‘ไม่มีอาวุธไหนโกง ถือว่าไม่ใช่ Call of Duty’ วลีเด็ดของสาวกผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมากับเกม Call of Duty: Multiplayer มาหลายภาคที่มักจะมีอาวุธปืนชิ้นใดชิ้นหนึ่งที่โกงและใช้งานง่ายสุด ๆ จนผู้เล่นหลายคนนิยมใช้ตลอดทั้งเกม แล้วเกมเมอร์หลายคนจะต้องส่ายหน้าหนีและขัดใจทุกครั้งจากการโดนฆ่าด้วยอาวุธชนิดนี้ เพราะรู้สึกไม่แฟร์เอาซะเลย!

นี่คือ ‘8 อาวุธสุดโกงที่ผู้เล่นเห็นแล้วต้องปวดหัวใน Call of Duty Multiplayer’ อาวุธในประวัติศาสตร์เกม Call of Duty ที่ผู้เล่นใช้จะต้องรู้สึก Guilty Pleasure เพราะมันใช้ดีและโกงจนกลบข้อเสียทิ้ง

M16A4 – Call of Duty 4: Modern Warfare / MW2 / MW3

‘Murica for Newbie

เป็นปืนไรเฟิลดำสัญชาติอเมริกาที่ผู้เล่นสามารถใช้อาวุธชนิดนี้ได้ตั้งแต่เลเวล 1

ผู้เล่นหลายคนจะต้องหลงรักหรือเกลียด เพราะว่าแม้ระบบการยิงเป็น Burst Fire ยิงชุดละ 3 นัด แต่ก็เป็นปืนหนึ่งที่ทรงพลังมากที่สุดใน CoD4 ไม่ว่าจะทั้งพลัง Dmg ที่รุนแรง, มีประสิทธิภาพการยิงระยะไกลยอดเยี่ยมเพราะแทบจะไม่มี Recoil (แรงถีบ) พร้อมกับอัตราการยิงอยู่ในระดับที่พอดี

ถ้าหากไม่พอ อาวุธชนิดนี้จะเพิ่มความ OP ยิ่งขึ้น เมื่อผู้เล่นได้ใส่ Perk: Stopping Power ที่จะเพิ่มค่า Dmg ของปืน M16A4 จนสามารถสร้างความเสียหายสูงสุดถึง 40% หรือหมายความว่าสามารถปลิดชีพศัตรูได้เพียง 3-4 นัด เท่านั้น

M16A4 ยังคงปรากฎตัวอย่างต่อเนื่องใน Modern Warfare 2 /3 และยังคงเป็นที่นิยมควบคู่กับปืน FAMAS ซึ่งเป็นปืนยิงทีละ 3 นัดเหมือนกัน (ยิงเร็วขึ้น แต่ Dmg น้อยกว่า)

MP40 – World at War

ปืนกลเบาที่โกงที่สุดในแฟรนไซส์ CoD

MP40 เป็นอาวุธปืนกลมาตรฐานในช่วง World War II แต่ใน World at War เป็นของต้องห้าม

ผู้เล่นส่วนใหญ่จะใช่คู่กับ Perks: Stopping Power กับ Steady Aim และอุปกรณ์ Extended Magazines ที่เพิ่มกระสุนเยอะถึง 64 นัด ทำให้ปืน MP40 กลายเป็นปืนระดับซาตานที่ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้ โดยเฉพาะการต่อสู้ระยะประชิดที่ผู้เล่นสามารถกวาดศัตรูทั้งกองทัพโดยไม่ต้องกระสุนจะหมด

แต่สิ่งที่ทำให้ MP40 เป็นปืน OP จริง ๆ ก็คือค่า DMG ภายในเกมที่ตั้งค่าไม่เท่ากัน สำหรับฝั่ง PC จะมีค่า DMG อยู่ที่ 29-40 ซึ่งมันก็รุนแรงพออยู่แล้ว แต่มันอันตรายยิ่งกว่าเดิมสำหรับฝั่งคอนโซลที่มีพลังทำลายล้างสูงถึง 29-59 หรือพูดง่าย ๆ เลยก็คือแรมโบ้แต่มีปืนที่เล็กกว่า

MP40 เป็นปืนพังที่สุดในบรรดาเกม Call of Duty ทั้งหมด และเป็นฝันร้าย PTSD สำหรับเพลเยอร์จนถึงทุกวันนี้ เพราะทีมงานไม่มีการเนิร์ฟปืน MP40 แต่อย่างใด

Tactical Knife + ปืนพกอะไรก็ได้ + Perk Commando Pro – Modern Warfare 2

นินจาร่วมสมัย

ระบบ Melee ในเกม Call of Duty มีเอกลักษณ์มานาน ในเรื่องการเสียบ/ฟันศัตรูครั้งเดียวตายด้วยการกด E เมื่อเข้าใกล้ศัตรู ถ้าหากคิดว่าระบบนี้ไม่แฟร์ละก็.. MW2 หนักยิ่งกว่า

ใน Modern Warfare ได้มีอุปกรณ์ชนิดใหม่สำหรับอาวุธปืนพก คือ Tactical Knife ที่จะเพิ่มรวดเร็วในการฟาดฟันมีดได้ว่องไวมากขึ้น รวมไปถึงสามารถใช้ควบคู่กับการยิงปืนได้ ซึ่งฟังดูเหมือนจะไม่ค่อยจะสำคัญเพราะเป็นอาวุธสำรอง จนกระทั่งเกมนี้ได้เสนอ Perk: Commando ระดับ Pro มีคุณสมบัติเพิ่มระยะในการฟันของมีดให้ไกลยิ่งขึ้น

ด้วยความผสมผสานที่ลงตัวระหว่างฟันเร็ว, เพิ่มระยะมีดจาก Commando Pro และวิ่งไม่จำกัดอย่าง Perk: Marathon ทำให้เกิดคลาสใหม่อย่างไม่เป็นทางการเรียกกันว่า ‘Ninja’ โดยผู้เล่นจะวิ่งไล่ฆ่าผู้เล่นคนอื่นจากการใช้มีดทั่วแผนที่อย่างบ้าคลั่ง (และรวดเร็ว) ถึงแม้ว่าทั้งหมดในรายชื่อ ตัว Tactical Knife + Commando จะอ่อนสุด แต่ก็เป็นอาวุธหนึ่งที่ผู้เล่นมักจะหัวเสีย เพราะรีแอคไม่ทันหรือต่อให้รู้ทันก็มักจะตายจาก Tactical Knife ก่อนอยู่เสมอ

UMP45 – Modern Warfare 2

(Not so) Silent but Deadly

ในชีวิตจริง UMP45 ใช้กระสุนขนาด .45ACP ซึ่งเป็นเรื่องไม่แปลกที่ปืน UMP45 ในเกมจะมีพลังรุนแรงกว่า SMG ตัวอื่นในเกม แต่เพราะใน MW2 แรงถีบต่ำและมีระยะการยิงระดับเยี่ยม ทำให้กลายเป็น Weapon of Choice สำหรับเพลเยอร์ทุกคน

UMP45 เป็นอาวุธยอดนิยมที่สุดในเกม Modern Warfare 2: Multiplayer ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นหน้าใหม่หรือทหารผ่านศึกต่างเลือกใช้ UMP45 ตลอดทั้งเกม ไม่ว่าจะเป็นศูนย์เล็งไม่เกะกะ, ระยะการยิงที่สูงกว่า SMG ทั่วไป, มีค่า DMG อยู่ที่ 40-35, มีแรงถีบและอัตราการยิงต่ำ ทำให้ UMP45 เป็นอาวุธที่ใช้ง่ายและ OP พร้อมกัน

ผู้เล่นมักจะใส่คู่กับอุปกรณ์เก็บเสียงเพื่อลบเรด้าห์ออกจาก mini-map, กลบเสียง และลด Muzzle Flash ที่ทำให้ปืนควบคุมได้ง่ายและมีวิสัยทัศน์ชัดเจนทุกการยิง แม้การใส่อุปกรณ์เก็บเสียงจะต้องสละระยะหวังผลไปบางส่วน แต่ UMP45 ยังมีพลังรุนแรงพอที่จะสามารถใช้งานได้ทุกสถานการณ์ ทุกระยะการยิง

ถึงแม้ว่า UMP45 จะ OP และใช้ง่าย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นปืนหนึ่งที่ยิงสนุกมากจากความรู้สึกของผู้เขียน

ACR – Modern Warfare 2 / NW 3

ปืนเลเซอร์

ACR เป็นปืน Assault Rifle ที่มีสถานะทุกอย่างบาลานซ์หมด ยกเว้นแรงถีบของปืนที่นิ่งระดับพระเจ้า

ไม่มีอะไรจะกล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ACR ไปมากกว่า ‘F the Recoil’ หรือ ‘แรงถีบคืออะไร’ อีกแล้ว ฟีลลิ่งการยิงของปืน ACR ผ่าน ADS รู้สึกนิ่งมากราวกับนั่งมอง ทำให้ปืนนี้เป็นมิตรต่อผู้เล่นทุกประเภท เพราะการใช้งานง่ายของมัน

แล้วผู้เล่นสามารถใส่อุปกรณ์ได้หลากหลายโดยไม่เกรงกลัวว่าจะเสียเปรียบทางใดทางหนึ่ง (เพราะแค่แรงถีบเป็นศูนย์ก็กินขาดแล้ว) ไม่ว่าจะเป็นเก็บเสียง, Laser/Holographic Sight หรือ Extended Magazines แต่เพราะว่าเกมเมอร์ส่วนใหญ่เลือกใส่เก็บเสียง จึงทำให้ปืน ACR มีชื่อหนึ่งเรียกว่า ‘ปืนเลเซอร์’ ไปโดยปริยาย

Akimbo G18 – Modern Warfare 2 / NW 3

เพี๊ยะ ๆๆๆๆๆ

สมัย WWII ทหารอเมริกันต้องฝึกจดจำเสียงปืน MG42 แต่ Call of Duty ผู้เล่นต้องฝึกจดจำเสียง G18 ให้แม่น

G18 เป็นอาวุธสำรองประเภท Machine Pistol ที่มีข้อเสียหลักคือมีแรงถีบและอัตราการยิงสูงมาก ทำให้การควบคุมปืน G18 ยากมากเมื่อเล็งแบบ ADS

ต้องขอบคุณ (มาก ๆ นะครับ) ที่มีออฟชั่น Akimbo ทำให้ผู้เล่นสามารถถือปืนคู่ G18 สร้างความเสียหายเป็นสองเท่าตัวพร้อมกับเสียงปืนที่ทุกคนได้ยินแล้วต้องหวาดกลัว

ถึงแม้ว่าจะโดนตัดความสามารถในการ ADS แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่ใส่ Perk: Steady Aim ที่มีความสามารถทำให้เป้าเล็กลงมากจนน่าตกใจ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถสาดกระสุนกวาดศัตรูได้ทั่วห้องไม่ยาก

FAMAS – Black Ops

มันคือ FAMAS เพิ่มเติมคือ Full Auto

จินตนาการว่าถอดความสามารถปืน FAMAS จาก Modern Warfare 2 ทั้งดุ้นมาลงสู่เกมภาค Black Ops แต่เพิ่มเติมคือ Full Auto แค่ฟังก็น่าขนลุกแล้ว

แล้วฝันร้ายก็จริง ปืน FAMAS เพราะในเกม Black Ops ไม่มีข้อด้อยเลย โดนเฉพาะอัตราการยิงที่เร็วมากและแรงถีบของปืนต่ำ ทำให้ FAMAS เป็นปืนหนึ่งที่เกมเมอร์เห็นแล้วต้องร้องหยี๋และเป็นที่นิยมในเวลาเดียวกัน

อาวุธ FAMAS สามารถปลิดชีพศัตรูได้รวดเร็วอย่างร้ายกาจโดยสามารถกำจัดศัตรูได้โดยยิงเพียง 2-4 นัดในทุกระยะหวังผล แต่โชคดีที่ทีมงาน Treyarch ภายหลังได้จัดการเนิร์ฟปืนนี้ ทำให้เสื่อมความนิยมไปโดยปริยาย

MP7 – Modern Warfare 3

ปืนเลเซอร์แต่เล็กกว่า

อธิบายสั้น ๆ เข้าใจง่ายเลย – MP7 คือตัวแทนของ ACR ที่มีแรงถีบของปืนเป็น ‘0’ แต่เล็กกว่า ว่องไวกว่า มีอัตราการยิงสูงกว่า และผู้เล่นนิยมใส่เก็บเสียง ด้วยเหตุนี้ทำให้ UMP45 โดนถีบลงออกจากตำแหน่งปืน SMG ที่ OP ที่สุด แล้วแทนที่ด้วยปืน MP7 แทน

Full Auto FAL OSW – Black Ops II

No Risk High Reward

FAL OSW เป็นปืนที่ใช้ยากและมีความเสี่ยงสูง แต่เพราะความแม่นยำที่สูงและรุนแรงด้วยระบบการยิงเป็น Semi-Automatic หรือยิงทีละนัดจึงเป็นนิยมสำหรับผู้เล่นบางส่วน

จนกระทั่งในเกม Black Ops II ได้มีออฟชั่นให้สามารถเปลี่ยนระบบการยิงจาก Semi-Auto เป็น Full Auto ทำให้ FAL OSW กลายเป็นปืนมอนสเตอร์ เพราะประสิทธิภาพยังคงเหมือนเดิมทุกอย่างแต่เพิ่มเติมคือผู้เล่นไม่ต้องคลิ๊กรัว ๆ อีกต่อไป

อารมณ์จะคล้ายกับ FAMAS ในเกม Black Ops ภาคแรกที่ OP เพราะเปลี่ยนระบบการยิงโดยไม่มีการดัดแปลงสถานะหรือลดประสิทธิภาพ แม้ว่าแรงถีบจะเพิ่มขึ้น แต่โดนกลบด้วยค่า DMG ที่รุนแรงและมั่นคงอยู่ที่ 40-55 ทำให้ FAL OWS ยิงเพียงแค่ 2-3 นัดในทุกระยะก็สามารถปลิดชีพศัตรูได้ไม่ยาก ซึ่งในเวลาต่อมาปืน FAL OWS ได้โดนแบนจากโหมด Competitive Play ในที่สุด