11 มีนาคม 2022 – ห่างหายไปนานกับช่วง เสาร์-อาทิตย์นี้ เล่นเกมอะไรดี บังเอิญมากกับที่สัปดาห์นี้มีเกมอยู่หนึ่งเกม ที่เปิดตัวได้สวยงามมาก ทั้งที่มันเป็นเกมอินดี้ เกมนั้นคือ Core Keeper ผลงานของสตูดิโอ Pugstorm ที่ขายดิบขายดี จนทำยอดขายทะลุ 100,000 ชุด ในเวลาเพียง 2 วันเท่านั้นหลังวางจำหน่าย แน่นอนว่าผู้เขียนเองก็แทบจะกลายเป็นหมีแพนด้า เพราะติดเกมนี้อย่างหนัก แล้วมันมีดีอะไร วันนี้อยากจะมาเล่าให้ฟัง เผื่อว่าคุณจะได้ผลาญเวลาทั้งเสาร์และอาทิตย์ไปกับเกมนี้
Survival + Online Multiplayer แนวเกมที่หลายคนยังคงชื่นชอบ
พูดถึงแนวเกมสำหรับคนรวยเพื่อน และมีเพื่อนเล่นเกมเยอะ ๆ แนวเกม Survival น่าจะเป็นหนึ่งในนั้น และก่อนหน้านี้ แนวเกมนี้ก็เป็นที่นิยมอย่างมากมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และยังคงมีเกมใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ เพียงแต่ปัญหาของเกมแนวนี้คือ ถ้าการออกแบบเกมเพลย์มันไม่สนุก เกมก็จะตีตลาดและเป็นที่รู้จักได้ยากมาก อีกทั้งเกมแนวนี้ทำง่าย ขายง่าย แค่คอนเซปต์ดีก็วางขายแบบ Early Access ได้แล้ว บางเกมทำแบบนี้จนผู้เล่นเอือมระอา และเริ่มเบื่อเกมแนวนี้กันไป
แต่ Core Keeper ยังคงมาด้วยคอนเซปต์เกมแนวนี้ แต่กลับใส่คอนเทนต์แบบอัดแน่นเพื่อรองรับผู้เล่นจำนวนสูงสุดอย่าง 8 คนได้ดีกว่ามาก และเกมยังใส่เนื้อเรื่องแบบแฟนตาซีเข้ามา โดยให้ผู้เล่นจัดการกับเหล่ามอนสเตอร์ในถ้ำใต้ดิน เพื่อปลดล็อคสิ่งของใหม่ ๆ และขยายขอบเขตตัวเกมไปให้ไกลมากยิ่งขึ้น ด้วยการใส่สิ่งของต่าง ๆ เข้ามามากมาย และยังผสมผสานกับความเป็นเกม Action RPG มีการอัปเลเวล อัปสกิล ใส่ของใหม่ได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว
ภาพสวยอาจไม่จำเป็นเท่าคอนเทนต์เกมที่ดี
จริงอยู่ว่ากราฟิกเป็นส่วนสำคัญ แต่หากคอนเทนต์เกมมันกลวงนั่นก็อาจไม่ใช่เรื่องดี ซึ่งเกมแนว Survival หลายเกมก็ติดปัญหานี้ด้วยกันทั้งนั้น แต่กับ Core Keeper เลือกที่จะนำเสนอกราฟิกเกมเป็นแบบ Pixel 8Bit แต่ยังคงสวยงามเอาไว้ (นึกภาพคล้าย ๆ Stardew Valley) และเลือกที่จะจัดเต็มกับระบบเกมแทน แม้จะเป็นช่วง Early Access ที่คอนเทนต์ของเกมยังไม่สมบูรณ์ แต่เกมนี้มีอะไรให้คุณทำอย่างน้อยก็ 20-30 ชั่วโมงขึ้นไป เทียบกับราคา 197 บาท (โปรโมชั่นเปิดตัว) ถือว่าคุ้มค่า
รูปแบบการเล่นของเกมนี้จะผสมผสานเกมการเล่นทั้ง Action RPG / Survival เอาตัวรอด / Base Building สร้างฐาน สร้างสิ่งอำนวยความสะดวก แม้ว่าตัวเกมจะบอกว่าเล่นคนเดียวได้ แต่เอาเข้าจริงแล้วก็ถือว่าลำบากพอสมควรเลยทีเดียว เพราะเกมยังใส่ระบบความหิวของตัวละครที่ต้องกินอาหารเข้ามา และมันมีส่วนกับเกมเพลย์การเล่นด้วย ถ้าปล่อยให้ตัวละครหิวเกิน ค่าสถานะจะลดต่ำลง เช่นตีเบาลง พลังชีวิตสูงสุดลดลง เป็นต้น รวมไปถึงการปรุงอาหารทานก็จะให้บัฟ พลังโจมตี พลังป้องกันอีกมากมาย ที่เหมาะกับการเอาไว้ต่อสู้กับศัตรูและบอส เกมยังมี Biome หรือพื้นที่ที่หลากหลาย ยิ่งเราปลดล็อคพื้นที่ใหม่ ๆ ก็จะเจอวัตถุดิบใหม่ ๆ นำมาคราฟท์ของที่ดีมากขึ้นได้ ตามสเตปของเกมเอาตัวรอดทั่วไป และเกมนี้ยังขยับขยายไปสร้างสิ่งของที่มีเทคโนโลยีสูงมากขึ้น เช่นระบบอัตโนมัติ สว่านขุดแบบออโต้ รวมไปถึงเครื่องจักรไฟฟ้าต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเล่นให้มากขึ้นได้
สไตล์การเล่นส่วนใหญ่จะคล้ายกับเกม Minecraft ผู้เล่นจะต้องขุด ขุด ขุด และขุดไปเรื่อย ๆ ในระหว่างการขุดจะมีโอกาสพบเจอกับแร่ต่าง ๆ ซึ่งแร่เหล่านี้สามารถนำกลับมาแปรรูปให้เป็นวัตถุดิบ เพื่อนำไปสร้างเป็นอาวุธ ชุดเกราะ และสิ่งต่าง ๆ ได้อีกมากมาย และด้วยคอนเทนต์ที่ลึกมาก เล่นคนเดียวก็ใช้เวลานาน เล่นหลายคนก็ช่วยร่นเวลาได้ แต่ก็ยังนานอยู่ดี นี่อาจจะเป็นสิ่งที่จำเป็นที่เกมสักเกมควรมีก็ได้
กระแสปากต่อปาก และยอดผู้เล่นที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ
Core Keeper นั้น เริ่มโด่งดังมาจากตอนที่เกมเปิดให้เล่นแบบ Demo ในช่วง Steam Next Fest เกมมียอดดาวน์โหลดเข้าไปทดลองเล่นกว่า 130,000 คน และยอดนี้ก็ตามมาที่เกมจริงด้วย ซึ่งเกิดจากการออกแบบระบบเกมเพลย์การเล่นที่สนุกมาก และผู้เล่นจำเป็นต้องชวนเพื่อนมาเล่นด้วยถึงจะสัมผัสอรรถรสเกมได้เต็มที่ อิงกับราคาของ Steam โซนประเทศไทย ที่ราคาค่อนข้างถูกมาก ทำให้เกมนี้ได้รับกระแสตอบที่ดีเป็นอย่างมาก ซึ่งที่เหลืออยู่ต่อจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับทีมงานแล้วว่าจะขยันอัปเดทมากน้อยแค่ไหน รักษาฐานผู้เล่นไว้ได้หรือไม่ และหากคุณกำลัง
