อาการติดเกมในตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องที่เป็นนามธรรมอีกต่อไป เพราะมีการกำหนดแล้วว่า “อาการติดเกม” ถือเป็นโรคจิตประเภทหนึ่งที่ต้องได้รับการรักษา ซึ่งการจะเป็นโรคติดเกมได้นั้น อย่างน้อยคุณต้องมีความผิดปกติอยู่บ้างแล้ว ทำให้มันค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องไกลตัวพอสมควร

สิ่งที่ใกล้ตัวเรามากกว่าคืออาการเสพติดแบบ “นามธรรม” ที่ไม่ใช่อาการที่เกิดจากสารเคมีในสมองหรือความผิดปกติใด ๆ แต่เกิดจากใจตัวเราเองที่หมกมุ่นในสิ่งนั้นจนเกิดควร เคยไหมที่บางทีคุณเล่นเกมโดยที่ไม่สนใจอะไรเลย เล่นเกมจนคุณไม่เรียน จนคุณไม่สนใจทำงาน ผลงานช่วงนี้ของคุณออกมาห่วยเพราะเอาแต่สนใจบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ควรจะทุ่มความสนใจไปให้มัน นี่คือ “5 อาการที่แสดงให้เห็นว่าคุณต้องเลิกเล่นเกมนั้นก่อนที่มันจะสายไป” ที่จะช่วยให้คุณวิเคราะห์ตัวเองได้ว่าคุณเทความสนใจไปที่เกมมากเกินไปหรือเปล่า จาก GamingDose

คุณคิดถึงแต่มัน

ในโลกนี้มีน้อยเกมมากที่จะถูกเสปกของคุณโดยสมบูรณ์ ประมาณว่าเล่นมันได้ทั้งวัน คิดถึงมันได้ตลอด สามารถทิ้งเวลาเป็นวัน ๆ เพื่อเล่นมันได้ แถมคุณยังไม่เบื่อมันด้วย ซึ่งมันเป็นอะไรที่ “อันตราย” อย่างมากถ้าคุณไม่มีระเบียบวินัยในการใช้ชีวิต การเจอเกมชนิดนี้ทำได้ค่อนข้างยาก แต่เชื่อว่าหลายคนคงน่าจะมีซักเกมอยู่ในใจแหละที่ทำให้เรารู้สึกแบบนี้ ส่วนตัวผู้เขียนก็มีเหมือนกัน วิธีที่จะเอาตัวรอดจากอาการแบบนี้คือคุณจะต้องหักห้ามใจตัวเองให้ได้ เนื่องจากการแบ่งเวลามันไม่เพียงพอกับสิ่งที่ยั่วยวนใจที่รุนแรงและมีอำนาจขนาดนี้ เราอยากให้คุณบังคับตัวเองให้เยอะ ๆ เพราะถ้าหากคุณไม่ทำ ในท้ายที่สุดคุณอาจจะสูญเสียชีวิตประจำวันไปเลยก็เป็นได้

คุณหงุดหงิดกับมัน

เกมที่ดีควรจะให้ความบันเทิง ให้ความรู้สึกสบายและได้พักผ่อน แต่หลายคนบอกว่าเกมที่ให้แค่อารมณ์แบบนั้นเป็นแค่ “เกมด้านเดียว” ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่เราจะคิดแบบนั้น เพราะเกมในสมัยนี้สื่ออารมณ์ได้หลายแบบมาก ๆ แต่อารมณ์ที่มันไม่ควรจะสื่อออกมาได้คืออารมณ์โกรธ เกมไม่เคยบังคับให้คุณโมโห ไม่เคยบังคับให้คุณทำลายข้าวของ ไม่เคยบังคับให้คุณตะโกนเสียงดัง ถ้าคุณเริ่มทำสิ่งเหล่านี้ แสดงว่าคุณกำลังอยู่ในระยะของความอันตรายโดยไม่รู้ตัว การควบคุมอารมณ์ของแต่ละคนไม่เท่ากัน มันดีถ้าบางครั้งคุณได้ระบายออกมาบ้าง แต่การระบายเยอะ ๆ จนเคยตัวจนติดเป็นนิสัย มันอาจจะลดทอนความอดทนของคุณลงไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายมันอาจส่งผลต่อชีวิตของคุณจริง ๆ เพราะฉะนั้นถ้าใครรู้ตัวว่าควบคุมอารมณ์ได้น้อย ก็ควรจะหาเกมที่สบาย ๆ เล่นแทนเกมพวกนี้ซะ

คุณจ่ายหนัก จ่ายเยอะ และไม่มีความสุข

การใช้จ่ายเงินไปกับการเล่นเกมไม่ใช่เรื่องผิด ไม่ใช่เรื่องไม่ดี แต่มันจะดูแปลกทันทีถ้าคุณจ่ายเงินไปแล้ว แต่คุณไม่ได้รับความสุขกลับคืนมา มีคนหลายคนที่ผู้เขียนรู้จัก จ่ายเงินกับเกมไปมากกว่าสามหมื่นบาทต่อปี (เฉลี่ยแล้วเดือนละสองพันกว่าบาท) พวกเขาเหล่านั้นจ่ายเงินเป็นรูทีนทุก ๆ เดือน แต่กลับไม่มีความสุขในเกมที่พวกเขาเล่นเลย เหมือนจ่ายเงินเพื่อสิ่งที่ต้องการ แต่ดันไม่ได้สิ่งที่ต้องการ พวกเขาจ่ายเงินเพื่อสุ่มตัวละครที่ตัวเองต้องการ จ่ายซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ เมื่อได้ตัวละครมา อย่างแรกพวกเขาจะดีใจ อย่างที่สองพวกเขาจะเริ่มคิดว่าพวกเขาเสียเงินไปเท่าไหร่ และเมื่อเปิดดูเงินในบัญชีธนาคาร พวกเขาก็จะกลับไปนั่งกลุ้มใจเหมือนเดิม ถ้าคุณเข้าข่ายในลักษณะนี้ เราไม่ได้ขอให้คุณเลิกจ่ายเงินเลย เราแค่ขอให้คุณไปใช้เงินกับสิ่งที่มีความสุขจริง ๆ ดีกว่า จำไว้เสมอว่าเงินของคุณมีค่าเกินกว่าจะซื้ออะไรที่ไม่ส่งผลดีใด ๆ ต่อตัวคุณเลย

คุณไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง

การที่คุณไม่สื่อสารกับคนแปลกหน้าอาจเป็นเรื่องปกติ แต่การที่คุณไม่สื่อสารกับเพื่อนรวมงานหรือครอบครัว เป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างมาก โดยปกติมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ถูกสร้างมาเพื่อสื่อสารซึ่งกันและกัน การสื่อสารในครอบครัวจะช่วยเพิ่มความแน่นแฟ้นในความสัมพันธ์ให้มากยิ่งขึ้น การสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานส่งผลให้งานของคุณราบลื่น การสื่อสารกับบุคคลอื่น ๆ ช่วยเพิ่มโอกาสให้ชีวิตคุณได้พบเจอกับสิ่งที่ดีกว่า แต่ทั้งหมดทั้งมวลจะไม่เกิดขึ้นหากคุณใช้เวลากับเกมของคุณมากกว่าการสื่อสาร ในความคิดของคุณมันอาจมีแว๊บนึงที่คิดว่า “ตัวเราอยู่คนเดียวในโลกได้” แต่นั่นไม่ใช่ความจริง การสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในชีวิตของคุณอย่างที่เรากล่าวไว้ข้างต้น เพราะฉะนั้นถ้ามีอะไรที่ส่งผลกระทบต่อมัน คุณก็จำเป็นต้องกำจัดทิ้ง แม้ว่าจะไม่ต้องการแค่ไหนก็ตาม

คุณอาศัยอยู่กับวัฒนธรรมแย่ ๆ

คนแย่ ๆ เป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถหลีกหนีให้ไกลห่างได้ แม้จะใช้ความพยายามมากแค่ไหนก็ตามแต่ คนประเภทนี้มีอยู่ในทุกวงการ แม้แต่ในเกมก็ยังมี ถ้าคุณเป็นผู้เล่นเกมออนไลน์หรือเกมมัลติเพลเยอร์ ผู้เขียนเชื่อว่าต้องเคยพบเจอบุคคลประเภทนี้มาซักครั้งสองครั้งแน่นอน ตรงนี้คุณคงเกิดคำถามขึ้นมาว่า “มันเป็นปัญหาของคนอื่น มันส่งผลกระทบต่อตัวฉันยังไง ?” คำถามนี้ตอบได้ง่ายมาก อย่างแรกคือมันส่งผลทางด้านพฤติกรรมของคุณ มนุษย์เป็นสิ่งที่เปลี่ยนได้ตลอดเวลา พวกเขาเปลี่ยนตามสิ่งแวดล้อมที่พวกเขาอาศัยอยู่ พวกเขาจะเปลี่ยนไปในแบบที่ช้า ๆ ไม่สามารถคำนวณได้ว่าเปลี่ยนไปตอนไหน แต่ถ้าเปลี่ยนไปแล้ว พวกเขาจะเปลี่ยนไปเลย การที่คุณอาศัยอยู่กับพวกแย่ ๆ ในท้ายที่สุดคุณก็อาจจะกลายเป็นบุคคลเหล่านั้นไปในแบบที่คุณไม่สามารถปฏิเสธตัวเองได้เลย อย่างที่สองคือมันส่งผลต่อสุขภาพจิตของคุณ หลายคนคงคิดว่าจิ๊บ ๆ เรื่องพวกนี้ เราไม่เอาคำพูดคนอื่นมาคิดอยู่แล้ว … แต่ขอโทษ บุคคลที่ไม่เก็บเอาคนพูดคนอื่นมาคิด มันไม่มีอยู่จริง ถ้าไม่ต้องการให้สิ่งแย่ ๆ เหล่านี้หมักหมมอยู่ในตัวคุณ เราแนะนำให้คุณหลีกหนีออกห่างมันให้ไว ไปเลือกเล่นอะไรที่มันส่งผลดีต่อชีวิตดีกว่า