BY Aisoon Srikum
19 Aug 21 6:03 pm

ความสามารถทั้งหมดของ 7 จอมยุทธ์ใน NARAKA: Bladepoint พร้อมวิธีการปลดล็อค

96 Views

ยุทธภพใน NARAKA: Bladepoint กำลังลุกเป็นไฟ จากยอดผู้เล่นหน้าใหม่ที่ทำสถิติสูงขึ้นทุกวันนับตั้งแต่เกมเปิดตัว และสิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบก็คือ เหล่าตัวละครในเกมนี้ที่มีทั้งหมด 7 ตัวนั้น มีความสามารถและทักษะให้ใช้ถึง 2 สกิลพร้อมกัน และมันยังแตกแยกออกไปเป็น 2 สาย รวมถึงต้องทำการปลดล็อคก่อนด้วย วันนี้มาดูกันว่า เหล่าจอมยุทธ์ทั้ง 7 มีความสามารถอะไร และปลดล็อคยังไงกันบ้าง

วิธีการปลดล็อคสกิลใหม่ของทุกตัวละคร

เงื่อนไขในการปลดล็อคความสามารถของทุกตัวละครจะมีความแตกต่างกันออกไปจากช่วงทดสอบ ในรอบทดสอบนั้น การจะปลดล็อคความสามารถใหม่ ๆ จำเป็นต้องใช้เงินปลดล็อค แต่ในช่วงเกมเปิดให้บริการจริงนี้ ผู้เล่นต้องทำภารกิจทั้ง 3 อย่างให้ครบ จากนั้นจึงจะปลดล็อคได้ วิธีการปลดล็อคคือ เข้าไปยังหน้าของ Heroes จากนั้นกดเลือกในส่วนของ Cultivation สกิลในเกมนี้จะแบ่งเป็น 2 สกิล คือแบบสกิลกดใช้ และ Ultimate ที่เป็นท่าไม้ตาย แต่ละตัวจะมีสกิล 3 แบบ และท่าไม้ตายอีก 3 แบบให้เราเลือกใช้ แบบแรกจะได้มาตั้งแต่เริ่มต้นส่วนอีกสองแบบต้องทำการปลดล็อคตามที่ได้กล่าวไว้

การปลดล็อคทำได้โดยการหยิบตัวละครนั้นมาเล่น และทำภารกิจที่ระบบกำหนด 3 ภารกิจ โดยมีความยากง่ายต่างกันไป เมื่อทำครบเราก็จะเข้าสู่ระดับถัดไป และการจะปลดล็อคสกิลให้ครบก็ต้องเล่นตัวละครนั้นให้ถึงระดับ 3 กล่าวง่าย ๆ ก็คือ เหมือนเป็นการทำภารกิจเพื่อเก็บ Mastery หรือความเชี่ยวชาญในการเล่นตัวละครนั้นนั่นเอง

ความสามารถของ Viper Ning

สกิลแบบที่ 1 Yushan Enigma – ปล่อยคลื่นพลังออกไปด้านหน้า ทำดาเมจใส่ศัตรูให้กระเด็นถอยหลัง สามารถขัดจังหวะการโจมตีแบบ Focus Strike ของศัตรูได้

สกิลแบบที่ 2 Yushan Enigma: Lockdown – ปล่อยคลื่นพลังออกไปด้านหน้า ทำดาเมจใส่ศัตรูพร้อมทำให้ศัตรูไม่สามารถใช้สกิลหรือท่าไม้ตายได้ แต่การโจมตีแบบ Focus Strike ของศัตรูในระหว่างนี้จะไม่สามารถป้องกันได้

สกิลแบบที่ 3 Yushan Enigma: Enfeeble – ปล่อยคลื่นพลังออกไปด้านหน้า ทำดาเมจใส่ศัตรู และลดความสามารถของยาฟื้นพลังต่าง ๆ ลง 15 วินาที และป้องกันไม่ให้การโจมตีแบบ Focus Strike ถูกขัดจังหวะ

ท่าไม้ตายแบบที่ 1 Twilight Crimson – อัญเชิญดวงตาปีศาจที่จะมาร์คศัตรูทุกตัวที่อยู่ในะระยะ ระหว่างนี้ Viper Ning จะไม่สามารถโจมตีหรือป้องกันตัวเองได้ ศัตรูที่ถูกมาร์คจะไม่สามารถใช้ Grappling Hook เมื่อการร่ายสำเร็จ ศัตรูที่อยู่ในระยะจะถูกสตั๊น 5 วินาที ไม่สามารถมาร์คศัตรูที่ล่องหนได้

ท่าไม้ตายแบบที่ 2 Twilight Crimson: Seal – คล้ายกับแบบแรก แต่ศัตรูที่ถูกมาร์คระหว่างร่ายจะไม่สามารถใช้ Grappling Hook สกิล และท่าไม้ตายได้ และใช้เวลาร่าย 5 วินาที แต่ศัตรูจะถูกสตั๊นแค่ 2 วินาทีแทน

ท่าไม้ตายแบบที่ 3 Twilight Crimson: Unchained – คล้ายกับแบบที่สอง ศัตรูที่ถูกมาร์คระหว่างร่ายจะไม่สามารถใช้ Grappling Hook สกิล และท่าไม้ตายได้ แต่ระหว่างร่าย Viper Ning จะควบคุมตัวละครได้อย่างอิสระแทน แต่จะไม่มีเอฟเฟคท์สตั๊นให้แล้วหลังร่ายจบ

ความสามารถของ Temulch

สกิลแบบที่ 1 Zephyr Wisp – กระโดดขึ้นไปบนอากาศและอัญเชิญพายุทรายขนาดเล็ก 3 ลูกขึ้นมาวนรอบตัว พายุทรายขนาดเล็กนี้จะสามารถป้องกันการโจมตีแบบ Projectile ได้ (ยกเว้นระเบิด) และสามารถ กด F เพื่อปล่อยพายุทรายไปยังเป้าหมาย หากศัตรูโดนจะถูกพายุทรายทำให้ลอยตัวและทำดาเมจด้วย

สกิลแบบที่ 2 Zephyr Wisp: Tracking – เหมือนแบบแรก แต่เมื่อกดปล่อยพายุทราย พายุทรายจะพุ่งเข้าหาศัตรูโดยอัตโนมัติ เหมือนกับการล็อคเป้าโจมตีติดตาม

สกิลแบบที่ 3 Zephyr Wisp: Assault – พายุทรายของเราจะสามารถชิ่งกับวัตถุใกล้ตัวได้ และทะลุตัวเป้าหมายได้ด้วย เมื่อมันชิ่งกับวัตถุจะวนกลับไปโจมตีเป้าหมายเดิมได้อีกครั้ง

ท่าไม้ตายแบบที่ 1 Zephyr Prison – กระโดดพุ่งตัวไปข้างหน้า สร้างกำแพงพายุทรายขึ้นมารอบตัว 15 วินาที ทำให้ศัตรูกระเด็นถอยหลัง กำแพงพายุทรายนี้จะป้องกันการโจมตีระยะไกลจากภายนอกได้ทั้งหมด ศัตรูที่อยูภายใน หากพยายามออกไปข้างนอก ตรงขอบกำแพง จะติดสถานะ Slow

ท่าไม้ตายแบบที่ 2 Zephyr Prison: Enchanted – เหมือนกับแบบที่ 1 แต่ Temulch จะได้รับบัฟ เมื่ออยู่ภายในกำแพงทราย ค่า Energy จะฟื้นฟูเร็วขึ้นอย่างมาก ระยะเวลากำแพงทรายจะลดลงเหลือ 12 วินาที

ท่าไม้ตายแบบที่ 3 Zephyr Prison: Summon – เหมือนกับแบบที่ 1 แต่เมื่อ Temulch วิ่งทะลุกำแพงทราย จะได้รับพายุทรายของสกิล Zephyr Wisp ทันที โดยไม่ต้องกดใช้ ระยะเวลากำแพงทรายจะลดลงเหลือ 12 วินาที

ความสามารถของ Matari

สกิลแบบที่ 1 Silent Flutter – ไม่ว่าจะอยู่บนพื้นดินหรือบนอากาศ เมื่อกดใช้สกิลนี้ Matari จะเทเลพอร์ตตัวเองไปข้างหน้าตามทิศทางที่เราเล็งไว้ สามารถเทเลพอร์ทได้ไกลขึ้น เมื่อกดค้างชาร์จ

สกิลแบบที่ 2 Silent Fullter: Rapid Flush – ไม่จำเป็นต้องกดค้างชาร์จอีกต่อไป แต่สามารถสะสมคูลดาวน์สกิลไว้ใช้งานพร้อมกันต่อเนื่อง 2 ครั้งได้

สกิลแบบที่ 3 Silent Flutter: Retrace Flash – เมื่อเทเลพอร์ตไปถึงจุดหมายแล้ว จะได้รับบัฟพลังโจมตีเพิ่ม 15% 3 วินาที และภายใน 7.5 วินาที สามารถกดสกิลอีกครั้ง เพื่อย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้นก่อนเราเทเลพอร์ทได้

ท่าไม้ตายแบบที่ 1 Unseen Wings – เมื่อกดใช้จะเข้าสู่สถานะพรางตัวและลดคูลดาวน์ของ Silent Flutter ลง สถานะพรางตัว การยืนอยู่นิ่ง ๆ จะเหมือนกับล่องหน แต่ถ้าเคลื่อนไหวจะเห็นเป็นเงาราง ๆ

ท่าไม้ตายแบบที่ 2 Unseen Wings: Assassin – เหมือนกับแบบแรก แต่จะช่วยเพิ่มพลังโจมตีให้มากขึ้น หากโจมตีด้วยการโจมตีพิเศษต่าง ๆ เช่น Wall Run หรือการโจมตีจากบนต้นไม้

ท่าไม้ตายแบบที่ 3 Unseen Wings: Group Stealth เหมือนกับแบบแรก แต่สถานะพรางตัวจะมีผลกับเพื่อนร่วมทีมด้วย

ความสามารถของ Tarka Ji

สกิลแบบที่ 1 Inner Fire – ตั้งรับการโจมตีทุกประเภท และสามารถกดโจมตีสวนกลับไปได้ เมื่อโจมตีสวนกลับไปจะทำให้ศัตรูติดสถานะเผาไหม้

สกิลแบบที่ 2 Inner Fire: Bide – สามารถบล็อคการโจมตีระยะประชิดได้ทุกรูปแบบ หลังการบล็อคแล้วสามารถคลิกซ้ายโจมตีทำให้ศัตรูติดสถานะเผาไหม้แบบเป็นหมู่คณะได้

สกิลแบบที่ 3 Inner Fire: Gigaflame – เปลี่ยนจากการตั้งรับ เป็นปล่อยลูกไฟขนาดใหญ่ไปโจมตีศัตรูให้กระเด็นถอยหลัง และติดสถานะเผาไหม้

ท่าไม้ตายแบบที่ 1 Blackout – ห่อหุ้มร่างกายด้วยเปลวไฟ ทำให้ความเร็วในการเคลื่อนที่สูงขึ้นมาก และจะบล็อคการโจมตีจากระยะไกลทั้งหมด (ยกเว้นระเบิด) ระหว่างนี้การวิ่งจะทำให้พื้นด้านหลังลุกเป็นไฟ และใช้ Energy ในการเคลื่อนที่น้อยลง พลังนี้จะหมดลงเมื่อเกจไม้ตายหมดหลอด หรือกดยกเลิกเองได้ด้วยการกด V ค้าง สามารถใช้ได้ระหว่างถูกโจมตีด้วย

ท่าไม้ตายแบบที่ 2 Blackout: Vulcan – เหมือนแบบที่ 1 แต่จะสามารถปล่อยลูกไฟขนาดใหญ่ออกไปโจมตีศัตรูได้หลายลูกต่อเนื่องโดยใช้เกจไม้ตายแทน ไม่สามารถใช้ได้ระหว่างถูกโจมตี

ท่าไม้ตายแบบที่ 3 Blackout: Frenzy – เหมือนแบบที่ 1 แต่จะเพิ่มพลังโจมตีทุกประเภทให้ตัวเอง โดยเกจไม้ตายจะลดลงต่อเนื่อง แต่หากโจมตีโดนศัตรูจะสามารถฟื้นฟูเกจไม้ตายได้

ความสามารถของ Kurumi

สกิลแบบที่ 1 Binding Prayer – กด F ค้าง เพื่อเลือกตำแหน่งวางร่มแสง หากคลิกซ้ายจะเป็นการเทเลพอร์ทตัวเองไปที่ร่ม และผลักศัตรูรอบตัวให้กระเด็นออก คลิกขวาจะเป็นการทำลายเส้นเชื่อมโยง จากนั้นลบดีบัฟออกจากตัวเราและเพื่อนร่วมทีม รวมไปถึงฟื้นฟูพลังชีวิตด้วย นอกจากนั้นยังสามารถลิงค์กับศพเพื่อน เพื่อทำการชุบระยะไกลได้

สกิลแบบที่ 2 Binding Prayer: Reinforce – สร้างเส้นเชื่อมโยงลิงค์กับเพื่อนร่วมทีมที่เลือก และฟื้นฟูพลังชีวิตทั้งสองคน กด F ค้างเพื่อปล่อยร่มแสง ผลการรักษาจะลดลง แต่พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้นแทน ระหว่างลิงค์ตัว Kurumi จะไม่สามารถโจมตีได้ และคลิกซ้ายจะเป็นการพุ่งไปผลักศัตรูให้กระเด็นถอยหลัง คลิกขวาจะเป็นการยุติเส้นลิงค์ ลบดีบัฟ ฟื้นฟูพลังชีวิต และได้รับพลังโจมตีเพิ่มขึ้น 40% 1 วินาที สามารถลิงค์กับศพเพื่อนเพื่อชุบระยะไกลได้เหมือนเดิม

สกิลแบบที่ 3 Binding Prayer: Guard – เหมือนกับแบบที่ 2 แต่จะได้รับพลังป้องกันเพิ่มขึ้น และการคลิกขวาจะเป็นการได้รับพลังป้องกันเพิ่มขึ้นอย่างมาก 2.5 วินาทีแทน

ท่าไม้ตายแบบที่ 1 Sacred Circle – สร้างพื้นที่ฮีลขนาดใหญ่และลบดีบัฟของเราและเพื่อนร่วมทีม

ท่าไม้ตายแบบที่ 2 Sacred Circle: Armor Enhanced – เปลี่ยนจากฟื้นฟูพลังชีวิตเป็นฟื้นฟูเกราะ

ท่าไม้ตายแบบที่ 3 Sacred Circle: Rapid Healing – เปลี่ยนจากการสร้างพื้นที่เป็นเพิ่มทันที โดยจะเพิ่มทั้งพลังชีวิตและเกราะ

ความสามารถของ Tianhai

สกิลแบบที่ 1 The Divine Bell – กดใช้ระหว่างถูกโจมตีได้ เสกระฆังป้องกันตัวและทำให้ศัตรูเซถอยหลัง ป้องกันการโจมตีได้ทุกรูปแบบทั้งระยะใกล้ ระยะไกล

สกิลแบบที่ 2 The Divine Bell: Counter – หากศัตรูโจมตีมาแบบ Focus Strike สามารถกดใช้เพื่อป้องกันตัวเอง และทำให้อาวุธศัตรูหลุดมือ ไม่สามารถใช้ตอนโดนโจมตีอยู่ได้

สกิลแบบที่ 3 The Divine Bell: Blast – กดใช้ระหว่างถูกโจมตีได้ ศัตรูที่โจมตีเข้ามาจะถูกผลักให้กระเด็นถอยหลังไป

ท่าไม้ตายแบบที่ 1 Titan’s Call – แปลงร่างเป็นยักษ์ คลิกซ้ายจะจับศัตรูที่อยู่ไกลได้ คลิกขวาจะจับศัตรูที่อยู่ใกล้ หากมีศัตรูในมือจะกด F เพื่อทุ่มศัตรูที่จับมาลงกับพื้น หากไม่มีศัตรูในมือ กด F จะเป็นการกระทืบโจมตีศัตรูรอบ ๆ ร่างยักษ์จะหมดลงเมื่อเกจไม้ตายหมด หรือกด V ค้างเพื่อยกเลิก ร่างยักษ์จะไม่สามารถเข้าไปในอาคารได้ และจุดอ่อนคือจุดเรืองแสงตามตัว

ท่าไม้ตายแบบที่ 2 Titan’s Call: Guard – เหมือนกับแบบที่ 1 แต่เราสามารถคลิกจับเพื่อนร่วมทีมมาไว้ในมือเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตและเกราะให้เพื่อนเราได้

ท่าไม้ตายแบบที่ 3 Titan’s Call: Heal – เหมือนกับแบบที่ 1 แต่การจับศัตรูมาแล้วปาออกไปทำดาเมจ จะฟื้นฟูพลังชีวิตให้เราด้วย

ความสามารถของ Yoto Hime

สกิลแบบที่ 1 Spirit Slash – ปล่อยวงล้อดาบออกไปโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่อง เมื่อกดใช้อีกครั้ง จะเทเลพอร์ตไปยังวงล้อดาบและโจมตีศัตรูซ้ำได้ หากฆ่าศัตรูได้ คูลดาวน์สกิลจะรีเซ็ต วงล้อดาบจะป้องกันการโจมตีจากระยะไกลได้ด้วย ยกเว้นระเบิด

สกิลแบบที่ 2 Spirit Slash: Crush – วงล้อดาบจะลอยอยู่บนจุดเดิมนาน 5 วินาที ศัตรูที่อยู่ในวงล้อจะได้รับดาเมจต่อเนื่อง หากกด F อีกครั้ง จะเป็นการเรียกวงล้อดาบกลับมา พร้อมปล่อยคลื่นพลังดาบออกไปโจมตีซ้ำอีกรอบ สามารถกดใช้ขณะโดนโจมตีได้

สกิลแบบที่ 3 Spirit Slash: Vortex – ขนาดของวงล้อดาบจะใหญ่ขึ้นอย่างมาก และเคลื่อนที่ช้าลง แต่จะป้องกันการโจมตีระยะประชิดได้ด้วย

ท่าไม้ตายแบบที่ 1 Ominous Blade – อัญเชิญดาบยักษ์ที่โจมตีได้ 3 ครั้งออกมา หลังการโจมตีแต่ละครั้ง จะสามารถคลิกซ้ายพุ่งไปยังทิศทางที่กำหนด และวาร์ปไปยังตำแหน่งนั้น เพื่อสร้างทิศทางการโจมตีที่ได้เปรียบ และยิ่งรอบ ๆ ตัวเธอมีศพอยู่เยอะ ก็จะยิ่งทำดาเมจจากสกิลนี้ได้แรงขึ้นโดยการดูดซับพลังงานจากศพ (สูงสุด 6 ศพ)

ท่าไม้ตายแบบที่ 2 Ominous Blade: Restore – เหมือนแบบที่ 1 แต่การดูดซับพลังงานจากศพรอบ ๆ จะฟื้นฟูพลังชีวิตและเกราะของ Yoto Hime

ท่าไม้ตายแบบที่ 3 Ominous Blade: Combo – เหมือนแบบที่ 1 แต่การโจมตีจะเพิ่มมาอีก 3 ครั้ง รวมเป็น 6 คอมโบชุดใหญ่

SHARE

Aisoon Srikum

Back to top