไปแล้วจะค่อย ๆ ชาร์จกลับมาใหม่ได้เองตามเวลา

Tips

– ปืนเบาเป็นอาวุธที่มีระยะหวังผลของแต่ละกระสุนอยู่ ถ้าไม่อยู่ในระยะจะทำดาเมจแค่ 1 ซึ่งเราสามารถดูที่เป้าเล็งได้ ถ้าเป้าเป็นไฮไลต์สีเหลือง แปลว่าอยู่ในระยะ พร้อมให้ทำดาเมจแล้ว

– ควรเก็บกระสุน Eagle ไว้ยิงปิดแผลมอนฯ ในจุดที่เพื่อนในตี้โจมตี Focus Strike ไม่ถึงก่อน

– การชาร์จกระสุน Eagle แล้วค่อยยิง จะทำให้ระเบิดกว้างขึ้น มีโอกาสโดนหลายแผลพร้อมกันและทำดาเมจได้อลังการขึ้น

– เมื่อเราอยู่ในโหมด Rapid Fire และยิงกระสุนจนหมดแม็กแล้ว สามารถกดกลิ้งหลบต่อได้ จะเป็นการหลบพร้อมกับรีโหลดกระสุนอย่างรวดเร็ว

– ให้ความสำคัญกับการยิงกระสุนธาตุที่มอนฯ แพ้ทางก่อน เพราะทำดาเมจได้ดีที่สุด รองลงมาค่อยเป็นกระสุนอื่น ๆ

– ควรตั้งไอค่อนกระสุนธาตุเอาไว้ในเมนูลัด เมื่อกระสุนหมดแล้วเราสามารถกดเมนูลัดนี้ได้ จะเป็นการคราฟต์กระสุนให้ทันที (ต้องเตรียมของคราฟต์รอไว้ด้วยในกระเป๋า)

– ถ้ามีโอกาส และมอนฯ ไม่หันมาทางเรา ให้ยิง Chaser Shot ปิดที่นัดสุดท้าย เพื่อเพิ่มดาเมจและเร่งเกจ Rapid Fire ขึ้นไว ๆ

สกิลน่าใช้

ปืนเบาสามารถ Build ไปได้หลายสาย แต่ถ้าเอาสกิลที่ใช้ได้ทั่วไป เราจะแนะนำเป็น “Ballistics” (จาก Precise Jewel) ที่ช่วยเพิ่มระยะหวังผลให้กระสุน ทำให้เรายืนยิงได้ไกลและปลอดภัยมากขึ้น

น่าเสียดายที่ภาคนี้ไม่มี Spare Shot มาด้วย สกิลที่เราว่าน่าสนใจรองลงมา ก็คือสายเอาตัวรอดอย่าง “Evade Window” (จาก Evasion Jewel) ที่ช่วยเพิ่ม I-frame ตอนหลบมอนฯ กับ “Evade Extender” (จาก Jumping Jewel) ที่ช่วยเพิ่มระยะการกลิ้ง/แดชหลบ ซึ่งคนเล่นปืนเบาได้ใช้บ่อยแน่นอน

Satthathan Chanchartree

ฟ่าง - Content Writer

Back to top