BY KKMTC
19 Oct 20 8:06 pm

จบที่กลางทาง 9 เกมมีเปอร์เซ็นต์คนเล่นเนื้อเรื่องจบน้อยสุด

48 Views

ถึงเกมเมอร์หลายคนจะยังชื่นชอบการเล่นเกม Singleplayer และให้ความสำคัญกับการเสพเนื้อเรื่องเป็นหลัก แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีเกมบางเกมที่แม้เนื้อเรื่องจะดีแค่ไหน สุดท้ายเกมเมอร์บางคนก็ต้องยอมแพ้ เพราะระบบเกมบางอย่างที่ทำให้พวกเขาหมดไฟเล่นเกมต่อ และนี่คือ 9 เกมที่มีเปอร์เซ็นต์คนเล่นเนื้อเรื่องจบน้อยสุด โดยอ้างอิงจาก PSNProfile แล้วจะมีเกมอะไรบ้าง สามารถรับชมได้เลย

The Elder Scroll V: Skyrim – 29.33%

the elder scrolls v: skyrim

The Elder Scroll V: Skyrim เป็นเกม RPG Singleplayer ที่หลายคนยกตำแหน่งให้เป็นเกม RPG ยอดเยี่ยมตลอดกาลด้วยเกมเพลย์ชวนเสพติด เล่นง่าย มีคอนเทนต์เยอะ และแน่นอนว่าระบบเปิดโลกกว้างที่ผู้เล่นสามารถเดินทางไปไหน หรือเริ่มเควสต์ไหนก่อนก็ได้

เนื่องจาก The Elder Scroll V: Skyrim มีคอนเทนต์เยอะเหมือนที่กล่าวข้างต้น อย่างเช่น เควสต์เสริมมีความน่าสนใจพอ ๆ กับเนื้อเรื่องหลัก รวมถึงมีเนื้อหา DLC น่าดึงดูดอย่างระบบสร้างบ้านของตัวเอง (Hearthfire) , ตะลุยแผนที่ Solstheim (Dragonborn) และเควสต์แวมไพร์ (Dawnguard) ทำให้เกมมอร์หลายคนจึงให้ความสนใจกับการทำเควสต์เสริมให้จบก่อนเนื้อเรื่องหลัก แต่หลังจากการทำเควสต์เสริมอย่างเมามัน ก็คาดว่าหลายคนคงหมดไฟกับการเล่นดำเนินเนื้อเรื่องแล้ว จึงอาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้มีผู้เล่นหลายคนเล่นเกมนี้ไม่จบ

Red Dead Redemption II – 28.6%

แม้ Red Dead Redemption II เป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องยอดเยี่ยม แต่เกมเมอร์หลายคนได้วิจารณ์ว่าเนื้อเรื่องของ Red Dead Redemption II นั้น มีการดำเนินที่ช้าชวนง่วงจนเกินไป รวมถึงองค์ประกอบของเกมมีความสมจริงมาก จนทำให้เกมการเล่นจุกจิกเกินความจำเป็น ทำให้เกมเมอร์อีกหลายคนได้ถอนตัวจากการเล่น RDR II เพราะระบบเกมเพลย์ที่เข้าไม่ถึง

นอกจากนี้ อีกสาเหตุหนึ่งที่เกมเมอร์หลายคนเล่นเนื้อเรื่อง RDR II ไม่จบ เพราะเกมมีกิจกรรมเสริมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะทำภารกิจจากคนแปลกหน้า, ล่าสัตว์, หาไอเท็มเพื่ออัปเกรดเต็นท์ หรืออุปกรณ์ส่วนตัว, เล่นไพ่พนัน และอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้เกมเมอร์ได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ Western ที่ตัวเกมนำเสนอได้อย่างยอดเยี่ยม จนลืมเล่นเนื้อเรื่องหลักไปเลยทีเดียว

GTA III – 26.66%

GTA III เป็นเกมแอ็กชัน-ผจญภัยที่สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อวงการเกมด้วยภาพกราฟิกสามมิติที่สวยงาม รวมถึงมีภารกิจสนุกสนานท้าทาย และระบบเปิดโลกกว้างที่ล้ำหน้ามาก ๆ สำหรับเกมยุคนั้น

อย่างไรก็ตาม แม้ GTA III เป็นเกมที่หลายคนยกย่องว่าคือเกมแอ็กชันยอดเยี่ยมตลอดกาล แต่แน่นอนว่าเกมดังกล่าวมาจากปี 2001 ก็ทำให้องค์ประกอบเกมบางส่วนตกยุค เช่น ไม่มีกิจกรรมอื่น ๆ ให้ทำเยอะเหมือน GTA ภาคใหม่, ตัวเลือกพาหนะให้ขับยังน้อย (ไม่มีมอเตอร์ไซค์ และเครื่องบิน) นอกจากนี้ บางภารกิจเองก็ยากจนเกินไป เนื่องจากปัญหาบาลานซ์ของเกมเพลย์สมัยเก่า จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่นักที่เกมเมอร์บางคนจะเล่น GTA III ไม่จบ เนื่องจากตัวเกมมีความล้าสมัยบางส่วนที่พรากความสนุกไป

Demon’s Souls – 25.34%

เกมมอร์อาจไม่แปลกใจมากนักที่ Demon’s Souls ติดอันดับเป็นเกมที่มีคนจบเนื้อเรื่องน้อยสุด เพราะเกมดังกล่าว มีความยากมหาโหดที่ไม่มีการปรานีผู้เล่นหน้าใหม่ จนผู้เล่นต้องยอมแพ้กับการปราบเซียนเกมนี้ไปแล้วหลายราย

แต่อย่างไรก็ตาม หากอ้างอิงสถิติพบว่า Dark Souls Remastered มีคนเล่นเกมจบเนื้อเรื่องที่ 50%, Dark Souls 3 (47%), Sekiro (44%), Dark Souls 2 (44%) และ Bloodborne (36%) หรือหมายความว่า Demon’s Souls เป็นเกมที่มีเปอร์เซ็นต์เคลียร์เกมต่ำสุดในบรรดาเกมยากทั้งหมดของ FromSoftware

Final Fantasy IX – 20.88%

Final Fantasy IX

Final Fantasy IX จัดว่าค่อนข้างได้รับความนิยมหรือพูดถึงน้อยกว่าเกม Final Fantasy หลายภาค เนื่องจากเซตติงและการออกแบบตัวละครที่แตกต่างจากเกมภาคอื่น อาจทำให้แฟนเกม FF ไม่อินกับเกมภาคนี้เท่าไหร่ แต่นอกเหนือจากนั้น FF IX ถือเป็นหนึ่งในเกม JRPG ที่เกือบเพอร์เฟกต์ทุกด้านไม่ว่าจะระบบเกมเพลย์ เนื้อเรื่อง วิวัฒนาการของตัวละคร และเพลงประกอบสุดไพเราะ

คล้ายกับเกม RPG เกมอื่น ๆ Final Fantasy IX เป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องเยอะ และจำเป็นต้องดำเนินเกมอย่างช้า ๆ เพราะใช้ระบบออกคำสั่งแบบผลัดเทิร์น ทำให้เกมเมอร์บางกลุ่มไม่สามารถเล่นเกมดังกล่าวจนจบ เพราะระบบเกมเพลย์ที่ช้า รวมถึงเนื้อเรื่องยืดยาวจนเกินไป

GTA IV – 20.62%

GTA IV

หลังจาก GTA Vice City, GTA San Andreas มีกระแสตอบรับยอดเยี่ยมทั้งรีวิวจากเกมเมอร์กับสื่อ และขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในเกมที่ขายดีที่สุดตลอดกาล แน่นอนว่าเกมเมอร์หลายคนต่างไฮป์ GTA IV เกมแรกในตระกูล GTA ที่ลงให้กับเครื่อง PlayStation 3 และ Xbox 360

อย่างไรก็ตาม แม้ GTA IV มีกระแสรีวิวยอดเยี่ยมจากสื่อเกมหลายแห่ง แต่เนื่องจากเกมดังกล่าวได้ประสบปัญหาด้าน Performance อย่างใหญ่หลวง (โดยเฉพาะ PC) หลังเปิดตัววันแรก รวมถึงมีคอนเทนต์น้อยกว่า GTA San Andreas, ตัวละครเอก Niko Bellic ไม่เป็นที่น่าสนใจสำหรับเกมเมอร์บางคน และระบบการขับรถกับเนื้อเรื่องเน้นสมจริงมากขึ้น เกมดังกล่าวจึงมีกระแสตอบรับทั้งมีคนหลงรัก-ไม่ชอบจากเหล่าแฟน GTA

Crash Bandicoot: Warped – 20.38%

Crash Bandicoot: Warped เป็นเกมแนวตะลุยด่าน Platformer ลูกรักของ Sony PlayStation ที่ถูกนำมา Remaster ใหม่เป็นส่วนหนึ่งของเกม Crash Bandicoot N. Sane Trilogy สำหรับ PlayStation 4

แน่นอนว่าเกมเมอร์น่าจะคาดเดาได้อยู่แล้วว่าสาเหตุหลักที่ Crash Bandicoot: Warped มีเปอร์เซ็นต์การเคลียร์เกมที่ต่ำ เพราะตัวเกมมีความยากท้าทาย และมีบางจุดที่ไม่แฟร์ต่อผู้เล่นเกมอย่างเห็นได้ชัด แต่อย่างไรก็ตาม จากสถิติพบว่าเกมภาคแรกมีเปอร์เซ็นต์คนเล่นเกมจบที่ 29.84% และภาค Cortex Strikes Back มีสถิติที่ 22.40% ในขณะที่ภาค Warped มีเพียง 20.38% เท่านั้น ซึ่งหากอ้างอิงจากคอมเมนต์หลายแห่ง สาเหตุที่เกมเมอร์หลายคนไม่สามารถเคลียร์เกมดังกล่าวได้ เพราะรู้สึกหมดไฟหลังจากเล่นเกมผ่านมาแล้วสองภาค

Fallout New Vegas – 20.18%

คล้ายกับกรณีของ The Elder Scroll V: Skyrim สาเหตุที่เกมเมอร์หลายคนไม่สามารถเคลียร์เนื้อเรื่อง Fallout: New Vegas จนจบ เพราะว่าตัวเกมมีเควสต์เสริมที่น่าสนใจมากมาย รวมถึงเนื้อหา DLC ก็จัดว่าค่อนข้าง “เล่นใหญ่” ด้วยคอนเทนต์จัดเต็มทั้งเนื้อเรื่อง ลูกเล่น และสถานที่ที่มอบประสบการณ์การเล่นเกมแบบใหม่ไม่เหมือนเกมต้นฉบับ ซึ่งแน่นอนว่าด้วยคอนเทนต์ที่อัดแน่นปึกขนาดนี้ ก็ไม่มีเกมเมอร์คนไหนกล้าที่จะเร่งรีบเล่นเนื้อเรื่องหลักจนจบจากการเล่นครั้งแรก

Nioh – 17.36%

Nioh

เกมแอ็กชัน Souls-Like เกมแรกของค่าย Team Ninja ที่เคยสร้างผลงานเกมต่อสู้ชื่อดังอย่าง Dead or Alive และเกม Hack and Slash กับ Platformer ระดับตำนานอย่าง Ninja Gaiden ซึ่งเกม Nioh ประสบความสำเร็จอย่างมากจนได้รับการสร้างเกมภาคสอง

โดย Nioh มีความแตกต่างจาก Dark Souls ตรงระบบเกมเพลย์ที่มีความซับซ้อนเจาะลึกกว่า และมีระบบ Loot ไอเท็ม ซึ่งเป็นการชักชวนให้ผู้เล่นฟาร์มของ เพื่อสามารถใช้อาวุธหรือชุดเกราะที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งระบบดังกล่าวก็อาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกมเมอร์บางคนเริ่มตีห่างจากการเล่นเกมเพื่อดำเนินเนื้อเรื่องก็เป็นไปได้

แหล่งที่มา: WhatCulture

SHARE

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top