จบกันไปแล้วสำหรับงาน Thailand Game Show 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งสองเกมที่ถูกนำมาจัดโชว์และให้ชาวไทยเราได้เล่นกัน ก็คือ Marvel’s Avengers และ Dragon Ball Z : Kakarot โดยเฉพาะเกมแรกที่เป็นที่จับตามองอย่างมาก แน่นอนว่าทางทีมงาน GamingDose ก็ไม่พลาดที่จะไปทดลองเล่นเพื่อมาบอกถึงความประทับใจแรกหลังจากเล่นกัน ใครที่รอคอยทั้งสองเกมนี้อยู่นั้น วันนี้เรามีรีวิวเล็ก ๆ น้อย ๆ จากการไปทดลองเล่น Demo ของเกมที่งานมาให้ได้ชมกัน
Marvel’s Avengers
เป็นเกมที่มีแฟน ๆ ยืนรอต่อแถวเล่นกันมากจริง ๆ เพราะนอกจากบ้านเราจะมี Big Fan ของ Marvel เยอะอยู่แล้ว Marvel’s Avengers เป็นเกม AAA ที่น่าสนใจมากในรอบหลายปีของ Marvel เลยทีเดียว (นับรวม Marvel’s Spider-Man ปีที่แล้วด้วยก็ได้) โดยภายในงานนี้แบ่งออกเป็น 2 บูธให้ได้ทดลองกันคือ บูธของ BANDAI NAMCO เอง และอีกบูธคือตรงบูธของ Marvel Super War
ตัวเกมที่นำใาให้ทดลองนั้น รันด้วยเครื่อง PlayStation 4 Pro และตัวเดโมที่ให้ทดลองเล่นในงานนั้น ก็เป็นในส่วนของ A-Day Gameplay แบบเดียวกับที่เราเห็นทางออนไลน์ เพียงแต่รอบนี้เราจะได้เล่นเองแล้ว ไม่ใช่แค่ดูอย่างเดียว ตัวละครที่เราจะได้เล่น ก็คือสมาชิก Avengers ครบทุกคน ไล่ตั้งแต่ Thor , Iron Man , Hulk , Captain America , Black Widow
สำหรับโมเดลตัวละครนั้น มีการปรับปรุงไปเยอะพอสมควรโดยเฉพาะ Thor ที่ตอนนี้ตัว Demo ได้ปรับเปลี่ยนทรงผมไปแล้ว แต่ชุดยังเป็นของเก่าอยู่ ซึ่งก็ตรงตามที่ผู้พัฒนาว่าเอาไว้ว่าจะปรับปรุงแก้ไขตัวละครให้ดูดีขึ้นเรื่อย ๆ และคาดว่าตัวละครอื่น ๆ ก็จะถูกปรับปรุงขึ้นต่อไปเช่นกัน
ในส่วนของระบบ Gameplay นั้นต้องบอกว่าไม่ผิดหวัง เพราะถึงแม้ว่าตัวเกม Demo นี้ เหล่า A.I ศัตรูจะดูง่อย ๆ ไปเสียหน่อย แต่ระบบการต่อสู้ของแต่ละตัวละครนั้น ถือว่าทำออกมาดีมาก เพราะมันเค้นเอาจุดเด่นของฮีโร่คนนั้นออกมาได้สมจริงที่สุดแล้ว เช่น ธอร์ ที่สามารถปาค้อนออกไปใส่ศัตรูและดึงกลับมาใส่มือได้แบบในหนังเป๊ะ ๆ แต่พอมาอยู่ในเกม เรากลับไปให้ความรู้สึกคล้ายกับตอนเล่น Kratos ใน God of War แทน แต่ที่เด็ดที่สุดที่ชอบเลยคือตัวละคร Iron Man นั้น จะบู๊ได้ทั้งกลางอากาศและภาคพื้นดิน และต่อยตีระยะประชิดก็ได้ หรือใช้พลังงานยิงโจมตีระยะไกลก็ได้ เป็นตัวละครที่เล่นสนุกที่สุดแล้วสำหรับผู้เขียนในเวอร์ชั่น Demo และตัวละครก็อื่นก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กัน
ตัวเกมเหมือนจะใส่ระบบความเป็น RPG เข้ามา เพราะมีตัวเลขดาเมจโผล่ขึ้นมาให้เห็นบางครั้ง และมีหลอดพลังชีวิตของศัตรูแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน น่าเสียดายที่ตัวเกมไม่มีหน้าเมนูให้เราเข้าไปดูได้เลย เป็ฯเพียงเดโมสำหรับทดลองเล่นเกมเพลย์เพียว ๆ เท่านั้น และในส่วนของกราฟิกก็ถือว่าจัดเต็มความงามและความอลังการถึงขั้นที่ว่าบางครั้งเครื่อง PlayStation 4 Pro ยังมีอาการกระตุกหรือเฟรมเรทตกแบบเห็นได้ชัด (โดยเฉพาะฉากการเล่นตัวละคร Iron Man ที่มีระเบิดเยอะมาก ๆ) แต่เชื่อว่าเป็นเพราะเกมที่ยังไม่ได้ปรับแต่ง Optimize ให้สมบูรณ์ ถ้าถึงเวลาวางจำหน่ายจริง น่าจะแก้ไขปัญหาตรงส่วนนี้ไปได้
โดยรวมแล้ว Marvel’s Avengers ถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่ต้องจับตาดูกันในปีหน้า โดยเฉพาะสาวก Marvel ที่ไม่ควรพลาด และจากการทดลองเล่นทำให้เห็นแล้วว่าทีมงานเขารับฟีดแบคเรื่องของตัวละครไปปรับปรุงอยู่ตลอดเวลาจริง ๆ ใครที่รอเล่นเกมนี้ 15 พฤษภาคม 2020 เราถึงจะได้เล่นกัน
Dragon Ball Z : Kakarot
แม้เกมนี้จะไม่ได้มีคนรอคอยมากมายเท่าเกมด้านบน แต่ก็ถือว่าเป็นอีกเกมที่มีคนต่อแถวเล่นอยู่ไม่ขาดสายในทุกวันของงาน และเช่นกัน Dragon Ball Z : Kakarot ที่นำมาให้เราได้ทดลองเล่นกันนั้น เป็นตัวเกมบนเครื่อง PlayStation 4 Pro
เริ่มจากตัวเกมนั้นมีความสามารถในการรันเกิน 30 เฟรมเรท นั่นหมายความว่ามันไม่ได้กินสเปคเครื่องสูงมากจนเกินไป แต่เพราะว่าตัวเกมเวอร์ชั่นทดลองนั้น บังคับให้เราเล่นต่อสู้กับเซลล์เท่านั้น เราจึงยังไม่ได้ออกไปสำรวจโลกกว้าง เพื่อทดสอบดูความยิ่งใหญ่ของแผนที่ รวมไปถึงระบบอื่น ๆ
ระบบต่อสู้ของภาคนี้จะคล้าย ๆ กับ Dragon Ball Xenoverse และการต่อสู้ที่รวดเร็ว ว่องไวสมใจแฟน ๆ Dragonball แน่นอน เพียงแต่ตัวผู้เขียนมองว่า บางอย่าง บางท่วงท่าการต่อสู้ มันออกจะรวดเร็วเกินไปบ้าง ดังนั้นระหว่างเล่นอาจจะลายตาหรือมึนเอาได้ง่าย ๆ แม้จะไม่ใช่เกมแนว FPS ก็ตาม แต่ด้วยความสดของสี และความเร็วของท่าทางแอ็คชั่น ก็อาจจะทำให้หลายคนลายตาเอาได้จริง ๆ
การต่อสู้จะมีหลอดพลังชีวิตพร้อมตัวเลขที่ชัดเจน รวมไปถึงการโจมตี ทำดาเมจ จะมีตัวเลขขึ้นให้เห็นตลอด ชัดเจนว่าภาคนี้จะใส่ความเป็น RPG ลงไปอย่างเต็มรูปแบบ และก่อน หรือระหว่างต่อสู้ ผู้เล่นยังสามารถเลือกรับประทานอาหารเพื่อบัฟตัวเองให้เก่งขึ้นได้ก่อนด้วย แม้ตัวทดลองนี้จะมีให้เล่นน้อยไปหน่อย เพราะมันไม่สามารถอธิบายภาพรวมของเกมนี้ได้อย่างชัดเจนนัก แต่สำหรับแฟนดราก้อนบอลถือว่าเกมนี้ไม่ควรพลาดเช่นกัน
และที่ไม่พูดถึงเลยไม่ได้ก็คือตัวเกมที่รองรับภาษาไทย จากฉากคัทซีนบางส่วน การแปลมานั้นถือว่าใช้ได้ รวมไปถึงเมนูแนะนำการต่อสู้ภายในเกมที่แปลมา ก็ทำให้ผู้เล่นเข้าใจง่ายเช่นกันแม้มไ่เคยเล่นเกมแนวนี้มาก่อน ในส่วนของคัทซีนเนื้อเรื่อง ได้เห็นเพียงนิดหน่อยเท่านั้น จึงยังไม่กล้าฟันธงว่าโดยรวมแล้วจะออกมาดี แต่กว่าจะถึงวันที่เกมเปิด คิดว่าทีมงานน่าจะทุ่มเทกันสุดฤทธิ์แน่นอนในเรื่องของการแปลภาษาไทย
และน่าสนใจว่า BANDAI NAMCO จะเรียนรู้ความผิดพลาดจากการทำเกม Open World ในเกมที่แล้วอย่าง One Piece World Seeker มาปรับปรุงในเกมนี้หรือไม่ เพราะถ้าความเป็นโลกเปิดยังคงแห้งแล้งแบบเกมที่แล้ว แบรนด์ดราก้อนบอลก็อาจจะไม่ช่วยอะไรเลยก็ได้
โดยรวมแล้วทั้งสองเกมอย่าง Marvel’s Avengers และ Dragon Ball Z : Kakarot ก็ยังถือเป็นเกม AAA ฟอร์มใหญ่ที่เราขจะได้สัมผัสกันในปี 2020 โดยเฉพาะฝั่ง Dragon Ball ที่มีภาษาไทยให้เราได้เล่นกันด้วย ใครที่สนใจนั้นอย่าลืมเก็บเงินรอกันไว้ Marvel’s Avengers จะเปิดให้เล่น 15 พฤษภาคม 2020 และ Dragon Ball Z : Kakarot จะเปิดให้เล่น 17 มกราคม 2020
