BY Aisoon Srikum
22 Nov 21 5:42 pm

รีวิว Arcane – ซีรีส์ที่พาให้ League of Legends ไปได้ไกลเกินกว่าคำว่าวิดีโอเกม

62 Views

นาทีนี้ไม่มีซีรีส์เรื่องไหนจะร้องแรงไปมากกว่าเรื่องนี้อีกแล้วทั้งสำหรับแฟนเกมและแฟนซีรีส์ทั่วไป

Arcane คือซีรีส์จากโลกของ League of Legends ที่ตอนนี้เรียกได้ว่าต่อให้ไม่ใช่แฟนเกมก็ยังรู้จัก ด้วยการโปรโมที่ทำให้เราได้เห็นซีรีส์นี้แทบจะทุกช่องทาง และจากกระแสรีวิวจากคนที่ดูกันไปแล้วต่างยกย่องให้มันเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ยอดเยี่ยมและควรค่าแก่การดูประจำปี 2021 นี้ วันนี้เราจะมาเป็นอีกเสียงของการรีวิวว่ามันคุ้มค่าแก่การลองสัมผัสดูหรือไม่ เชิญพบกับรีวิวซีรีส์ Arcane กันในวันนี้

Story

https://youtu.be/AVRniQsNb5c

Arcane คือซีรีส์อิงจากโลกของเกม League of Legends แต่ด้วยความที่เกมมันมีอายุมากกว่า 10 ปี จักรวาลของเกมนั้นไปไกลมาก ๆ แล้ว และตัวละครในเกมอีกนับร้อยตัว ดังนั้นการจะนำมาสร้างเป็นสื่อบันเทิงแขนงอื่น ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ ๆ  ทาง Riot Games จึงเลือกที่จะหยิบเอา 2 ตัวละครเด่น ๆ ที่เข้ามาในเกมตั้งแต่ช่วงแรก ๆ อย่าง Jinx และ Vi มาเป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก และยังมีตัวละครอื่นที่มีความเกี่ยวพันกันทางเนื้อเรื่องมามีบทบาทร่วม และยังแบ่งอาณาจักรหรือดินแดนต่าง ๆ ตามต้นฉบับที่แฟนเกมเคยติดตามกันมาไว้ด้วย เช่นเมืองใต้ดินอย่าง Zaun, เมืองชั้นสูงอย่าง Piltover ก่อนที่เส้นเรื่องของพวกเขาจะขมวดมาเป็นปมเดียวกัน มีทั้งฉากระลึกอดีต ฉากปัจจุบัน และฉากยิบย่อยที่เอ่ยถึงปมของตัวละครนั้น ๆ เพียงเล็กน้อย คาดว่าจะถูกนำไปขยายต่อในซีซั่นถัด ๆ ไป เพราะยังมีทั้งตัวละครที่ยังไม่ได้ขยายเรื่องราว เช่นชะตากรรมของ Viktor, Heimerdinger ที่ไปอยู่กับ Ekko และฉากจบที่ทิ้งเชื้อซีซั่น 2 ไว้อย่างมาก

 

สิ่งที่ต้องชื่นชมคือจังหวะในการเล่าเรื่องที่ทำออกมาได้ดีมาก รวมไปถึงการเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่มีการผ่อน การเร่งตามแต่โทนเนื้อเรื่องที่เล่าในช่วงนั้น สิ่งสำคัญเลยคือการที่มันเป็นซีรีส์ที่ทำมาจากวิดีโอเกม โจทย์ของทีมสร้างคือ ทำยังไงให้คนที่ไม่ได้สนใจเกม สามารถสนุกไปกับการติดตามเนื้อเรื่องได้ และพวกเขาก็ทำมันได้ ด้วยการเขียนเรื่องราวของตัวละครขึ้นมาใหม่โดยอิงจากโลกเดิม และค่อย ๆ ร้อยเรียงความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละครให้เข้ามาเชื่อมโยงกันอย่างแนบเนียน ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ดีมาก เพราะการทำแบบนี้ แม้ผู้เล่นเก่าหลายคนอาจจะขัดใจการเล่าเรื่องที่ไม่อิงกับที่เคยรู้จักมา แต่เพราะเส้นเรื่องใหม่ก็ทำออกมาได้ดีอยู่แล้ว พ่วงด้วยความเป็นมิตรกับแฟนหน้าใหม่เข้าไปอีก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาพยายามอย่างมากในการทำให้มันเข้าถึงคนทั้งสองกลุ่มและทำออกมาได้ลงตัวมาก

ไม่บ่อยนักที่ซีรีส์สักเรื่องจะหาบทที่ลงตัวและถ่ายทอดออกมาได้ดีจนได้รับคำชมเป็นเสียงเดียวกัน แม้ใครหลายคนอาจจะขัดแย้งและมองว่ามันมีบาดแผลในการเล่าเรื่องอยู่บ้าง แต่สำหรับผู้เขียนคิดว่า นี่เป็นอีกซีรีส์ที่วางโครงเรื่องและเขียนบทมาได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว

Presentation

Fexdt2kxiaaogyl

Fexdt2kxiaaogyl

สำหรับซีรีส์อนิเมชั่นเรื่องนี้ ทาง Riot Games ได้ลงมาจับมือกับทาง Fortiche Studios ซึ่งเป็นสตูดิโอทำอนิเมชั่นจากประเทศฝรั่งเศส สิ่งที่หลายคนชื่นชมกันมากที่สุดคือส่วนของงานภาพและการออกแบบตัวละคร ที่ไม่ทิ้งลายต้นฉบับ ยังคงสื่อสารความเป็นตัวละครตัวนั้น ๆ ออกมาได้เป็นอย่างดี ผู้เขียนอาจมีขัดใจกับการออกแบบตัวละครสาวอย่าง Caitlyn นิดหน่อยในช่วงแรก แต่เพื่อให้เหมาะสมกับภาพรวมของซีรีส์ยังพอเป็นจุดที่จะมองข้ามไปได้ ส่วนฉากหลังของโลกในซีรีส์ทั้ง Zaun และ Piltover นั้น ยิ่งสวยงามอลังการขึ้นไปอีก ชนิดที่เรียกได้ว่าแทบจะไร้ที่ติสำหรับงานออกแบบ และทำให้เราได้จดจำชื่อของ Fortiche Studios กันต่อไปอีกนานแน่ ๆ ในฐานะคนทำงานระดับเทพที่ส่งมอบโลกของ League of Legends ได้อย่างสวยงามในฐานะซีรีส์อนิเมชั่น

ความโดดเด่นของ Arcane ไม่ได้มีแค่งานภาพเท่านั้น แต่ในส่วนของเสียงพากย์นั้น ผู้เขียนเลือกจะรับชมในรูปแบบของพากย์ภาษาไทย ซึ่งก็ได้นักพากย์มากฝีมือของประเทศไทยมาร่วมพากย์กันอย่างมากมาย เช่นตัวละครแวนเดอร์ ที่ได้คุณแขก-วรวุฒิ วรเนตร เจ้าของเสียงพากย์เทพเจ้าสายฟ้าอย่างธอร์ / วิคเตอร์ ที่ได้คุณโอ๋ พิชาภพ เจ้าของเสียงพากย์อีธาน ฮันท์จาก Mission Impossible / เมล เมดาร์ด้า ได้คุณหุย นลินี ชีวะสาคร ที่พากย์ตัวละครอย่าง Captain Marvel และตัวละครอื่น ๆ ที่ได้ทั้งนักพากย์หน้าเก่าหน้าใหม่มาร่วมทีมกัน แต่สำหรับตัวละครหลักทั้งหลายนั้น เรียกได้ว่าจัดเต็ม โดยใครที่สนใจดูรายชื่อทีมพากย์ไทยก็สามารถเข้าไปดูกันได้ ที่นี่ ส่วนของทีมพากย์เสียงภาษาอังกฤษต้นฉบับนั้น มีอยู่คนหนึ่งที่โดดเด่นกว่าใคร เพราะมีนักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังอย่าง Hailee Steinfeld มาร่วมแจมพากย์เสียงเป็นตัวละครหลักอย่าง Vi ด้วย

Fenny5qvqakn56b

Fenny5qvqakn56b

การนำเสนอของซีรีส์ Arcane นั้น แบ่งเป็น 3 Act – Act ละ 3 ตอน โดยฉายผ่านทาง Netflix ทุกวันเสาร์เริ่มตั้งแต่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รวมทั้งหมด 9 ตอน แต่ส่วนตัวแล้ว ไม่ว่าจะดูทีละ 3 ตอน หรือดูรวดเดียว 9 ตอนนั้น แทบไม่มีผลอะไรสักเท่าไร ที่รู้สึกว่ามีจริง ๆ คือช่วงรอยต่อตอน 3 และ 4 ที่เกิดเหตุการณ์ Time Skip ไปหลายปี แต่ตอนที่ 6 ไป 7 นั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันจึงดูไม่ค่อยจะมี Impact ใด ๆ กับความรู้สึกในด้านการดู และแต่ละ Act ก็จะมีเรื่องราวหลัก ๆ เหมือนเป็นธีมประจำ Act เช่น Act 1 จะเป็นอดีตความหลังอันเจ็บปวดของทั้งสองตัวละคร / Act 2 จะเป็นเรื่องของ Jayce และ Viktor รวมไปถึง Caitlyn โดยเริ่มขยายปมมาสู่ตัวละครหลักอย่าง Jinx และ Vi โดยทั้งสอง Act นี้จะมีการสู้กันบ้างประปราย ก่อนที่ Act 3 หรือองค์สุดท้ายของซีรีส์จะจัดเต็มฉากแอ็คชั่นให้สาสมกับที่ปล่อยให้รอคอยกันมา

Feq9ovruyamuncs

Feq9ovruyamuncs

ฉากแอ็คชั่นคืออีกสิ่งที่อยากพูดถึง เพราะมันทำออกมาได้ดีระดับยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ตามปกติแล้วฉากแอ็คชั่นในอนิเมะซีรีส์จะเน้นความอลังการหรือขายความมันมากกว่า แต่สำหรับ Arcane นี้ นอกจากจะทำออกมาได้สนุก และดุเดือดแล้ว ยังมีการจัดวางองค์ประกอบที่ดีด้วย ทำให้ฉากแอ็คชั่นของ Arcane นั้น มีพลังอย่างมาก ทั้งในส่วนของแรงขับเคลื่อนจากตัวละคร และความรุนแรงในการต่อสู้ ผสมผสานเข้ากับดนตรีประกอบที่เร้าอารมณ์ไม่แพ้กัน ฉากแอ็คชั่นในช่วงท้าย (ตอนที่ 7-9) แทบจะทุกฉาก จึงเป็นฉากจดจำที่ดูซ้ำ ๆ ก็ยังสนุก และจะไม่พูดถึงไม่ได้ กับเพลงเปิดตัวซีรีส์อย่าง Enemy ที่ยังคงได้วง Imagine Dragons มาขับร้องให้ เรียกได้ว่ากลายเป็นวงดนตรีที่อยู่คู่กับ Riot Games และ League of Legends ไปแล้ว

หากจะมีจุดให้ติติงกันอยู่บ้าง ก็อาจจะเป็นส่วนของการเล่าเรื่องบางฉากที่เป็นการย้อน Flashback ไปโดยไม่ได้แจ้งผู้ชมเอาไว้ ให้นั่งคิดกันเอาเอง ส่วนนี้บางคนอาจจะตามไม่ทันหรือดูแล้วงงก็เป็นได้ แต่เทียบกับส่วนอื่น ๆ แล้ว ถือเป็นปัญหาที่มองข้ามได้

Fequ15euuae Pub

Fequ15euuae Pub

ในขณะที่เราได้อ่านรีวิวนี้กันแล้ว ทาง Riot Games ก็ได้ประกาสสร้าง Season 2 อย่างเป็นทางการแล้ว แม้ว่าเราจะต้องรอกันนานนิดนึง อย่างน้อยก็ปี 2023 แต่อย่างน้อยทาง Riot Games ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พวกเขาพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่สื่อบันเทิงสายอื่น รวมไปถึงขยายจักรวาล League of Legends ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีกขั้นได้ กับซีรีส์ Arcane ที่แทบจะหาจุดติได้ยากจริง ๆ สมกับที่ทุกคนชื่นชม

Arcane รับชมได้แล้ววันนี้บน Netflix ความยาว 9 ตอนจบ มีพร้อมทั้งพากย์ไทยและเสียงต้นฉบับซับไทย

SHARE

Aisoon Srikum

Back to top