ในขณะที่ PlayStation 5 และ Xbox Series วางจำหน่ายมาเป็นเวลานานแล้ว แต่การพัฒนาเกมใหม่ ๆ นั้น ยังคงต้องใช้เทคโนโลยีและเอนจิ้นเดิมกันอยูมาก แต่ตอนนี้ ทาง Epic Games ได้ออกมาเปิดเผยว่า Unreal Engine 5 นั้น พร้อมใช้งานอย่างเต็มรูปแบบแล้ว และค่ายเกมต่าง ๆ ก็ได้ตัดสินใจที่จะใช้ Unreal Engine 5 ในการทำเกมใหม่ของพวกเขา และนี่คือเกมที่จะใช้ Unreal Engine 5 ในการพัฒนา ให้เราได้เตรียมตัว เตรียมคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องคอนโซลให้พร้อม รอการมาถึงของเกมชื่อดังเหล่านี้
1. The Witcher
CD Projekt RED ออกมาประกาศสร้าง The Witcher ภาคใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยอยู่ในขั้นตอนของการ Pre-Production หรือเพิ่งเข้าสู่ช่วงแรกของการพัฒนาเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีการเปลี่ยน Engine ที่ใช้ในการพัฒนาเกมด้วย โดยก่อนหน้านี้พวกเขาใช้ RED Engine ที่เป็น Engine ของตัวเอง แต่ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ Unreal Engine 5 แทน และอาจจะเซ็ตเนื้อเรื่องเป็นอีกช่วงหนึ่งของจักรวาล The Witcher เลยก็เป็นได้ ตอนนี้ซีรีส์ The Witcher ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจาก Unreal Engine 5 แล้ว เราอาจจะได้เห็นเรื่องราวใหม่ ๆ ในโลกของ Witcher เพิ่มก็เป็นได้
2. Mass Effect
หลังจากพลาดท่าจนโดนวิจารณ์ไปพอสมควรกับภาค Andromeda ซีรีส์ Mass Effect ยังคงเดินทางต่อไป และมีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2021 ที่ผ่านมาว่า Mass Effect ภาคใหม่ (หรือที่หลายคนเรียกว่า Mass Effect 4 ในตอนนี้) จากข้อมูลในตอนนี้ ระบุว่า Mass Effect ภาคใหม่ จะกลับมาเป็นเนื้อเรื่องหลัก เป็น Mainline อีกครั้ง แน่นอนว่ายังไม่มีวิดีโอเกมเพลย์ หรือตัวอย่างใด ๆ ให้เราได้ชมกัน แต่ทาง EA และ BioWare ตัดสินใจ เลิกใช้ Frostbite Engine และหันมาใช้ Unreal Engine 5 ซึ่งอาจจะถูกใจแฟนเกมหลายคน เพราะ Frostbite Engine นั้นมีปัญหาในการทำเกมพอสมควรจากปากทีมพัฒนา งานนี้ต้องรอดูว่า มหากาพย์ Mass Effect ภาคใหม่ จะออกมาเป็นแบบไหน
3. Hell is Us
ทีมพัฒนา Rogue Factor เจ้าของผลงานซีรีส์ Necromunda และ Mordheim ได้ออกมาประกาศพัฒนาเกมใหม่โดยใช้ Unreal Engine 5 เกมนี้จะเป็นเกมแนว Action-Adventure และมีส่วนผสมของความสยองขวัญอยู่ด้วย เกมนี้เปิดตัวไปเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา และมีเพียง Cinematic Trailer พอให้เราคาดเดาได้ถึงเนื้อหาคร่าว ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดลึกลับ และตัวเอกมีดาบและโดรนเป็นอาวุธ และเกมจะเป็นโลกกึ่ง Open World หลังหายนะ และยังมีร่างประหลาดที่เป็นรูที่น่าสยดสยอง เกมนี้มีจุดขายคือการใช้เทคโนโลยีด้านการจัดวางแสงของ Unreal Engine 5 ทำให้เราอาจจะได้เล่นเกมผจญภัยปนสยองขวัญระดับคุณภาพกันอีกเกม
4. The Day Before
เกมที่เราควรจะได้เล่นกันในปีนี้ แต่ถูกเลื่อนวางจำหน่ายออกไปเป็นมีนาคมปีหน้าแทน เกมนี้เป็นส่วนผสมที่ลงตัวกันระหว่าง The Last of Us และ The Division โดยเป็นผลงานของ FNTASTIC โดยตัวเกมจะเป็นเกมแบบ Survival + MMO ที่เราจะต้องร่วมมือกัน เอาชีวิตรอดในโลกหลังการล่มสลาย และต้องออกตามหาทรัพยากรน้ำ อาหาร รวมไปถึงอุปกรณ์ในการต่อสู้เอาชีวิตรอด ด้วยความที่ตัวเกมเป็นเกม MMO ทำให้อาจจะมีระบบเลเวล และสกิลเข้ามาเกี่ยวข้อง ตัวเกมมีภาพเกมเพลย์เผยออกมาให้เห็นกันบ้างแล้ว แต่เดิมเกมนี้เริ่มต้นทำด้วย Unreal Engine 4 แต่หลังจาก Unreal Engine 5 พร้อมใช้งาน ทีมพัฒนาจึงตัดสินใจย้ายมาใช้ตัว Unreal Engine 5 แทน และอาจเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกม เลื่อนวางจำหน่ายไปเป็นมีนาคมปี 2023
5. เกมยิงไร้ชื่อของ Midnight Society
สตรีมเมอร์ฝีปากจัดจ้านชื่อดัง DrDisrespect ได้ก่อตั้งสตูดิโอทำเกมของตัวเองในชื่อ Midnight Society และประกาศว่ากำลังพัฒนาเกม FPS ระดับ AAA กันอยู่ แถมยังเป็นเกมออนไลน์แบบ Multiplayer ด้วย โดยมีการจ้างอดีตพนักงานที่เคยร่วมพัฒนาเกม Halo และ Call of Duty มาร่วมทำเกม และที่สำคัญคือ ใช้ Unreal Engine 5 ในการพัฒนา โดยเจ้าตัวถึงกับออกมาบอกว่า เกมของเขานั้น เจ๋งกว่า Call of Duty: Modern Warfare 2 แน่ ๆ ทั้งเรื่องของเอนจิ้นที่ใช้ทำ เรื่องของเกมเพลย์และระบบการเล่น ทำเอาโซเชียลลุกเป็นไฟกันไปในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เรายังไม่รู้ว่าเกมของเขาจะเจ๋งจริงหรือไม่ แต่นี่ก็ถือว่าเป็นอีกเกมที่ใช้ Unreal Engine 5 ที่น่าจับตามองไม่แพ้เกมอื่น ๆ
6. Kingdom Hearts 4
https://youtu.be/mcm_dfhnP8Q
เป็นอีกแฟรนไชส์เกมชื่อดังที่เพิ่งประกาศเปิดตัวในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แม้ตอนแรก เกมจะได้รับการระบุว่าจะพัฒนาโดยใช้ Unreal Engine 4 แต่ต่อมาก็เผยว่า ด้วยการที่มาอยู่ใต้ชายคา Epic Games ทำให้ตัวเกมจะได้รับการอัปเกรดเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด และยิ่งใหญ่ที่สุด ด้วยการยกระดับไปใช้ Unreal Engine 5 ทำให้คาดเดาได้เลยว่า แม้แฟน ๆ อาจจะต้องรอกันนานเสียหน่อย กว่าจะได้เล่นกัน แต่ Kingdom Hearts ภาคใหม่นี้ อาจจะเป็นภาคที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เอาแค่ตัวอย่างแรกก็สวยงามมัดใจแฟนเกมได้มากพอแล้ว
7. Layers of Fears
เพิ่งเปิดเผยตัวอย่างกันไปเมื่องาน Summer Game Fest ที่ผ่านมา สำหรับ Layers of Fears ภาคใหม่ สำหรับเกมนี้ ขึ้นชื่อว่า Bloober Team ฝีมือการทำเกมสยองขวัญก็ถือว่าจัดจ้านพอสมควรอยู่แล้ว ยืนยันได้จากผลงานก่อนหน้าอย่าง Blair Witch และ The Medium รวมไปถึงเกม Layers of Fear ภาคก่อนหน้า เป็นอีกเกมที่ประกาศใช้งาน Unreal Engine 5 อย่างเป็นทางการ และคราวนี้เกมอาจจะมาพร้อมกับความสยองขวัญที่จัดเต็มกว่าเดิม พร้อมด้วยการนำเสนอที่น่าสยองขวัญขึ้น และสมจริงมากยิ่งขึ้น ตัวเกมน่าจะมาในช่วงปี 2023 ใครที่เป็นคนจิตแข็ง ชอบท้าทายกับความน่าสะพรึงกลัว รอสัมผัสกันได้ในปีหน้า
8. Off the Grid
https://youtu.be/x6InNyCE2Rc
เกม Battle Royale ตัวใหม่ที่หยิบเอา Unreal Engine 5 มาใช้ แถมยังได้ตัวผู้กำกับชื่อดังอย่าง Neil Blomkamp มารับหน้าที่ช่วยดูแลโปรเจกต์นี้ด้วย โดยตัวเกมจะมีทั้งโหมด Multiplayer ที่เป็นเกม Battle Royale โดยจะรองรับผู้เล่นมากถึง 150 คน และยังมีโหมดเนื้อเรื่องที่เป็นเกมการเล่นแบบ PvE ด้วย ฉากหลังของโลกในเกมนี้จะเป็นโลกยุคอนาคต Dystopia เพราะเหตุนี้ Neil Blomkamp จึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลโปรเจกต์เกมนี้ด้วย ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดและเกมเพลย์ใด ๆ ในตอนนี้ แต่ยืนยันแล้วว่าเกมจะใช้ Unreal Engine 5 และลงให้กับเครื่องคอนโซลและ PC และวางจำหน่ายในปี 2023
9. Ark 2
แม้จะเป็นเกมที่ยังไม่มีตัวอย่างหรือเกมเพลย์ใด ๆ ออกมา แต่สิ่งที่น่าสนใจของเกมนี้เลยคือ มันเป็นภาคต่อของเกมเอาตัวรอดชื่อดังอย่าง Ark Survival Evolved แต่คราวนี้กลับมาพร้อมกับนักแสดงชื่อดังจากแฟรนไชส์ เร็ว..แรง ทะลุนรก อย่าง Vin Diesel ที่นอกจากจะมีบทบาทเป็นตัวละครเอกของเรื่องแล้ว ยังนั่งแท่นโปรดิวเซอร์หรืออำนวยการสร้างเกมนี้ด้วย โดยยังได้ Microsoft และ Xbox มาช่วยดูแลและสนับสนุนเบื้องหลัง แน่นอนว่าตัวเกมใช้ Unreal Engine 5 ในการพัฒนา งานนี้เตรียมตัวเอาตัวรอดและผจญภัยไปในโลกไดโนเสาร์ที่ตระการตากว่าเดิมได้เลย
