Sony ได้หลุดข้อมูลสถิติ Call of Duty ใน PlayStation ที่อาจแสดงให้เห็นว่าแฟรนไชส์นี้มีความสำคัญต่อ Sony มากแค่ไหน
ระหว่างการต่อสู้ในกรณีพิพาทระหว่าง Microsoft กับ Federal Trade Commission ในประเด็นการควบกิจการ Activision Blizzard ทาง Sony ได้มีการเผยข้อมูลสถิติ Call of Duty ใน PlayStation ต่อคณะกรรมการเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม แม้ในเอกสารมีการขีดดำ เพื่อปกปิดข้อมูลที่เป็นความลับทางการค้า แต่เนื่องจากข้อมูลไม่ได้ถูกขีดดำอย่างมืดสนิท ทำให้ข้อมูลบางส่วนสามารถมองเห็นแบบราง ๆ ซึ่งทาง Tom Warren นักข่าวจาก The Verge จึงนำข้อมูลที่หลุดจากเอกสารมารายงาน โดยรายละเอียดที่น่าสนใจ มีดังนี้…
“ในปี 2021 มีผู้ใช้มากกว่า [14] (ไม่ชัดเจน) ล้านคน ใช้เวลา 30% ขึ้นไปในการเล่นเกม Call of Duty, มีจำนวนผู้ใช้มากกว่า [6] ล้านคน ใช้เวลา 70% ขึ้นไปในการเล่นเกม Call of Duty และมีจำนวนผู้ใช้มากกว่า [1] ล้านคน ใช้เวลา 100% ขึ้นไปในการเล่นเกม Call of Duty”
“ในปี 2021 ผู้เล่น Call of Duty ได้ใช้เวลาเฉลี่ยในการเล่นเกม Call of Duty ภายในเวลา 1 ปีอยู่ที่ [116] (ไม่ชัดเจน) ชั่วโมง และผู้เล่น Call of Duty มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ได้ใช้เวลาเฉลี่ยในการเล่นเกมแฟรนไชส์ Call of Duty อยู่ที่ [296] ชั่วโมง”
The Verge อ้างอิงจากเอกสารเพิ่มเติมว่า ในปี 2021 บริษัท Sony ทำรายได้จากเกม Call of Duty มากกว่า 800 ล้านเหรียญฯ เฉพาะในประเทศสหรัฐฯ และทำรายได้ 1.5 พันล้านเหรียญฯ จากทั่วโลก ซึ่งถ้านับว่าผู้เล่น Call of Duty ใช้เงินซื้ออย่างอื่นบน PlayStation ด้วย จะสามารถนับเป็นรายได้ทั้งหมดที่ 15.9 พันล้านเหรียญฯ
นอกจากนี้ ในเอกสารคอนเฟิร์มว่า Call of Duty ปี 2023 (ซึ่งลือกันว่าเป็น Call of Duty: Modern Warfare 3 ฉบับ Reboot โดย Sledgehammer Games) จะเป็นเกมภาคสุดท้ายที่ Sony ได้ดีลกับ Activision
แม้ Call of Duty ของปี 2023 จะเป็นเกมภาคสุดท้ายที่มีการดีลระหว่าง Sony กับ Activision แต่ก่อนหน้านี้ Microsoft ยืนยันว่ามีการยื่นข้อเสนอต่อ Sony ให้สามารถนำเกม Call of Duty ลงในระบบ PlayStation ได้อีก 10 ปี หากดีลระหว่าง Activision Blizzard กับ Microsoft สำเร็จ รวมถึง Jim Ryan หัวหน้า PlayStation ไม่กังวลว่า PlayStation จะสูญเสีย Call of Duty ไป
ที่มา: VGC
