การตะลุยผ่านเส้นทางมากมายเพื่อไปให้ถึงจุดจบของเกมนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องใช้เวลาพอสมควร หลากหลายเกมนั้น มีฉากจบอันคุ้มค่ารอคอยเราอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวสุดประทับใจ เกมเพลย์ที่ชวนติดพัน และทำให้อยากกลับมาเล่นซ้ำ แต่หลายครั้งเหมือนกัน ที่เราใช้เวลามากกว่า 10-20 ชั่วโมงกว่าจะจบ เพื่อพบกับฉากจบที่ชวนสงสัย สร้างเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่เอาไว้ในใจ ก่อนจะปล่อยให้เรารอลุ้นกันว่า สุดท้ายแล้ว เนื้อหาต่อไปจะเป็นอย่างไร หรือไม่ทำต่อ จบปลายเปิดอย่างนั้นเลย
วันนี้มาดูกันกับ 8 วิดีโอเกมที่มีฉากจบชวนสงสัย สร้างคำถามในใจมากกว่าจบสวย แต่เราขอบอกไว้ก่อนว่า การจบแบบนี้นั้น ไม่ได้แปลว่าจบแย่ แค่มันสร้างคำถามไว้มากกว่าคำตอบที่เราควรจะได้เพียงเท่านั้น
1.Life is Strange
ผลงานจากค่าย Square Enix ที่เล่าเรื่องแบบเป็นตอน ๆ จากมุมมองของ Max นักเรียนไฮสคูลที่พบว่าเธอสามารถย้อนเวลากลับไปได้หลังจากช่วยเหลือเด็กหญิงคนหนึ่งที่กำลังถูกยิง แต่เพราะเหตุนี้ทำให้คุณเดินหน้าเข้าสู่ปริศนาฆาตกรรมอันมืดมิด ในตอนท้ายของเกมที่คุณต้องเผชิญหน้ากับสองทางเลือกที่แตกต่างกัน ระหว่างการช่วย Chloe หรือช่วยบ้านเกิดของคุณ ถือเป็นตัวเลือกที่ยากที่สุดสำหรับผู้เล่นมาก ๆ แต่หลังจากคุณได้เลือกไปแล้ว ตัวเกมไม่ได้เล่ารายละเอียดหรือเล่าผลกระทบอะไรมากนัก มันก็แค่สรุปง่าย ๆ ตามเส้นทางที่คุณเลือกเท่านั้น สำหรับผู้เล่นจบแล้วน่าจะเข้าใจฟีลลิ่งที่ว่า ให้เลือกแบบกดดันแทบตาย สุดท้ายก็ไม่ได้บอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ กันแน่กับอีกเส้นทางหนึ่งที่เราไม่ได้เลือก มันชวนคาใจเอาเรื่องเลยทีเดียว
2.Metal Gear Solid 5: The Phantom Pain
ซีรีส์ Metal Gear ที่สร้างปริศนาและปมเรื่องราวที่น่าสนใจไว้มากมายนับตั้งแต่ปี 1987 ว่ากันว่าเกมนี้นั้นมีไทม์ไลน์ที่เป็นได้ทุกอย่าง ยกเว้นเป็นเส้นตรง ในภาค Phantom Pain นี้ นับว่าเป็นภาคสุดท้ายในแฟรนไชส์เกมนี้ หากไม่นับภาค Survive และแทนที่มันจะเป็นการปิดตำนานอย่างยิ่งใหญ่ แต่มันกลับทิ้งปมปริศนาไว้อีกมากมายที่ยังไม่ได้คำตอบ และกลายเป็นการตัดจบอย่างเร่งรีบ ซึ่งสาเหตุก็ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากปัญหาการร่วมงานกันของฮิเดโอะ โคจิม่า และทาง KONAMI เอง ที่ทำให้สุดท้ายแล้ว ตำนาน Metal Gear กลับทิ้งคำถามไว้มากมายมากกว่าเคลียร์คำตอบให้เหล่าแฟน ๆ ได้รับรู้
3.Alan Wake
‘มันไม่ใช่แค่ทะเลสาบ แต่มันคือมหาสมุทร’
ฉากจบสุดตราตรึงของ Alan Wake ที่อาจหมายถึงอะไรก็ได้ แต่มันยังคงสร้างความพิศวงในใจเหล่าเกมเมอร์มาอย่างเนิ่นนาน Alan Wake ว่าด้วยเรื่องราวของนักเขียนนวนิยายที่เดินทางไปยังเมืองเล็ก ๆ เพื่อผ่านพ้นความยากลำบากในชีวิต แต่อยู่ ๆ ภรรยาของเขาก็หายตัวไป และงานเขียนของเขาก็เริ่มมีชีวิตขึ้นมาและไล่ล่าเขา – ในช่วงท้ายของเกม Alan ได้ค้นพบวิธีที่จะจัดการปัญหานี้ แต่ปัญหาและคำตอบหลายอย่างยังไม่ได้ถูกอธิบายทั้งหมด อะไรคือมหาสมุทร ? คนแปลกหน้าที่เรียกตัวเองว่า Mr.Scratch คือใคร ? ทำให้ Alan Wake เป็นผลงานของ Remedy ที่หลายคนเรียกร้องภาคต่อมามากที่สุดแล้ว แต่จนทุกวันนี้เราก็ยังไม่เห็นทีท่าว่าจะได้ทำต่อเลย แม้ว่า Alan Wake จะโผล่มาร่วมครอสโอเวอร์กับ Control แล้วก็ตาม
4.Mass Effect 3
เราทุกคนรู้ดีว่า Mass Effect 3 ตอนจบนั้น เกิดจากสองภาคเดิมที่ผู้เล่นร่วมเดินทางและสร้างเส้นทางมาด้วยมือตัวเอง อาจกล่าวได้ว่าไตรภาค Mass Effect นั้น เป็นอีกหนึ่งเกมที่ยอดเยี่ยมมากจากทาง BioWare เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม ฉากจบของเกมนี่แหละที่เป็นตัวจุดประเด็นดราม่าครั้งใหญ่ เพราะผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่ชอบฉากจบของเกมภาคนี้ จนทาง BioWare ต้องมีการอัปเดตเปลี่ยนแปลงฉากจบของเกมเล็กน้อย แต่มันก็ยังไม่ได้รับความพึงพอใจมากนักอยู่ดี เนื้อเรื่องคือตัวเอกพยายามค้นหาอาวุธโบราณเพื่อมากำจัดลาสท์บอส แต่มันกลายเป็นว่าไม่มีลาสท์บอส กล่าวได้ว่ามันมีฉากจบที่ไม่สมเหตุสมผลมากนัก แม้จะมีฉากจบจริง ๆ ใน Citadel DLC แต่ตอนนี้เราก็น่าจะได้เห็นกันแล้วว่า BioWare กำลังจะกลับมาสานต่อ Mass Effect อีกครั้ง ในภาค 4 ซึ่งมันจะตอบคำถามคาใจเกมเมอร์ทั้งหลายได้หรือไม่ ต้องรอติดตามกันต่อไป
5.Final Fantasy IX
อ้างอิงจาก WhatCulture.com ในแฟรนไชส์เกม Final Fantasy นั้น ภาคที่ 9 ของเกม ถือว่าเป็นภาคที่มีฉากจบที่น่าสนใจ ที่ทำให้ใครหลายคนร้อง WTF กันมานักต่อนักแล้ว Necron คือบอสของตัวเกมภาคนี้ แต่ประเด็นคือ เขามาจากไหน ? ในขณะที่ทฤษฎีของแฟน ๆ คาดเดากันว่าเขาเป็นตัวแทนของความตาย หรืออาจเชื่อมโยงกับ Kuja หรือเป็นเพียงแค่ Soulcage อย่างลับ ๆ และนี่คือสิ่งที่หลายคนไม่เคยได้คำตอบ มันอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่นัก และไม่ได้หมายความว่าภาคนี้เป็นภาคที่ไม่ดี เพียงแต่มันจบโดยสร้างคำถามไว้อย่างมากมายมากกว่าได้คำตอบนั่นเอง
6.Five Night’s at Freddy
มันอาจจะเป็นเรื่องแปลกสักหน่อยที่เราดันอยากจะมาถามหาอะไรก็ตามที่เป็นเรื่องราวสาระสำคัญของเกมชุดนี้ ด้วยตัวเกมหลักที่มีมากถึง 5 ภาค แถมยังมีสปินออฟต่าง ๆ อีกมากมาย แต่ปัญหามันอยู่ที่ Scott Cawthon เคยกล่าวเอาไว้เมื่อตอนเปิดตัวเกมภาค 4 ว่า ยังไม่มีใครค้นหาเรื่องราวที่เขาซ่อนเอาไว้ได้เจอเลย ซึ่งจนทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่ามันมีหรือไม่มีกันแน่ ที่สำคัญคือตอนนี้เกมภาคใหม่ก็กำลังจะตามมา และไม่รู้ด้วยว่าเนื้อหาหลักจะเป็นยังไง แต่เอาเป็นว่าพยายามอย่าไปหาเหตุผลกับเกมนี้อาจจะเป็นทางออกที่ง่ายกว่าก็เป็นได้
7.Bloodborne
ซีรีส์ Souls-Like ของค่าย From Software เกือบจะทุกเกมที่มีการจบแบบปลายเปิด และอาจต้องอาศัยการตีความกันเอาเอง แต่ Bloodborne นั้นอาจจะต้องใช้การตีความเยอะกว่าเกมอื่น ๆ หากว่ากันตามตรง ทุกอย่างในเกมล้วนเป็นเครื่องหมายคำถามได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ การเล่าเรื่องที่ซับซ้อน สัตว์ประหลาดที่ดูผิดรูปร่าง ทุกอย่างไม่ได้เฉลยไว้แม้ว่าเราจะเล่นเกมจบแล้ว ชุมชนของชาวเกมนี้ได้พยายามค้นหาคำตอบที่แน่ชัดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับโลกของเกม แต่ก็ไม่เคยมีใครได้คำตอบที่ชัดเจนทั้งสิ้น บอสที่คุณสู้ด้วยจะสื่ออะไร ผู้ส่งสารคือใคร เกิดอะไรขึ้น วงจรของฮันเตอร์จะเป็นอย่างไรต่อไป ทั้งหมดนี้ ไม่มีใครรู้ทั้งสิ้น รู้เพียงแค่ว่า เกมมันโคตรจะสนุก เพียงเท่านั้นเอง
