เกม Survival น้องใหม่ยอดฮิตที่กำลังได้รับความนิยมแบบสุด ๆ เชื่อว่าตอนนี้หลายคนก็น่าจะกำลังสนุกกับการสวมบทเป็นแวมไพร์ในผลงานชิ้นใหม่ของค่าย Stunlock ชิ้นนี้
และวันนี้เราก็มีสารพัดเทคนิคที่น่าสนใจรวมทั้งเทคนิคการต่อสู้ไปจนถึงระบบพื้นฐานบางอย่างมาของตัวเกมมาเล่าสู่กันฟัง อ่านได้อ่านดีทั้งแวมไพร์หน้าใหม่ที่กำลังตั้งตัวกับทีมแวมไพร์เทพเจ้าของปราสาทยักษ์ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
1.หา Server ที่ใช่เหมาะกับสไตล์การเล่นคุณเอง
ก่อนจะเริ่มลงมือสวมบทเป็นแวมไพร์ ก้าวแรกที่ผู้เล่นใหม่ทุกคนจะต้องเลือกก็คือ การเลือก Server ที่เราจะเข้าไปสิงสู่อยู่อาศัย และด้วยการที่ตัวเกมนั้นมี Setting ที่แตกต่างกันไป ตามแต่ละ Server ดังนั้นผู้เล่นใหม่ก็ควรจะศึกษาดูกติกาของ Server ที่สนใจให้ละเอียดก่อนหลวมตัวเข้าไปเล่นทุ่มเทแรงงานกัน
PvE คือ Server ที่ไม่มีระบบการต่อสู้ระหว่างผู้เล่นแวมไพร์ด้วยกัน ทุกคนร่วมมือร่วมใจแบ่งปันช่วยเหลือกัน
PvP คือ Server สายจริงจัง ผู้เล่นฝ่ายแวมไพร์สามารถต่อสู้ฆ่ากันได้
นอกจากนั้นยังมี Setting รายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่นใน Server Full Loot ทุกครั้งที่เราตายของทุกอย่างในตัวแม้แต่ของสวมใส่ก็จะตกลงพื้น ถูกแย่งไปได้
หรือช่วงเวลาการเปิด Siege เข้าตีปราสาทระหว่างผู้เล่นด้วยกัน หรือจำนวนขนาดของ Clan ทั้งหมดทั้งปวงเหล่านี้ผู้เล่นต้องศึกษาให้ดีก่อนใช้เวลาเข้าไปสนุกในเกม
2. การทำงานของระบบพลังชีวิต
ถึงแม้ในเกมหลักจะมี Tutorial อธิบายอยู่แล้ว แต่เราก็ต้องยอมรับว่าตัวเกมอธิบายระบบพลังชีวิตในเกมได้ไม่ดีเท่าไหร่
เมื่อคุณเข้าสู่การต่อสู้และได้รับความเสียหายไประดับหนึ่ง (ประมาณทุก ๆ 25% ของหลอดเลือด) หลอดพลังชีวิตส่วนหนึ่งจะกลายเป็นสีเทาและไม่สามารถฟื้นกลับไปได้ในระหว่างการต่อสู้ อธิบายง่าย ๆ ก็คือ Max Health หรือพลังชีวิตสูงสุดของคุณจะลดลงไปเรื่อย ๆ ในระหว่างการต่อสู้และไม่สามารถฟื้นกลับไปให้เต็มได้ 100%
การฟื้นหลอดพลังที่ไม่ได้กลายเป็นสีเทาทำได้ทั้งจากการใช้ Skill เวทมนตร์ หรือใช้ Item ฟื้นพลังทั้งหลายที่มีในเกม หรือแม้แต่การใช้ความสามารถ Blood Mend ก็สามารถทำได้เช่นกัน หลอดเลือดสีเทาจะกลับมาใช้งานได้ปกติหลังจบการต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นการจัดการศัตรูจนหมด หรือหลบหนีออกมา
ด้วยระบบพลังชีวิตแบบนี้ ในการต่อสู้ที่มีความสูสีเช่นกับเหล่า Boss หรือผู้เล่นด้วยกัน ผู้เล่นที่ฟื้นพลังของตัวเองไว้ตลอดจะมีความได้เปรียบศัตรูมากกว่า ดังนั้นหาจังหวะในการใช้ Item และออกท่าโจมตีเพื่อฟื้นพลังของเหล่าอยู่เสมอ และก็เป็นโชคดีเพราะ Skill และเวทมนตร์ส่วนใหญ่ในเกมออกแบบมาเพื่อฟื้นเลือดของเราอยู่แล้ว
3. ระบบหลอดเลือด
Blood Pool เป็นอีกหนึ่งระบบหลักของเกม V Rising กล่าวคือทุกครั้งที่คุณทำการ Feed (ปุ่ม F) สังหารศัตรูประเภทที่มีเลือดอยู่ คุณจะได้รับเลือดมาจำนวน 10 ลิตร
เลือดดังกล่าวจะค่อย ๆ ลดลงและหากลดลงถึง 0 คุณจะค่อย ๆ ได้รับความเสียหายและ “ตาย” ในที่สุด ขณะเดียวกันเลือดแต่ละประเภทก็จะมอบโบนัสพิเศษให้กับคุณแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับคุณภาพ % และชนิดของเลือดเหล่านั้น (อ่านรายละเอียดโบนัสทั้งหมดที่นี่)
คุณไม่สามารถเติม Blood Pool ได้ โดยไม่เปลี่ยนโบนัสชนิดของเลือด ยกตัวอย่างเช่นคุณอาจจะมีโบนัส Rogue 80% อยู่จากการดูดเลือดของศัตรูมา แต่หลอดเลือดกำลังจะหมดและคุณจำเป็นจะต้องเติมเลือดเข้าไปใหม่ สิ่งที่คุณทำได้มีเพียงหาศัตรูตัวใหม่มาเติมเลือดเข้าไปแทนที่ ไม่สามารถดูดมาแค่เลือดและรักษาโบนัส 80% เอาไว้ได้
ในช่วงครึ่งหลังของเกมเมื่อคุณวิจัยคุกได้สำเร็จ คุณจะสามารถจับตัวมนุษย์มาไว้ที่ฐานและดูดเลือดของเหยื่อได้เรื่อย ๆ นี่เป็นวิธีเดียวที่คุณจะมีเลือดโบนัสรูปแบบที่คุณต้องการใช้งานตลอดเวลา
4. ความสามารถ Blood Mend
ความสามารถพื้นฐานในการฟื้นพลังชีวิต โดยแลกมากับการใช้เลือดจากหลอดเลือดที่เรามี Blood Mend เป็นความสามารถที่ทรงพลังเพราะสามารถฟื้นพลังชีวิตให้กับเราได้อย่างรวดเร็ว แต่มันก็มาพร้อมข้อเสียสำคัญเช่นกัน ทั้งการที่เราจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ระหว่างใช้ Skill และการถูกโจมตีก็จะเป็นการยกเลิกการใช้ Blood Mend
และอีกข้อเสียสำคัญที่หลายคนมองข้ามก็คือการใช้ Blood Mend จะทำให้เราสูญเสียหลอดเลือดไปอย่างรวดเร็ว แม้หลอดเลือดอาจจะไม่มีความสำคัญในช่วงการเล่นระยะแรก แต่ในการเล่นช่วงท้ายการรักษาเลือดที่มีคุณภาพระดับ 80 – 100% เอาไว้จะถือว่ามีความสำคัญ
เมื่อเป็นแบบนี้การฟื้นเลือดด้วยวิธีการอื่นจึง “ดี” กว่าหากเราต้องการรักษาโบนัสเลือดของเราไว้ ใช้โพชั่นที่คุณสร้างขึ้นมาหรืออาศัยการโจมตีดูดเลือดด้วย Skill พยายามรักษาระดับเลือดของคุณให้สูงเข้าไว้จะได้ไม่จำเป็นต้องใช้ Blood Mend แลกพลังชีวิตกับเลือดอันมีค่าทิ้งไป
5. ใช้เวลาช่วงแรกมองหาที่สร้างฐานที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
ด้วยการที่พื้นที่ในเกมนั้นมีจำกัดและทรัพยากรต่าง ๆ ก็มีจุดเกิดที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ดังนั้นการหาพื้นที่ดี ๆ ในการสร้างฐานหลักจะดีกับคุณมากกว่าในการเล่นระยะยาว
มองหาจุดที่คุณคิดว่าเดินทางไปมา “ทั่วแผนที่” ได้ง่ายที่สุด และมีพื้นที่เพียงพอเผื่อการขยายปราสาทในช่วงหลัง เพราะฐานของคุณในเกมนี้มีได้ “ชั้นเดียว” ดังนั้นพื้นที่แนวราบที่ขยายไปรอบ ๆ ได้กว้างจะทำให้การวางแปลนของปราสาทนั้นง่ายดายกว่ามาก ๆ
จำไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องสร้างฐานในแผนที่แรกของเกมอย่าง Farben Woods ด้วยซ้ำ คุณอาจสร้างฐานย่อยไว้ใช้งานเพื่อตั้งตัวในช่วงแรกและขึ้นเหนือไปมองหาที่อยู่ถาวรในตอนหลัง
ทำเลที่ดียิ่งมีความสำคัญมากขึ้นใน Server PvP ที่มีการต่อสู้ระหว่าง Clan เข้มข้น ดังนั้นใช้เวลาช่วงแรกหาจุดที่สมบูรณ์ที่สุดจะได้ไม่ปวดหัวในภายหลัง
6. ม้าหาได้จากเขต Dunley Farmlands (ตรงกลางของแผนที่)
สิ่งที่ผู้เล่นหน้าใหม่หลายคนจะสงสัยกันที่สุดก็คือ “ม้า” ที่มีให้ขี่ในเกมนี้มันหาได้ที่ไหน คุณสามารถเจอม้าได้ตามข้างทางหรือในฐานทัพของเหล่ามนุษย์ในแผนที่เขต Dunley Farmlands หรือกึ่งกลางของฉาก
หลังจากขึ้นขี่ม้ามาแล้วคุณสามารถพามันกลับมายังบ้านและทิ้งมันไว้ในเขตแดนของเรา หลังจากนี้ไม่ว่าคุณจะออกเกมเข้าเกมเจ้าม้าตัวนั้นก็จะอยู่ในเขตฐานของเราไม่หายไปไหน กลายเป็นม้าของเราแทน แต่มีจุดที่ต้องระวังก็คือม้าทุกตัวในเกมจำเป็นจะต้องได้รับการให้ “น้ำ” เพื่อรักษาชีวิตของมันเอาไว้
คุณสามารถตรวจดูได้ว่าน้ำที่มีอยู่ในม้าเหลืออยู่เท่าไหร่ด้วยการเดินไปใกล้ ๆ ม้าแล้วกดปุ่ม Tab จำไว้ว่าหากเวลาของน้ำในตัวม้าหมดลง เจ้าม้าตัวดังกล่าวจะล้มลงสิ้นใจไปทันที
7. ใช้อาวุธให้หลากหลายจะได้เปรียบศัตรูมากขึ้น
นอกจากพลังแวมไพร์และการใช้เวทอาคมแล้ว “อาวุธ” ก็เป็นอีกอย่างที่เป็นตัวกำหนด Skill ของคุณ ในอาวุธระดับแรก ๆ เราจะยังไม่มี Skill ความสามารถ แต่ในอาวุธระดับ Copper ขึ้นไป อาวุธแต่ละชิ้นจะมี Skill พิเศษที่แตกต่างกันออกไป
ดังนั้นการมีอาวุธหลายชิ้นติดตัวไว้ จะสร้างความได้เปรียบอย่างมากทั้งในเรื่องของการทำความเสียหายใส่ศัตรูที่เป็น NPC และการต่อสู้กับศัตรูที่เป็นผู้เล่นแวมไพร์เหมือนกับเรา
ยกตัวอย่างเช่นอาวุธอย่าง Reaper หรือเคียวจะมีความสามารถพิเศษสร้างความเสียหายใส่ศัตรู Undead ได้รุนแรงขึ้น
หรือ Skill อาวุธประเภทค้อนในปุ่ม Q ซึ่งเป็นท่าพุ่งไปกระโดดโจมตี เราสามารถประยุกต์ใช้ท่าดังกล่าวเป็นท่าสำหรับหลบการโจมตีได้เช่นกัน
8. ใช้อุปกรณ์และอาวุธให้เหมาะกับเรา
ข้อนี้อาจจะฟังดูขัดแย้งกับข้อที่แล้ว แต่สุดท้ายแล้วในการต่อสู้นั้นของสวมใส่และ Skill ต่างที่เราติดตั้งไว้ รวมไปจนถึงชนิดของเลือดที่เรามีอยู่จะเป็นตัวสำคัญในการชี้สไตล์การต่อสู้ของเรา
เลือดประเภท Scholar จะไปได้ดีกับผู้เล่นสายเวทมนตร์ที่สวมใส่เครื่องประดับที่มีความสามารถเพิ่ม % การติด Critical ของเวทมนตร์
หรืออาวุธอย่างใบมีดคู่จะจับคู่ได้ดีกับเครื่องประดับที่ลด Cooldown Skill และอาคมที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการโจมตี
9. เตรียมตัวให้ดีก่อนการต่อสู้ทุกครั้ง
V Rising เป็นเกมที่สถานะความผิดปกติต่าง ๆ นั้นส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเรา ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เลือดในหลอดหมดตัว การที่ไม่สามารถฟื้นเลือดได้ง่าย ๆ ระหว่างการต่อสู้ หรือการถูกกระเทียมหรือไฟก็สร้างความเสียหายได้มหาศาล
ดังนั้นก่อนการต่อสู้ครั้งใหญ่การเตรียม Potion ต่าง ๆ ให้พร้อมถือเป็นเรื่องจำเป็นในการต่อสู้กับศัตรูที่มี Gear Level ใกล้เคียงกับเรา
ยิ่งใน Server แบบ PvP ที่เราไม่รู้เลยว่าจะถูกดักปล้นโดยแวมไพร์ตัวอื่นตอนไหน ดังนั้นเตรียมตัวให้พร้อมทั้งในเรื่องของ Item แผนการเดินทาง และทางหนีทีไล่หากเจอการต่อสู้ที่ยากลำบาก
10. อย่าบุกเข้าไปลุยกับศัตรูแบบตรง ๆ
ถึงแม้หน้าตาของตัวเกมจะทำให้หลายคนคิดว่า V Rising เป็นเกม Action RPG Survival ที่ Item Gear ต่าง ๆ สำคัญที่สุด และเดินเข้าไปยืนฟันแลกกับศัตรูตรง ๆ แต่ระบบการต่อสู้ของ V Rising นั้นที่จริงแล้วเป็นการต่อสู้แบบเกม Arena Brawler และยกเอาระบบจากเกมเก่าของค่ายอย่าง Battlerite มาสานต่อ
การต่อสู้ในเกมนั้นจังหวะถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก การโจมตีทุกอย่างมี Cooldown มีระยะ มีความรุนแรงให้เราเรียนรู้
ยกตัวอย่างเช่นท่าหลบหรือ Skill ปุ่ม Space Bar เราไม่สามารถกดปุ่มหลบภายในเกมนี้ได้แบบรัว ๆ ดังนั้นการหลบทุกครั้งจึงจำเป็นต้องกดในจังหวะที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น Skill ปุ่มหลบในเกมนี้มักจะพ่วงมาด้วยการเสริมโบนัสการโจมตีในครั้งแรกหลังออกจากการหลบ ทำให้เราต้องวางแผนให้ดีว่าหลังจากที่หลบการโจมตีไปแล้วจะโจมตีให้โดนได้ยังไงเพื่อออกท่าพิเศษดังกล่าว
11. Blood Rage เป็นความสามารถที่ดีในการเก็บทรัพยากร
Blood Rage ความสามารถพิเศษหรือ Skill ที่เราจะได้มาในช่วงต้นเกมหลังสังหาร Boss ตัวที่ 3 ของเกมอย่าง Rufus The Foreman เพิ่มความเร็วในการโจมตี 25% เป็นระยะเวลา 4.5 วินาที
ท่าดังกล่าวถือเป็นท่าที่ผู้เล่นสายฟาร์มนักเก็บทรัพยากรควรมีไว้ติดตัวในตอนออกไปขุดแร่ ตัดต้นไม้ อย่าลืมจับคู่กับเลือดสาย Worker เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการฟาร์มที่สูงที่สุด
12. Feed เป็นเป็นอีกหนึ่ง Skill ในการสังหารศัตรู
Feed (ปุ่ม F) เป็นท่าสังหารที่หลายคนมักจะเก็บเอาไว้ใช้ในตอนจบการต่อสู้เพื่อดูดเลือดศัตรูที่เป็นเป้าหมายเก็บค่าโบนัสเลือดมาใช้งาน
แต่จริง ๆ แล้ว Feed เป็นหนึ่งในท่าโจมตีที่สำคัญที่สุดของเราเพราะเราสามารถ “สังหาร” ศัตรูที่เหลือเหลือน้อยอยู่ลงได้ทันทีด้วยการกด Feed เข้าดูดเลือด
ในระหว่างการ Feed เราจะสามารถถูกโจมตีได้ปกติและเราสามารถยกเลิกการ Feed ได้ โดยการคลิ๊กซ้ายหนึ่งครั้ง เพียงเท่านี้คุณก็สามารถใช้ Feed เป็นท่าสังหารจัดการศัตรูตัวใหญ่หรือตัวน่ารำคาญออกจากกลุ่มได้ทันทีและรอเวลา Cooldown เพื่อทำการใช้ Feed สังหารศัตรูตัวต่อไป
13. ถนอมนิ้วของคุณได้ด้วยการกดค้าง
ในการโจมตีแบบต่อเนื่องคุณไม่จำเป็นต้องกดคลิ๊กเมาส์ซ้ายแบบรัว ๆ แต่สามารถใช้การกดปุ่มคลิ๊กซ้ายค้างเอาไว้ เพียงเท่านี้ตัวละครของคุณก็จะโจมตีศัตรูหรือขุดแร่แบบต่อเนื่องไม่ต้องทำลายสุขภาพนิ้วและปุ่มเมาส์ของเรา
ข้อบนนี้หลายคนอาจจะรู้อยู่แล้ว แต่รู้หรือเปล่าว่าในการเก็บของคุณก็ไม่จำเป็นต้องกดปุ่ม F รัว ๆ เช่นกัน คุณสามารถใช้การกดปุ่ม F ค้างไว้แล้วลากเมาส์ไปมาตามของบนพื้นเพื่อเก็บ Item ทั้งหมดเข้าตัวได้ทันที
14. ตั้งชื่อหีบเพื่อจัดระเบียบการเก็บของและให้ง่ายต่อการจำ
ถึงแม้ตัวเกม V Rising จะยังไม่มีระบบป้ายปักเพื่อเขียนข้อความ แต่ ณ ตอนนี้เราก็สามารถตั้งชื่อหีบเก็บข้องในปราสาทเพื่อช่วยเตือนความจำหรือใช้ตกลงร่วมกับเพื่อนว่าหีบไหนจะใช้เก็บ Item ประเภทอะไร
การตั้งชื่อหีบทำได้โดยการเดินไปกดที่หีบที่คุณต้องการตั้งชื่อ จากนั้นสังเกตที่หน้าต่าง Item คุณจะเห็นปุ่มสีขาวอยู่ด้านขวาของชื่อ CONTAINER กดที่ปุ่มดังกล่าวและคุณจะสามารถเปลี่ยนชื่อหีบหรือกล่องเก็บของได้ตามต้องการ
15. แผนที่โดยคร่าว ๆ
สำหรับคนที่อยากรู้ว่าต้องสำรวจและหาทรัพยากรจุดไหนไปเรื่อย ๆ คุณสามารถกดเปิดแผนที่ (ปุ่ม M) และตรวจดูได้ทันทีว่าบริเวณไหนมอบทรัพยากรอะไรให้คุณได้บ้าง แต่มันต้องเป็นสถานที่ซึ่งคุณเคยไปเยือนมาแล้ว
แต่โดยรวมแล้วแผนที่ทั้งหมดในเกมจะถูกแบ่งออกเป็นสามช่วงดังนี้
Farben woods แผนที่ต้นเกม Gear Level 1 – 30 ทรัพยากรสำคัญคือ Copper , Sulfer และหนังสัตว์
Dunley Farmlands แผนที่กลางเกม Gear Level 30 – 60 ทรัพยากรสำคัญคือ Iron, Quartz และผ้า Cotton รวมไปจนถึงม้า
Cursed forest แผนที่ท้ายเกม Gear Level 60+ ทรัพยากรสำคัญคือ ghost crystal, ghost yarn และ spectral dust รวมไปจนถึง Scale และ Silk
Silverlight Hills แผนที่ท้ายเกม Gear Level 60+ ทรัพยากรสำคัญคือ Silver และ Highland Lotus
16.ลงทุนกับระบบ Servant
หลังคุณขยายฐานไปได้สักพักตัวเกมจะเปิดระบบให้คุณสามารถจับเหล่า NPC มาเป็นข้ารับใช้ส่วนตัวได้
เจ้าระบบ Servant นี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างมากในการตามหาทรัพยากรมาให้เราใช้งาน การตามจับ Servant นั้นทำได้โดยการใช้ความสามารถ Dominating Presence และกดใช้ท่า R เป็นท่า Kiss of the Vampire ศัตรูที่ถูกท่าดังกล่าวในตอนที่เลือดต่ำกว่า 30% จะถูกล้างสมองให้เดินตามเรา
นำ NPC ที่คุณต้องการกลับมายังโลงศพข้ารับใช้ Servant Coffin และเปลี่ยน NPC ดังกล่าวให้เป็นแวมไพร์ทาสของเรา
หลังจากนั้นเมื่อคุณสร้างบัลลังก์ขึ้นมาได้ในปราสาทคุณจะสามารถขึ้นนั่งบนบัลลังก์เพื่อสั่งการส่งลูกน้องของคุณออกไปหาทรัพยากรในเขตที่คุณต้องการ
จำไว้ว่า NPC ที่ถูกจับมาจะได้ค่าโบนัส Gear Level ตามความแข็งแกร่งของ % ของเลือดและ Item ที่คุณมอบให้พวกมันสวมใส่ ยิ่งไปกว่านั้น NPC แต่ละตัวจะมีโบนัสพิเศษตามอาชีพและถิ่นที่มาทำให้สามารถหาของในที่อยู่ของตัวเองและสถานที่ที่เชี่ยวชาญได้ดียิ่งขึ้น (ดังนั้นว่ากันตามความจริงแล้ว NPC ในช่วงท้ายเกมก็จะมีประโยชน์มากกว่า NPC ลิ่วล้อธรรมดาจากฉาก Farben woods)
17. อย่าลืมเติม Blood Essence (โดยเฉพาะใน Server PvP)
อีกหนึ่งระบบสำคัญของฐานหรือปราสาทของเหล่าแวมไพร์ในเกมนี้ก็คือระบบที่มีชื่อว่า Decay กล่าวโดยสรุปก็คือปราสาทที่ไม่มีการเติมเอาเลือดพลังงาน Blood Essence ใส่เข้าไปในหัวใจของปราสาท ตัวปราสาทหลังดังกล่าวก็จะไม่ได้รับการป้องกันจากการโจมตีนอกช่วงเวลา Siege ประจำ Server
นอกจากจะไร้พลังงานในการทำงานและป้องกันปราสาทโดยรวมแล้ว ปราสาทที่ติดสถานะ Decay ยังสามารถถูกทำลายลงได้ทันทีหากแวมไพร์จาก Clan อื่นเข้าถึงหัวใจของปราสาทได้
ซึ่งโดยปกติแล้วการจะทำลายปราสาททิ้งจำเป็นจะต้อง Craft เอากุญแจมาใช้ไขในการโจมตีหัวใจของปราสาท ดังนั้นใน Server แบบ PvP คุณจำเป็นต้องมั่นตรวจดูให้แน่ใจว่ามี Blood Essence เพียงพอต่อการดูแลปราสาทของเราไว้ล่วงหน้า
18. เก็บเหรียญเงินไปใช้กับพ่อค้า หรือปล้นพ่อค้าเอาเหรียญเงิน
ในระหว่างการเล่นไปได้สักพัก คุณจะได้พบกับ Item ที่มีชื่อว่า Silver Coin ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับคุณได้หากหยิบขึ้นมาถือ (คุณสามารถลบล้างความเสียหายดังกล่าวได้เมื่อพัฒนาระดับ Gear ไปได้สักระยะหรือใช้น้ำยาต้านเงิน)
เหรียญเงินดังกล่าวมีประโยชน์คือการนำไปใช้ซื้อของกับ NPC พ่อค้าที่เป็นมนุษย์ซึ่งกระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ ทั่วแผนที่ในเกมมีทั้งที่เดินไปมาตามป่า และประจำอยู่ในสลัมในเมืองเขต Brighthaven
การจะเข้าไปคุยกับพ่อค้าได้นั้นคุณจำเป็นต้องมี Skill แปลงเป็นมนุษย์ที่ได้มาจาก Boss ตัวนึงเสียก่อน
เมื่อแปลงเป็นมนุษย์และเข้าไปคุยแล้วคุณจะมีตัวเลือก Item ต่าง ๆ ที่สามารถซื้อหามาใช้งานได้ โดย NPC พ่อค้าแต่ละตัวก็จะมีสินค้าที่ขายแตกต่างกันออกไป
โดยรวมแล้วสินค้าที่มีขายก็จะเป็นพวกอัญมณี กับหมวกไว้สวมใส่ตกแต่งตัวละคร หากเป็น Item ที่มีประโยชน์ก็จะเป็นพวกระเบิดที่เราสามารถซื้อกลับมาใช้งานได้เช่นกัน และหากคุณไปพบเจอกับ NPC พ่อค้าระหว่างทางในขณะที่ไม่ได้ตั้งใจมาซื้อของคุณก็สามารถเลือกโจมตีสังหารพวกเขาเพื่อปล้นเอาเหรียญเงินมาได้เช่นกัน
19. ปลูกพืชผักดอกไม้ไว้ในบ้าน
Seed หรือเมล็ดพืชเป็น Item ที่จะทำให้คุณสามารถปลูกพืชชนิดต่าง ๆ ไว้ในฐานของตัวเองได้ตามต้องการ สิ่งนี้จะช่วยประหยัดเวลาเป็นอย่างมากในการเก็บเกี่ยว Item สำคัญ ๆ ที่ต้องใช้งานอยู่ตลอดเช่น Blood Rose
คุณสามารถได้รับ Seed ได้หลากหลายวิธี ทั้งการเก็บเกี่ยวพืชผลชนิดนั้น ๆ แล้วได้สุ่มหล่นออกมา
แต่วิธีที่รวดเร็วที่สุดมีอยู่สองทาง ทางแรกคือการไล่สังหารศัตรูประเภทต้นไม้ยักษ์หรือเหล่า Treant ซึ่งจะเกิดอยู่ในแผนที่ด่าน Farben woods โดยปกติแล้ว Treant จะสุ่ม Drop Seed ของต้นไม้ต่าง ๆ ให้เราหลังถูกสังหาร
อีกวิธีคือการเรียกหนูยักษ์ Giant Rat ใน Vermin Nest ออกมาสังหาร เจ้าหนูพวกนี้ Drop ทั้งหนัง Hide และสุ่ม Drop เมล็ด Seed ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในช่วงต้นของเกมสำหรับตามหาทั้ง Hide และ Seed มาไว้ใช้งาน
20. ใช้ระบบ AI ที่แบ่งฝ่ายของเกมให้เป็นประโยชน์
NPC ภายในเกมนี้มีระบบ Faction ทำให้พวกมันมีการต่อสู้กันเอง เมื่อเดินมาเจอครั้ง หมีและหมาป่าจะต่อสู้กับเหล่าโจรและนักล่าสัตว์ อสูรกายและ Undead พร้อมสังหารมนุษย์ NPC ที่เดินมาใกล้
คุณสามารถใช้ประโยชน์กับระบบนี้ได้หลากหลายวิธี ทั้งการลากฝูง NPC ให้มาสู้กันเบาแรงเรา (ยกตัวอย่างเช่นในร่างหมาป่านั้น หมาป่า NPC จะไม่ทำร้ายเรา)
หรือแม้แต่ในการต่อสู้กับ Boss บางตัวคุณก็สามารถใช้ประโยชน์จากระบบนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่น Boss อย่าง Meredith the Bright Archer ศัตรูระดับ 52 ที่เดินไปมาในเหมืองแร่เหล็ก โดยภายในเหมืองนั้นจะมีศัตรูตัวโหดอีกตัวอย่าง Undead Commander ซึ่งทั้งสองจะเข้าต่อสู้กันเองหากเดินมาเจอกันดังนั้นคุณสามารถเป็นมือที่สามเข้าไปฉวยโอกาสในการต่อสู้ครั้งนี้ได้
