แม้ Xbox One เป็นเครื่องเกมคอนโซลทีมีกระแสเงียบเหงาในฝั่งเอเชีย แต่เครื่อง Xbox Series X/S อาจจะช่วยให้แบรนด์ Xbox กลับมาโด่งดังบนแถวเอเชียอีกครั้ง และเป็นที่ยอมรับมากขึ้นทั่วโลกจากความพยายามของ Microsoft ที่คิดค้นระบบต่าง ๆ ที่ทำให้เกมเมอร์ทุกคนถูกใจกับสิ่งนี้ แล้วจะมีอะไรบ้าง สามารถรับชมได้เลย
ความทรงพลังของฮาร์ดแวร์
ไม่มีใครปฏิเสธว่า Xbox, Xbox 360, Xbox One และ Xbox Series X ยังคงรักษามาตรฐานในด้านเป็นเครื่องเกมคอนโซลที่มีประสิทธิภาพทรงพลัง ในขณะที่ PlayStation มีจุดขายด้านเกม Exclusive และ Nintendo ยังคงเครื่องเกมคอนโซลที่ขายลูกเล่นสร้างสรรค์ต่าง ๆ
Xbox Series X เป็นเครื่องเกมคอนโซลที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ต่าง ๆ มากมาย เช่นสามารถเล่นเกมเก่าผ่านระบบ Backward Compatibility, สามารถเล่นเกมด้วยภาพละเอียดคมชัดระดับ 4K Native, ใช้ SSD ความเร็วสูงที่ทาง Microsoft ออกแบบมาเพื่อ Xbox Series, ระบบ Smart Delivery ย้ายไฟล์เซฟไปเล่นต่อบนเครื่องเกม Next-Gen ได้ทันที ไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการซับซ้อน, Quick Resume ที่เปิดเกมเล่นได้ทันที หลังจากเครื่องเข้าสู่โหมด Sleep และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย
คล้ายกับ PlayStation 5 เครื่องเกม Xbox Series X/S จะเน้นการอ่านข้อมูลเกมเร็ว เพื่อลดเวลาโหลดเกม และสามารถเล่นเกมอย่างต่อเนื่องปราศจากฉากโหลด แต่เครื่องเกมยังคงมีเป้าหมายเดิม คือเน้นประสิทธิภาพความทรงพลังให้สามารถเล่นเกมด้วยภาพกราฟิกที่สวยงาม โดยมีราคาขายที่สมเหตุสมผลกว่า Xbox
สร้างระบบต่าง ๆ ที่เป็นมิตรต่อผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด
นับตั้งแต่ช่วงกลาง-ปลายเจเนอเรชันของ Xbox One ทาง Microsoft มีการคิดค้นระบบหลายอย่างที่มีจุดประสงค์ต้องการให้เป็นมิตรต่อผู้บริโภค (Consumer Freindly) ให้ได้มากที่สุด ซึ่งแนวทางจะไม่ได้มุ่งเป้าเฉพาะเกมเมอร์อย่างเดียวอีกต่อไป แต่ตั้งเป้าหมายใหม่ให้เกมสามารถเข้าถึงผู้ใช้ให้ได้มากที่สุด
หากคุณติดตามข่าวสารวงการเกมเป็นประจำ คุณจะได้ยินข่าวมากมายว่า Microsoft ได้พยายามพัฒนาโปรเจกต์ลับหลายโครงการ ซึ่งหลังจากเวลาผ่านพ้นไปช่วงซักระยะเวลาหนึ่ง ทีมงานได้ทยอยเปิดตัวระบบต่าง ๆ เช่น Xbox Game Pass ระบบ Subscription วิดีโอเกมแบบจ่ายรายเดือน สามารถเล่นเกมไม่อั้น และ Project XCloud ระบบเล่นเกมแบบสตรีมมิ่งผ่านมือถือ
นอกจากนี้ Xbox Series X/S ยังคงมีระบบ Backward Compatibility คล้าย Xbox One X ที่สามารถรองรับการเล่นเกม Xbox ได้ทุกเจเนอเรชัน พร้อมมีการอัปเกรดกราฟิกเป็นภาพความละเอียดคมชัดระดับ 4K และสามารถเปิด Auto HDR ให้ภาพเกมมีสีสดใส แม้เกมดังกล่าวไม่รองรับ HDR ตั้งแต่แรก
สุดท้าย เกม Exclusive ของ Microsoft ตอนนี้และในอนาคตจะลงพร้อมกับเครื่องเกมคอนโซล Xbox และ PC ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows OS รวมถึงบางเกมลงให้กับ Nintendo Switch (ยกตัวอย่างเช่น Ori and the Blind Forest: Definitive Edition) ซึ่งในอนาคตอาจจะต้องมีารโบกมือลาเกม Exclusive เฉพาะ Xbox เท่านั้นก็เป็นไปได้
ด้วยระบบที่กล่าวมาทั้งหมด ทำให้ Xbox (รวมถึง Microsoft) เริ่มมีเสียงชื่นชมและได้รับความเชื่อมั่นจากเกมเมอร์หลายแห่งทั่วโลก ด้วยระบบต่าง ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นมิตรต่อผู้บริโภคให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย แถมเกมเมอร์ที่ชื่นชอบการเล่นเกมอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องควักเงินจำนวนมากเพื่อซื้อเกมเก่าหลายเกม
เจรจากับทีมพัฒนาเกมฝั่งญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น
อย่างที่เกมเมอร์ทราบดีอยู่แล้วว่า Xbox One ไม่เป็นที่นิยมสำหรับฝั่งทวีปเอเชีย เนื่องจากมีความผูกพันกับ PlayStation และ Nintendo มานานแสนนาน แต่เกมเมอร์อาจจะไม่ทราบมาก่อน Xbox นั้นมีกระแสยอดขายเงียบเหงามากในประเทศญี่ปุ่น
อ้างอิงสถิติจาก Famitsu เผยว่าช่วง 4 วันแรกของวันวางจำหน่าย Xbox One เครื่องเกมดังกล่าวสามารถทำยอดขายได้เพียง 23,562 เครื่องเท่านั้น ในขณะที่เครื่อง PlayStation 4 สามารถขายได้ 308,000 เครื่อง และ Nintendo Wii U ขายได้ 322,000 เครื่องในสัปดาห์แรก ส่วนเครื่องเกม Xbox One X สามารถขายได้เพียง 1,344 เครื่องในสัปดาห์แรก
ในปี 2019 ที่ผ่านมา Phil Spencer ประธานของ Xbox ออกมายอมรับกับสื่อ Game Informer ว่าคงเป็นเรื่องดีไม่ใช่น้อย ถ้าหากมีสตูดิโอในเอเชียมาร่วมเป็นพันธมิตรสร้างเกมให้กับ Microsoft โดยเฉพาะในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมเกมยิ่งใหญ่ ไม่แพ้สหรัฐฯ, เกาหลีใต้, จีน และอังกฤษ
หลังจากก่อนหน้านี้ Microsoft ได้เข้าซื้อทีมพัฒนาเกมหลายแห่ง เพื่อดึงเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน Xbox Games Studio นับตั้งแต่ต้นปี 2020 ทาง Microsoft ได้เริ่มสร้างความสัมพันธ์กับทีมพัฒนาเกมญี่ปุ่นที่ละเล็กทีละน้อย หากยกตัวอย่างเหตุการณ์ล่าสุด ก็คงไม่มีทางหนีพ้นความสัมพันธ์ระหว่าง SEGA กับ Microsoft ที่ทั้งสองบริษัทมีการเจรจาตกลง นำเกม MMORPG ชื่อดังอย่าง Phantasy Star Online 2 มาเปิดให้บริการในเซิร์ฟเวอร์อเมริกาเหนือ โดยมีให้เล่นเฉพาะแพลตฟอร์ม PC (Windows) กับ Xbox One เท่านั้น และล่าสุด เกม Yakuza: Like A Dragon จะออกวางจำหน่ายบน Xbox Series X/S (ร่วมกับ PC และคอนโซลเจนปัจจุบัน) ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ในขณะที่เกมเวอร์ชัน PS5 วางขายวันที่ 2 มีนาคม 2021
ด้วยความสัมพันธ์ระหว่าง Microsoft Xbox กับเกมเมอร์และทีมพัฒนาเกมญี่ปุ่นที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เครื่อง Xbox Series X/S มีกระแสยอดซื้อจอง Pre-Order จนหมดสต๊อกภายใน 20 นาทีจากร้านค้าหลายแห่ง ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับเกมเมอร์หลายคน และเป็นความตั้งใจที่ไม่สูญเปล่าจริง ๆ
แม้ Xbox Series X/S อาจยังไม่เป็นที่น่าสนใจสำหรับเกมเมอร์ชาวเอเชีย หรือรวมถึงไทยบ้านเรา เนื่องจากผูกพันกับแบรนด์ PlayStation หรือมี PC สำหรับการเล่นเกมมานานแล้ว แต่ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมด ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับ Microsoft ที่จะทำให้แบรนด์ Xbox เป็นที่ยอมรับในเอเชียมากขึ้น และอาจทำตลาดได้สูสีกับ Sony และ Nintendo ในอนาคต
