อีกไม่นานเรากำลังจะได้สัมผัสกับ Far Cry 6 กันแล้ว และในภาคนี้ต้องบอกว่าผู้เล่นอาจจะอินยิ่งกว่าภาคไหน ๆ ด้วยเนื้อเรื่องที่เราน่าจะเข้าใจกันดี ประกอบกับภาคนี้ ถือเป็นเกม Far Cry ภาคแรกที่รองรับภาษาไทยอย่างเป็นทางการ แถมเป็นภาคที่ทาง Ubisoft ทุ่มทุนโปรโมทอย่างจัดเต็มมาต่อเนื่องนับตั้งแต่มันได้วันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่เพื่อความชัวร์และความครบเครื่อง วันนี้มาดูกันว่า Far Cry 6 มีระบบอะไรกันบ้างที่น่าสนใจ และคุณอาจต้องรู้ก่อนจะเสียเงินซื้อภาคนี้
1. ภาคนี้ได้นักแสดงชื่อดังตัวจริงมารับบทเป็นตัวละครหลัก
น่าจะเป็นเกม Far Cry ภาคแรก ที่ได้นักแสดงที่โด่งดัง และมีชื่อเสียงระดับแถวหน้าของวงการมารับบทเป็นตัวละครหลัก กับ Giancarlo Espocito นักแสดงมากฝีมือวัย 63 ปีคนนี้ ผลงานที่โดดเด่นจนทุกคนจำเขาได้น่าจะหนีไม่พ้นบทบาทของ Gus Fring จากซีรีส์ระดับตำนานอย่าง Breaking Bad นอกจากนั้นยังมีผลงานการแสดงอื่นอีกมากมาย ทั้ง Maze Runner, The Mandalorian หรือจะเป็นบทบาทเดิมใน Better Call Saul ด้วย ในเกมนี้เขาจะรับบทเป็น Anton Castillo ผู้นำเผด็จการของ Yara โลกของเกมในภาคนี้ ด้วยความสามารถในการแสดง บวกกับบทบาทที่เน้นความโหด สุขุมนุ่มลึก เชื่อว่า Giancarlo Espocito จะทำให้แฟนเกม Far Cry ต้องจดจำเกมภาคนีไว้ได้อีกภาคอย่างแน่นอน
2. เนื้อเรื่องที่มากกว่าการโค่นล้มเผด็จการ
หากคุณดูตัวอย่างมาหลายตัว จะเห็นได้ว่าภาคนี้ ประชาชนชาว Yara ต้องการจะขับไล่ Anton Castillo ลงจากบัลลังก์อำนาจ แต่เขาไปทำอะไรมา จึงถูกประชาชนรังเกียจได้ขนาดนี้ คำตอบคือสิ่งที่เรียกว่า Viviro ซึ่งเป็นโครงการที่ Anton คิดขึ้นมา มันคือวิธีการรักษามะเร็งแบบใหม่ที่เขาจะใช้มันเป็นแนวทางในการขยายอิทธิพลไปสู่ระดับโลก แต่เจ้าโปรเจกต์ Viviro นี้ มันทำให้เกิดการขยายธุรกิจในเชิงรุก ประชาชนถูกจับมาบังคับใช้แรงงาน และขั้นตอนการผลิตยังส่งผลกระทบต่อมลภาวะ แถมยังมีปัญหาเรื่องกองทัพที่ใช้อำนาจในทางที่ผิดอีกต่างหาก แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด Far Cry มักจะมีเนื้อเรื่องที่หักมุมอยู่เสมอในทุกภาค เราก็ต้องมาติดตามกันในภาคนี้ว่า เบื้องหลังโปรเจกต์ Viviro นั้นจะมีความลับอะไรซ่อนอยู่
3. สร้างตัวละครหลักของเราให้เป็นชายหรือหญิงก็ได้
อาจจะแตกต่างจากภาค 5 สักเล็กน้อย ในภาค 5 เรารับบทเป็นรองนายอำเภอหน้าใหม่แต่ไร้ชื่อ แต่ในภาคนี้เราจะกลับมาเป็นตัวละครหลักที่มีชื่อเสียงเรียงนามแล้ว นั่นคือ Dani Rojas แต่ถึงแม้จะมีชื่อ มีตัวตน แต่เราก็เลือกได้ว่าจะให้ Dani ของเรานั้น เป็นตัวละครหญิงหรือชายก็ได้ แถมตัวละครหลักของเราในภาคนี้จะมีส่วนร่วมกับเรื่องราวและโลกของเกมมากกว่าภาคก่อน ๆ ที่เคยมีมา รวมไปถึงในฉากคัทซีนของเกมจะเปลี่ยนให้เป็นมุมมอง Third Person ทำให้เรามองเห็นการกระทำของตัวละคร ทำให้เราอินกับเกมมากยิ่งขึ้นด้วย
4. การปรับแต่งตัวละครและอาวุธในเกม
ในภาคนี้เราจะเน้นการต่อสู้แบบกองโจรที่เน้นการปฏิวัติประเทศ ทำให้การเล่นเกมถูกเปลี่ยนแปลงไปเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ในเมื่อเราเน้นสู้แบบกองโจร การต่อสู้แบบกองโจร แน่นอนว่าการปรับแต่งตัวละครและอาวุธภายในเกมก็จะได้มาด้วยวิธีต่าง ๆ แบบกองโจรด้วย อย่างเช่นอาวุธระดับสูงหรือ Supremo ที่จะเป็นการเอาเศษเหล็ก เศษวัสดุโน่นนี่ มาผสมรวมกัน กลายเป็นอาวุธแบบบ้าน ๆ แต่มีประสิทธิภาพสูง ที่แม้ว่ามันจะดูหลุดโลกไปหน่อย แต่ธรรมดาแล้ว Far Cry ก็ไม่ใช่เกมที่เน้นความสมจริงอะไรอยู่แล้ว หรือบางครั้งเราอาจนำวัตถุดิบต่าง ๆ มาใช้สร้างของป้องกันตัวเองได้ ทั้งชุดเกราะ หรือทำยานพาหนะคุ้มเกราะ แล้วแต่ผู้เล่นว่าอยากจะได้อะไรในการเล่น
5. ภาคนี้ไม่มีระบบ RPG แต่เป็นการแพ้ทาง – ชนะทางกันแทน
หลายคนเห็นหลอดเลือดในเกมแล้วอาจจะขัดใจ หรือคิดว่ามันจะใส่ความเป็น RPG แบบ New Dawn อีกหรือไม่ แต่ในภาคนี้ยืนยันแล้วว่าไม่ใช่ระบบ RPG แต่จะเป็นระบบจำแนกประเภทศัตรูแทน เช่น ถ้าหากเรานำอาวุธประเภทนี้ไปยิงศัตรูตัวนี้ อาจทำดาเมจได้มากกว่าปกติ หรือถ้าเอาไปยิงอีกตัว อาจทำดาเมจได้น้อยลงเป็นต้น ทำให้เราต้องใช้อาวุธที่เหมาะสม และศัตรูภาคนี้จะค่อนข้างโหดมากขึ้น มีชนิด มีรูปแบบที่หลากหลายกว่าเดิม และแน่นอนว่าศัตรูเยอะขึ้น อาวุธเราก็เยอะขึ้นด้วย ใครชอบบู๊ ชอบลุย ภาคนี้น่าจะได้สนุกมากยิ่งกว่าภาคอื่น ๆ แต่ตัวเลือกในการลอบเร้นก็ยังคงมีเหมือนเดิมเช่นกัน
6. การ Co-op และพันธมิตรร่วมเดินทางของเรา
เหมือนกับภาคก่อนหน้า Far Cry ในภาคนี้ยังคงรองรับการเล่นแบบ Co-op ด้วย ทาง Ubisoft ออกมายืนยันว่า โหมดแคมเปญเนื้อเรื่องก็จะยังคงรองรับการเล่นแบบ Co-op 2 คน คุณสามารถชวนเพื่อนอีกคนมาเล่นด้วยกันได้ และภาคนี้ก็มีระบบ Matchmaking แล้วด้วย รวมไปถึงเนื้อหาคอนเทนต์ต่าง ๆ ของเกมในอนาคตที่จะอัปเดตเข้ามาหลังจากนี้ก็จะรองรับการเล่นแบบ Co-op 2 คนด้วยกันทั้งสิ้น
และหากใครไม่อยากร่วมเดินทางกับเพื่อนตัวเป็น ๆ ด้วยกัน ในภาคนี้ยังใสร่ะบบพันธมิตรร่วมเดินทาง ที่จะเป็นสัตว์ทั้งหมด อย่างที่เราได้เห็นกันไปแล้ว ก็มีทั้งน้องหมาดัชชุนสุดน่ารัก และยังมีไก่จอมโหดรวมไปถึงจระเข้ที่น่าจะดุไม่แพ้กันอีกต่างหาก เอาง่าย ๆ คือภาคนี้การเดินทางใน Yara ของคุณจะไม่เหงาแน่นอน
7. บอกลา Arcade Mode
อาจไม่ใช่โหมดที่สนุกจนน่าจดจำนัก แต่ Arcade Mode ใน Far Cry 5 ก็เป็นอีกโหมดสุดสนุกที่หลายคนชื่นชอบ แต่ในภาคนี้ ทาง Ubisoft ตัดสินใจที่จะตัดโหมดนี้ออกไป รวมไปถึง Map Editor ก็ไม่มีให้เล่นกันแล้ว โดยทาง Ubisoft ให้สาเหตุว่า ที่ตัด Arcade Mode ออก เพราะต้องการมุ่งเน้นไปที่การทำแคมเปญเนื้อเรื่องให้ออกมาดีที่สุด ซึ่งจากการนำเสนอและข้อมูลที่ปล่อยออกมา ตัวเกม Far Cry 6 นั้น มีขนาดแผนที่ใหญ่กว่าเกมทุกภาคที่ผ่านมา และอาจจะใช้เวลาในการเล่นมากกว่าทุกภาคด้วย
8. Season Pass และคอนเทนต์ฟรีที่คอลแลบกับหนังดังมากมาย
ความพิเศษของเกมภาคนี้คือ เนื้อหา Free Update ที่หันไปคอลแลบกับภาพยนตร์ดังหลายเรื่องมาก สำหรับ 3 ตัวแรกที่ปล่อยมาคือ ภารกิจที่จะให้เราไปร่วมมือกับ Danny Trejo นักแสดงชื่อดังจากภาพยนตร์ชุด Machete ส่วนอีกสองตัวจะเป็นการคอลแลบกับ Rambo และซีรีส์ชื่อดังทาง Netflix อย่าง Stranger Things ส่วนของ Season Pass ใครที่ชื่นชอบสามตัวร้ายอย่าง Vaas, Pagan Min, Joseph Seed นั้น เราจะได้เล่นเป็นสามตัวละครนี้ ได้รู้เรื่องราวของสามคนนี้มากขึ้น และยังปรับให้เกมมีความเป็น Roguelike ตาย เกิด วนเวียนไปไม่รู้จบอีกด้วย ภาพรวมคอนเทนต์ช่วง Post Launch นั้น ถือว่าน่าจับตามองพอสมควรเลยทีเดียว
9. ภาคนี้รองรับภาษาไทยอย่างเป็นทางการ
ย้ำกันอีกครั้งสำหรับแฟน ๆ Far Cry ที่ในภาคนี้ยืนยันแล้วว่าจะรองรับซับไตเติลภาษาไทยภายในเกมด้วย ถือเป็น Far Cry ภาคแรกที่มีการรองรับภาษาไทย และเป็นเกมถัดมาของ Ubisoft ที่มีภาษาไทยต่อจาก Ghost Recon Breakpoint (หากไม่นับรวม Rainbow Six Siege) ซึ่งจากฟีดแบคของเกมแรก ก็น่าจะนำผลงานกลับไปปรับปรุงให้ดีขึ้น และมารอชมกันว่า Far Cry 6 จะทำภาษาไทยออกมาได้น่าประทับใจมากน้อยแค่ไหน
Far Cry 6 จะเปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ บน PC, PS4, PS5, XBOX One, XBOX Series X/S
