เรารู้ว่าการโปรโมทเกมให้ดูดีและน่าเล่นก่อนเกมออกนั้นเป็นเรื่องปกติไปแล้วในยุคนี้ เพื่อดึงดูดให้คนมาสนใจเกมที่จะวางขายให้มากที่สุด แต่หลายครั้งสิ่งที่อยู่ในคลิปหรือคำโฆษณาเหล่านี้ก็ไม่ตรงกับเกมที่ออกมาให้เล่นกันเลยแม้แต่น้อย และก็ทำให้ผู้เล่นเกิดอาการผิดหวังจนทุกคนต้องออกมาสาปส่งกันอย่างถล่มทลาย และต่อไปนี้คือ 7 เกมที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากตัวอย่าง จนผู้เล่นรับกันไม่ได้

No Man’s Sky

แม้ตอนนี้ No Man Sky’s จะเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการปรับปรุงคุณภาพของตัวเกมจนอยู่ในจุดที่ทุกคนแฮปปี้แล้ว แต่ในช่วงแรกที่เกมวางจำหน่ายนั้น ตัวเกมแทบไม่มีอะไรที่ตรงกับคำโฆษณาเลยแม้แต่น้อย ดวงดาวและสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่สุ่มมาแบบขอไปที ระบบการเล่นก็ซ้ำซากไม่มีอะไรน่าสนใจ แถม Bug ยังเพียบ ทำให้กระแสในช่วงแรกนั้นเต็มไปด้วยความผิดหวังจนหลายคนถึงกับเรียกเกมนี้แบบเสียหายว่า No Man’s Buy กันเลย

Watch Dogs

หนึ่งในเกมสุดอื้อฉาวที่เหล่าเกมเมอร์มักหยิบมาล้อ Ubisoft อยู่เสมอเมื่อเจอตัวอย่างเกมที่ดูดีจนน่าเหลือเชื่อ เพราะตัวอย่างของ Watch Dogs ที่โชว์ในงาน E3 2012 นั้นมันดูดีมากจริง ๆ ถึงขนาดทำให้คนที่รอเล่น GTA V ที่จะวางจำหน่ายในไม่ช้านั้น ร้อน ๆ หนาว ๆ ได้เลย แต่พอตัวเกมออกมาจริง ๆ ก็อย่างที่เห็นกัน กราฟฟิกถูกดาวน์เกรด ระบบการเล่นเปลี่ยนไปจนดูไม่ล้ำเหมือนในตัวอย่าง และฉากยิงกันที่ธรรมดาเหลือเกิน และด้วยบาดแผลในครั้งนี้ทำให้เหล่าเกมเมอร์ทั้งหลายเคลือบแคลงสงสัยในตัวอย่างเกมของ Ubisoft แบบขึ้นสมองมานับตั้งแต่นั้น

Anthem

Anthem นอกจากจะเป็นเกมที่ล้มดังที่สุดในปี 2019 แล้ว Anthem ยังมีตัวอย่างของเกมที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงจนหลายคนส่ายหน้าไม่เชื่อสายตาตนเอง เพราะรายละเอียดหลายอย่างที่เคยอยู่ในตัวอย่างที่โชว์ในงาน E3 2017 นั้นหายไปหลายส่วน ตัวละครที่คิดว่าน่าจะโผล่มาก็หายไป แถมด้วย Bug อีกเป็นโหลที่ทำให้หลายคนถอดใจ แม้จะโชคดีที่ Origin Access นั้นเปิดให้เล่นก่อนล่วงหน้าร่วมสัปดาห์ แต่ชาวคอนโซลที่ซื้อเกมนี้มาก็ไม่ได้โชคดีขนาดนั้น จำต้องทนกับความย่ำแย่ของเกมไปอย่างช่วยไม่ได้ไปโดยปริยาย และยังส่งผลให้ Bioware มีภาพด้านลบในด้าน

Fallout 76

อีกหนึ่งเกมที่เป็นด้วยคำโกหกคำโตจาก Todd Howard ผู้กำกับเกมนี้ แทบทุกอย่างที่เกี่ยวกับเกมนี้ที่พูดถึงในงาน E3 ล้วนสวยหรูดูดี แต่พอถึงเวลาจริงกลับเต็มไปด้วยปัญหามากมาย ทั้ง Bug ระบบการเชื่อมต่อ เอนจิ้นของเกมที่เก่าเก็บแต่พยายามต่อยอดจนเครื่องรุ่นใหม่และเก่าต่างรับไม่ไหว และยังปัญหาอีกสารพัดมากมาย แม้หลายคนจะทำใจยอมรับได้ว่าเกมของ Bethesda นั้นจะเต็มไปด้วย Bug ก็จริง แต่ครั้งนี้มันหนักหนาสาหัสเกินไป จนหลายคนถึงกับเสื่อมศรัทธาในค่ายนี้ไปเลย

The Order 1886

นอกจากเกม God of War ที่สร้างชื่อให้กับทาง Santa Monica Studio อย่างมากแล้ว ก็มี The Order 1886 เกมนี้ที่สร้างชื่อในทางที่ไม่ค่อยดีให้พวกเขาด้วยเช่นกัน เพราะตัวอย่างของเกมโชว์ให้เราได้เห็นถึงความน่าสะพรึงและใหญ่โตของโลกในยุค 1886 ได้อย่างน่าสนใจ และคาดหวังว่าจะต้องมีอะไรมัน ๆ ไม่ต่างจากใน God of War แน่ ๆ ทว่าตัวเกมที่ออกมานั้นมีดีเพียงอย่างเดียวคือภาพสวยและใช้ทรัพยากรของเครื่อง PS4 ได้คุ้มค่ามาก แต่ความลุ้นระทึกที่คิดว่าจะได้สัมผัสก็ถูกนำเสนอผ่านทางฉากภาพยนตร์และการกด Quick Time Event ที่พร่ำเพรื้อเกินเหตุ ไร้ซึ่งความท้าทายสุดระทึกแบบที่ได้ดูในตัวอย่าง และเป็นไปแบบนี้ตลอดทั้งเกม เรียกว่าน่าผิดหวังก็คงจะน้อยไปจริง ๆ

Destiny

Destiny แม้ Destiny จะไม่ใช่เกมที่เลวร้าย แต่ก็มีความผิดคาดไปจากตัวอย่างของเกมไปไม่น้อยเหมือนกัน จากที่ผู้เล่นคาดหวังว่าจะได้ลุยเดินยิงไปในโลกที่เปิดกว้างตามสไตล์ของเกม Halo ที่คุ้นเคย แต่ตัวเกมจริงนั้นกลับสั้นมาก ๆ เพราะถูกกั๊กไว้ขายต่อใน Expansion Pass คอนเทนต์เนื้อหาหลายอย่างที่ควรจะมีก็ไม่มา(เพราะถูกกั๊กไว้ขายอีกรอบแทนแล้ว) ทำให้ความคิดที่หลายคนอยากจะผจญภัยแบบอลังการตั้งแต่ซื้อเกมมาเล่นต้องอารมณ์ค้างกันแบบเซ็ง ๆ ไปเลยช่วงหนึ่ง

Tom Clancy’s The Division

หากคุณคิดว่า Watch Dogs ของ Ubisoft นั้นไม่เหมือนกับตัวเกมจริง ๆ แล้ว The Division นั้นคือสิ่งที่เป็นมากกว่านั้นถึงสองเท่า เพราะจากตัวอย่างของเกมทำให้เราคิดว่านี่คือเกมเดินหน้ายิงแบบ Co-op โลกเปิดอิสระที่ร่วมทีมยิงเหล่าคนเถื่อนกับเพื่อนในเมือที่สมสลายแบบสมจริง ผนวกกับการใช้อุปกรณ์ล้ำอนาคตที่ดูเฟี้ยวฟ้าวมาก ๆ แต่ตัวเกมจริงกลับกลายเป็นเกมออนไลน์ที่ยิงสู้กับศัตรูที่เป็นคนและมีเลือดหลักล้านหน่วยที่ยิงให้ตายได้ยาก ความอลังการจากการใช้ของเสริมสุดไฮเทคก็ดูแห้งแล้ง และแน่นอนว่าภาพในตัวอย่างก็ดูสวยกว่าตัวเกมจริง ๆ เหมือนคลิปโปรโมทเกมอื่น ๆ ของ Ubisoft ในยุคนั้น แต่ก็โชคดีที่ตัวเกมเป็นแกระแสนิยมหลังวางจำหน่ายในเวลาไม่นาน ทำให้หลายคนพอจะทำใจลืม ๆ เรื่องนี้ไปได้บ้าง