บทสัมภาษณ์ผู้ออกแบบฉากใน The Witcher 3

บทสัมภาษณ์ฉบับเต็มกับ Miles Tost ผู้ออกแบบฉากในเกม The Witcher 3:Wild Hunt

The Witcher 3: Wild Hunt เกมที่สาวกแนว RPG พลาดไม่ได้โดยตัวเกมกำลังจะออกวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้านี้ซึ่งทางทีมพัฒนา CD PROJEKT RED ก็ไม่พลาดที่จะมายั่วแฟนเกมด้วยการส่ง Miles Tost หนึ่งในทีมงานผู้ออกแบบฉากในเกมไปให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ต่างประเทศอย่าง gameplane.de ซึ่งทาง GamingDose.com ก็ไม่พลาดที่จะหยิบมานำเสนอให้เกมเมอร์ชาวไทยได้อ่านถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกมที่น่าจับตามองในช่วงต้นปีหน้านี้ครับ

ครั้งนี้ดูเหมือนว่าตัวเกมแบบ Collector’s Edition จะดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น มันใช้เวลานานมั้ยในการตัดสินใจว่าจะนำอะไรมาใส่ให้กับเกมเวอร์ชั่นนี้และใครบ้างที่มีส่วนในการตัดสินใจ ?

โอ้ ขั้นตอนนี้เป็นอะไรที่ยุ่งยากและใช้เวลานานมากเลยล่ะ อย่างแรกเลยคือทาง CD PROJEKT RED พยายามที่จะกำหนดขอบเขตของมันไม่ให้เกินเลยจนดูไม่เหมาะสม ตัวเกมในแบบ Standard Edition นั้นก็มีเนื้อหาที่มากเพียงพอที่จะเป็นเวอร์ชั่นพิเศษของเกมอื่นๆแล้วล่ะ แต่ใน Collector’s Edition นั้นเราได้เค้นมันสมองและสองมือมาเลยว่าในกล่องใหญ่ยักษ์ที่จะใส่เกมลงไปนั้นเราจะทำอะไรกับมันได้บ้าง  มันมีลายเซ็นของทีมพัฒนาทุกคนใส่ลงไปในนั้น  มีหุ่นตัว Geralt ขี่ตัวกริฟฟินซึ่งมันใช้เวลานานมากในการเตรียมตัว นอกจากนี้ยังมีภาพและเบื้องหลังต่างๆก่อนที่จะมาเป็นเกมตัวเต็ม อีกอย่างนะหุ่นที่แถมไปในกล่องนั่นเป็นหุ่นที่ถูกปั้นและแกะออกมาจริงๆ เราไม่ได้ใช้เครื่องพิมพ์สามมิติสร้างมันหรอกนะ

อะไรคือความท้าทายที่ยากที่สุดในขั้นตอนการสร้าง The Witcher 3:Wild Hunt ?

มันเป็นเรื่องยากที่ผมจะต้องตอบคำถามนี้เพราะว่าในแต่ละขั้นตอนมันก็มีความยากในแบบของมันเอง  แต่โดยทั่วไปแล้วผมมองว่าขั้นตอนในการพิจารณาส่วนต่างๆของเกมคือส่วนที่ยากที่สุด และการเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆต่างๆนั้นมันก็ยากไม่แพ้กัน ผมหมายถึงว่าเกมนี้เป็นเกมที่มีขนาดใหญ่มากดังนั้นเราจึงต้องมองมันทั้งภาพกว้างๆและลงลึกไปถึงทุกรายละเอียด

พูดถึงสถานที่ต่างๆภายในเกมซึ่งเป็นส่วนที่ผมดูแลเป็นพิเศษ ผมคิดว่าในภาคนี้ผู้เล่นจะได้รู้สึกกับความสดใหม่ของสถานที่ต่างๆแต่มันก็ยังดูเป็นสถานที่ที่น่าจะมีอยู่จริงได้บ้างตามแบบฉบับของ The Witcher และด้วยความใหญ่ของตัวเกมหากเราทำอะไรไม่ดีลงไปนั่นก็อาจทำให้องค์ประกอบอื่นๆพังทลายลงมาและทำให้เกมดูไม่น่าสนุกได้  อย่างไรก็ตามผมขอขอบคุณทีมฝ่ายสร้างสรรค์ที่มีความสามารถมากๆ   ผมเชื่อว่าเกมมันจะออกมาดีและเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้รู้สึกสนุกไปกับการค้นหาสิ่งต่างๆในโลกของเกม

มันเป็นเรื่องยากขนาดไหนที่คุณจะเติมเต็มโลกใบใหญ่ให้ดูน่าสนใจและดูมีเหตุมีผล ?

อย่างที่ผมได้บอกไปในคำถามก่อนหน้านี้ว่าการสร้างฉากต่างๆล้วนเป็นความท้าทายของเกม  เราขยายขนาดทีมในการสร้าง Quest ต่างๆภายในเกมเกือบเป็นสองเท่าของภาคก่อนหน้า  หากว่าเราจะสร้างสถานที่ขึ้นมาในเกมมันก็จะต้องดูมีเนื้อหาและมีเหตุมีผลเข้ากับตัวเกมด้วย  เมื่อคุณได้ลองเล่นเกมนี้ดูคุณจะสัมผัสได้ว่าทุกอย่างมันเชื่อมต่อกัน  เรากำลังพูดถึงความสำคัญในการเลือกเส้นทางต่างๆในการผจญภัยของ Geralt   การตัดสินใจต่างๆจะแสดงให้เห็นถึงสถานที่ของโลกและเหตุการณ์ที่แตกต่างกันไปทั้งสิ่งที่คุณจะได้สัมผัสและสิ่งที่ตัว Geralt จะเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน   ยกตัวอย่างเช่นการตัดสินใจของคุณจะไม่ได้มีผลต่อตัวละครอื่นๆเท่านั้น แต่อาจจะมีผลต่อฉากนั้นทั้งฉากเลยก็เป็นได้

เอาล่ะ ตอนนี้กลับมาที่คำถามของคุณก่อน  การที่โลกในเกมมันขยายใหญ่ขึ้นนั่นหมายความว่าเราสามารถสร้างรัฐแต่ละส่วนๆให้แตกต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิงได้ซึ่งมันก็จะมีเรื่องราวในรูปแบบของมันเองซึ่งมันเป็นการดีที่ให้เราได้เติมแต่งสิ่งที่น่าสนใจแต่แตกต่างกันลงไปในเกมเดียวกันได้  แต่ในขณะเดียวกันนั่นก็เป็นความท้าทายครั้งใหญ่และเป็นงานหนักสำหรับทีมงานที่จะต้องทำโลกของเกมให้ใหญ่และน่าสนใจมากพอ

ผู้เล่นจะต้องใช้เวลามากแค่ไหนในการตะลุยโลกของคุณ ? กี่ชั่วโมงหรือหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ?

มันใช้เวลาไม่ถึงวันหรือสัปดาห์หรอก เพราะเอาเข้าจริงเกม MMO มันก็ไม่ได้ใช้เวลาเยอะขนาดนั้น อันที่จริงผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะผมก็ไม่เคยลองตะลุยแล้วนับเวลา  เอาเป็นว่าการที่คุณจะผ่านจุดๆหนึ่งไปได้นั้นคุณต้องใช้เวลากับมันพอสมควร หากคุณเอาแต่รีบมุ่งตะลุยไปโดยปราศจากการเตรียมพร้อมนั่นก็อาจทำให้คุณได้พบกับปัญหามากมาย   ในภาคนี้แผนที่ใหญ่กว่าในภาคก่อนหน้าถึง 35 เท่า  เป้าหมายของเราคือการสร้างเกมที่ผู้เล่นจะต้องใช้เวลา 100 ชั่วโมงในการเล่นมันโดย 50 ชั่วโมงเป็นเฉพาะในส่วนของภารกิจเสริม  และถ้าหากนั่นไม่มากพอก็ขอแนะนำให้เล่นใหม่แล้วลองดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณได้เปลี่ยนตัวเลือกภายในเกมอีกครั้ง

มันจะมี Quest โบราณๆแบบ “ไปเอาของนั่นมาที” “ไปบอกคนนี้ให้หน่อย” มั้ย ?

แน่นอนว่ามันต้องมี แต่เราก็พยายามที่จะทำให้มันดูมีอะไรมากขึ้น มันจะไม่ใช่แค่ไปฆ่าตัวนั้น 10 ที เก็บไอ้นี่ 5 ครั้ง และคุณสามารถไม่ทำมันได้ แต่คุณก็ต้องรับผลที่จะตามมาด้วยเช่นกัน

ใครคือตัวละครที่คุณชอบมากที่สุดและภารกิจไหนที่คุณชอบมากที่สุด ?

ผมไม่สามารถบอกเนื้อหาภายในเกมได้เพราะมันจะเป็นตัวละครใหม่ล่าสุดที่เรายังไม่ได้เปิดเผย ลองถามผมอีกทีหลังจากเกมวางจำหน่ายละกันนะ

เกมเมอร์แบบไหนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของ The Witcher 3 ? มันจะดึงดูดผู้เล่นที่ไม่ชื่นชอบแนว RPG บ้างมั้ย ? 

ผมว่า The Witcher 3: Wild Hunt นั้นเป็นเกมที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบแฟนตาซีแบบมืดหม่นหน่อย มันไม่ใช่นิยายแฟนตาซีที่มีธรรมะกับอธรรมลงมาสู้กันบนโลก ดังนั้นคุณจะต้องชื่นชอบอะไรที่มันป่าเถื่อนรุนแรงซักหน่อย  ดังนั้นเรื่องราวในเกมนี้มันจะไม่ได้เป็นไปตามที่คุณต้องการ มันมีความลุ่มลึกในโลกของเกมที่มีรายละเอียดมากมายแต่เกมการเล่นมันก็ยังน่าสนใจไม่น้อยเช่นระบบการต่อสู้  เราพยายามที่จะให้การต่อสู้ภายในเกมนั้นเป็นเรื่องง่ายแต่ก็ยังคงความเป็น Tactic ไว้บ้าง

ว่ากันตามตรงฉากจบใน The Witcher 2 นั้นก็ค่อนข้างทำให้แฟนเกมต้องหัวเสียอยู่บ้างเมื่อเทียบกับเนื้อหาส่วนอื่นในเกม  ในภาคนี้จะมีฉากจบที่ยิ่งใหญ่คุ้มค่ากับการรอคอยมั้ย ?

ใช่ เราตั้งใจที่จะให้มันจบภาคนี้ด้วยความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ แต่อย่างไรก็ดีผมไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้ แต่ผมช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะไม่ผิดหวังกับฉากจบในภาคนี้อย่างแน่นอน

ภาพกราฟฟิกในแต่ละแพลตฟอร์มจะมีความแตกต่างกันอย่างไร ?

เราตั้งใจที่จะนำเสนอประสบการณ์ที่เหมือนกันในแต่ละแพลตฟอร์มทั้งในเรื่องของ Resolution และ Frame rate เรายังอยู่ในช่วงการปรับแต่งตัวเกมให้สมบูรณ์ที่สุด ดังนั้นมันบอกไม่ได้ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงแต่เราก็พยายามกันอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามข้อมูลจะถูกเปิดเผยออกมาเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

The Witcher 3: Wild Hunt มีกำหนดการวางจำหน่ายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ปีหน้า