เกมน้องเล็กสุดของค่าย วันเวลาผันผ่านไปเร็วราวกะพริบตาก็มีอายุครบ 1 ขวบปีแล้ว สำหรับน้องใหม่ล่าสุดจาก HoYoverse อย่าง Zenless Zone Zero ไม่น่าเชื่อว่าตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมา ณ ตอนนี้ นี่คือเกม Action RPG จากค่ายที่ผมเอ็นจอยกับมันที่สุดแล้ว และความสนุกของมันก็ยังคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามเนื้อหาของเกมที่กำลังดำเนินไป ตลอด 1 ปีที่ผ่านมานี้ Zenless Zone Zero น่าจะเป็นหนึ่งในความทรงจำดี ๆ ของใครหลายคน เราเลยขอใช้โอกาสนี้ เรียบเรียงความทรงจำตลอด 1 ปีที่ผ่านมากัน
เรื่องราวของโลกที่ล่มสลายภายใต้ความสดใส
ถ้าเป็นคนเล่นเกมทั่วไป มองเข้ามาก็น่าจะมีอาการเอียงคอแถมงงเล็กน้อย เพราะฉากหน้า ปกเกม ตัวอย่าง หรือแม้กระทั่ง PV Trailer ต่าง ๆ ถ้าไม่ตามอ่าน ตามเสพเนื้อหา คงไม่มีใครรู้เลยว่า นี่คือสภาพและบรรยากาศของเกมที่โดนสิ่งที่เรียกว่า ภัยพิบัติ Hollow ทำลายล้างทุกอย่างจนสูญสิ้น
แต่สาเหตุที่ทั้งตัวผม หรือผู้เล่นบางคน อาจจะอินกว่าทุกเกมที่ผ่านมาของผลงานเกมค่ายนี้ก็คือ การที่ Setting และฉากหลังของมัน อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่า
ในขณะ Honkai Impact 3 สเกลเนื้อเรื่องข้ามขอบจักรวาล Genshin Impact ก็เป็นแฟนตาซีผจญภัยในดินแดนอันกว้างใหญ่ หรือ Honkai: Star Rail ที่ตอนนี้ก็กำลังขยายสเกลใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ ตามรุ่นพี่ไป
ถึงแม้ Zenless Zone Zero จะมีความเป็นแฟนตาซีเข้ามา เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตปริศนา และภัยพิบัติ Hollow แต่ฉากหลังของมันก็คือเมืองธรรมดา ๆ มีผู้คนใช้ชีวิต มีห้างสรรพสินค้า โรงหนัง ร้านชาบูหม้อไฟ และร้านค้าอื่น ๆ ทำให้เรารู้สึกว่ามันอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่า
รวมไปถึงตัวละครต่าง ๆ ก็จะมีบ้าง ที่ชีวิตใกล้เคียงกับความเป็นจริง เช่นองค์กรตำรวจ PUBSEC หรือศิลปินไอดอล ถึงแม้ว่าใน Season 2 ของตัวเกมจะเริ่มแฟนตาซีจัดด้วยการเพิ่มสำนักฝึกยุทธ์เข้ามาบ้างแล้ว
ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่ผู้สร้างเน้นย้ำมาเสมอก็คือ แม้จะดูสดใส และมีมุกตลกโปกฮากันทุกแพทช์ แต่นี่คือโลกที่ล่มสลาย และทุกตัวละครในเกมนี้ล้วนผ่านการสูญเสียมาไม่มากก็น้อย
เราสามารถดูได้จาก PV Trailer ของตัวละครต่าง ๆ ว่าแต่ละตัวสูญเสียกันมามากเท่าไรแล้ว (Burnice กับ Ju Fufu และ Zhu Yuan ตอนนี้ยังไม่นับ) หรือแม้กระทั่งเรื่องราวของเหล่าตัวละครเสริม NPC ต่าง ๆ ที่มาช่วยเพิ่มสีสันให้กับตลอด 1 ปีที่ผ่านมา
แต่ก็ใช่ว่าตัวเกมจะลืมว่าเรื่องราวมันกำลังดำเนินไปในทิศทางไหน ในปัจจุบันตัวเกมเข้าสู่ Season 2 และเดินทางสู่คาบสมุทร Waifei ที่ยิ่งเดินหน้าเรื่องราวให้เข้มข้นและน่าติดตามมากยิ่งขึ้น และเนื้อเรื่องของ Zenless Zone Zero ยังน่าจะอีกยาวไกลกว่าจะถึงจุดพีค
เพียงแต่ในหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ ความสนุกของมันแทบไม่ลดดรอป หรือดูน่าเบื่อเลย ทุกการดำเนินเรื่องราว มีส่วนสำคัญอยู่เสมอ และมีหลายฉาก หลายอย่างที่น่าตราตรึง ไม่ว่าจะเป็นฉาก Come Alive ของ Miyabi, ภารกิจปรับเทียบเป็นศูนย์ของตัวละคร Trigger หรือฉากคัทซีนเด่น ๆ อีกมากมาย Zenless Zone Zero ได้ฝากหลากหลายความทรงจำกับเราไว้มากมายจริง ๆ
โหมดทีวีที่หายไป ประเด็นใหญ่ของผู้เล่นสองฝั่ง
ท่ามกลางความสนุกของเนื้อหา ระบบเกมเพลย์เองก็เป็นหัวใจหลักที่มันจะต้องยอดเยี่ยมพอจะมัดคนเล่นให้อยู่หมัด Zenless Zone Zero ก็ได้ทั้งพัฒนาและเก็บเอาฟีดแบคจากเหล่าผู้เล่นไปปรับปรุงเสมอ แต่สิ่งที่ทำให้เสียงของผู้เล่นแตกออกเป็นสองฝั่งเมื่อตอนที่มันถูกปรับเปลี่ยน คือการนำเอาโหมด TV ออกไปจากการดำเนินเรื่องราว
สำหรับใครที่มาไม่ทันในช่วง 2-3 เดือนแรก ๆ ของเกมนี้ ขอเล่าให้ฟังแบบนี้ว่า ตัวเอกของเรามีอาชีพ Proxy รับงานว่าจ้างจากผู้คนบนโซเชียลให้ทำเรื่องต่าง ๆ สุดอันตรายในเขต Hollow แต่สองพี่น้อง Wise และ Belle สองตัวเอกหลัก มีความสามารถในการประสานจิตกับเจ้าหุ่นตัวน้อยอย่าง Bangboo ได้โดยตรง
ทำให้สามารถพูดคุยและติดต่อสื่อสารกับผู้ว่าจ้างภายใน Hollow ได้แบบเรียลไทม์ นี่คือเทคโนโลยีที่ล้ำเลิศชนิดที่ว่าหลายตัวละครมองว่า ถ้าเอาความสามารถนี้ไปหางานสุจริตหรือร่วมกับพวกองค์กรรัฐบาล ก็น่าจะร่ำรวยจนมีกินมีใช้ไม่หมด แต่จุดประสงค์ของสองพี่น้องนี้ไม่ใช่แบบนั้น อันนี้คือส่วนของเนื้อเรื่อง
โหมด TV ในเกมนี้ จะเป็นเหมือนกับมินิเกมที่เราจำเป็นจะต้องเล่น เพราะมันถูกใช้แทนความหมายของการที่สองตัวเอก Phaethon จะทำการจูนตัวเองเข้ากับเจ้า Bangboo และเข้าไปอยู่ใน Hollow ทั้ง ๆ ที่ตัวตนจริง ๆ ของ Phaethon นั้น นั่งอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ในร้านเช่าวิดีโอ Random Play
เราจะต้องควบคุมการเดินไปทีละช่อง ๆ และหากในด่านไหนมีอุปสรรคก็จะเป็นหน้าที่ของเหล่า Agent (คำเรียกตัวละคร) ให้ต่อสู้แทน ส่วนเราก็วิ่งดุ๊กดิ๊ก ๆ อยู่ในฉากนั่นแหละ
ปัญหามันเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นที่ค่อนข้างเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว ออกมาสาปส่งระบบนี้ว่าน่าเบื่อมาก และขัดอารมณ์ช่วงเกมเพลย์และการเสพเนื้อเรื่องเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะออกมาพูดผ่านทาง Official Community หรือส่งฟีดแบคไป
ผลสุดท้าย ด้วยความที่ทางผู้พัฒนาก็ยอมตามใจผู้เล่น โหมด TV จึงค่อย ๆ ถูกลดลง จนปัจจุบันนั้นไม่เหลือแล้ว และมีการ Rework เกมเพลย์ในช่วงแรกใหม่ ให้กลายเป็นตัวเรานี่แหละที่บังคับเจ้า Bangboo ไปตรง ๆ เลยในช่วงภารกิจเนื้อเรื่อง
แต่แทนที่จะแฮปปี้กันทั้งสองฝ่าย คราวนี้ฝ่ายที่ชอบก็ออกมาบ่นบ้างว่ามันทำให้ตัวเกมสูญเสียเอกลักษณ์ของตัวเองไป ผมเป็นผู้พัฒนา เจอแบบนี้เข้าไปก็คงเอาใจไม่ถูกเหมือนกัน
แต่เอาเป็นว่าในแนวทางและเนื้อเรื่องปัจจุบันนั้น แทบไม่มีโหมด TV ให้เห็นแล้ว และเนื้อเรื่องก็เหมือนจะมีการปรับปรุงให้สองพี่น้องเข้าไปลุยในพื้นที่ Hollow ได้ด้วยตัวเอง
แต่ใครที่กลัวว่าเจ้า Bangboo ตัวน้อยจะบทน้อยลงก็ไม่ต้องห่วง เพราะทีมงานยืนยันว่า มันจะยังคงมีบทบาทเหมือนเดิม อย่างช่วงเวลาที่ผมทำเนื้อหานี้อยู่ มันยังไปขับหุ่นต่อยกับศัตรูอยู่เลย
อ้างอิงจากคำพูดตอนไลฟ์สตรีม ทีมพัฒนาก็เคยบอกกับปากตัวเองว่า มันจะไม่ใช่การเอาออกไปเลยแบบถาวร แต่ดูเหมือนพวกเขาจะต้องคิดใหม่ ทำใหม่กับระบบนี้อีกครั้ง และหาทางเอากลับมา ในเวอร์ชันที่ถูกใจคนเล่นที่สุด แต่กว่าจะถึงตอนนั้น มันจะอีกนานแค่ไหน จะออกมาเป็นยังไง แล้วจะส่งผลกระทบอะไรกับเนื้อเรื่องหรือไม่ ก็ต้องรอดูกันไปยาว ๆ
เกมเพลย์สุดเดือด และกิจกรรมสุดปั่น
ความสนุกหลัก ๆ ของ Zenless Zone Zero คือระบบการต่อสู้ที่ยังคงยืนพื้นฐานด้วยรูปแบบการสลับ 3 ตัวละคร แต่ประเภทและธาตุของตัวละครในเกมนี้จะแตกต่างไปจากเกมอื่น ๆ แม้ตัวละครสาย DPS จะมี 2 ประเภท
แต่ในช่วง 1 ปีมานี้ สายธาตุผิดปกติหรือ Anomaly จะได้รับความนิยมมากกว่าสาย Pure DPS อย่างโจมตีรุนแรง นั่นเพราะสาย Anomaly มีความสามารถในการเบิร์สดาเมจขั้นมหาศาล และไม่ต้องพึ่งสาย Stun ในการเพิ่มตัวคูณดาเมจด้วย แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยปริมาณคอนเทนต์ที่เยอะ และจัดเต็ม ทำให้ท้ายที่สุดแล้วเราก็ต้องจัดทีมตัวละครให้มีความหลากหลายและฝึกเล่นและควบคุมตัวละครนั้น ๆ ให้คล่องมือ
ความสนุกของระบบการต่อสู้ คือความเป็น Action High Speed ที่มีความเร็วสูงลิ่ว มาพร้อมกับระบบ Perfect Dodge และการ Parry และระบบการโจมตีต่อเนื่องหรือ Chain Attack ผสมผสานเข้ากับระบบการกดสกิลทั้งแบบปกติและแบบพิเศษ
ทำให้กลยุทธ์ในการต่อสู้ของเกมนี้ไม่ค่อยตายตัว ขึ้นอยู่กับทีมที่ใช้ ในกรณี Endgame Content ที่ใช้เวลาเข้ามาเป็นตัวตัดสินก็อาจจะต้องพึ่งความสามารถของตัวละครตามหน้าตู้ ณ ปัจจุบัน แต่ถ้าใครปั้นตัวเก่ง ๆ คอมโบดี ๆ จัดทีมอุดจุดอ่อน ส่วนนี้ก็สามารถถูกแก้ไขได้ด้วยฝีมือของผู้เล่นเองเช่นกัน เพียงแต่ถ้าไปเล่นตัวตามหน้าตู้ ความสบายอาจจะทำให้เราเคยชินจนอยากตามเปิดมันทุกตู้ก็เป็นได้
และระบบอันเป็นเอกลักษณ์ที่ถึงแม้เราจะเกลียด แต่ก็ยังต้องพบเจอ และใช้ชีวิตกับมันต่อไป สำหรับ Genshin Impact มันคือ Artifact กับ Honkai: Star Rail คือ Relics และเกมนี้ก็คือ Disc Drive แผ่นซีดีทั้ง 6 แผ่น ที่ต้องใส่แบบคอมโบเซ็ทเพื่อเอาสเตตัส เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัวละครแกร่งขึ้น เคยทรมานกับเกมพี่มายังไง ก็ต้องทรมานกับเกมน้องต่อแบบนั้น แถมเกมนี้ผมค่อนข้างที่จะไม่ชอบที่เกมมันบังคับใส่เซ็ท 4 เซ็ท 2 ด้วย
เอาจริง ๆ Genshin Impact มันก็ใช้แบบเดียวกัน คืออาจจะใช้เซ็ท 6 หรือเซ็ท 4+2 ก็ได้ แต่ของ Zenless Zone Zero นี่ แทบทุกตัวจะใส่เซ็ท 4+2 หมดเลย บางตัวหนักกว่านั้น ถ้าอยากรีดดาเมจสุด ๆ บ้า Meta ขั้นสุด อาจจะใส่เซ็ท 2+2+2 ไปอีก แต่ว่าในการฟาร์ม 1 ด่าน มันจะมีโอกาสดรอปได้สูงสุด 2 เซ็ท บางเซ็ทอยู่แยกด่านกัน แล้วอีกเซ็ทดันเป็นเซ็ทที่เราไม่คิดจะใช้เลย
แม้เราจะสามารถนำแผ่นที่ไม่ใช้ ไปย่อยได้ที่ร้านแผ่นเสียง แต่มันก็เสียพลังงานและเพิ่มขั้นตอนโดยใช่เหตุอยู่ดี นอกจากจะต้องมานั่งลุ้นเซ็ทให้ตรงแล้ว ขั้นต่อมาก็ต้องลุ้นว่าแผ่น 4-5-6 มันจะได้ออปชันหลักตรงกับที่ต้องการไหม ได้ตรงแล้วจะตีบวกออกมาตรงไหมอีก เป็นระบบสุขปนทุกข์ที่เรายินยอมเล่นมันมาเสมอแทบจะทุกเกมในวงการเกมกาชากันเลยทีเดียว
ส่วนของเกมเพลย์ไม่มีอะไรมากไปกว่าการปั้นตัวละคร หาอาวุธที่เหมาะสมให้ถูกตัว แต่ส่วนที่บันเทิงไม่แพ้กันคือส่วนของกิจกรรม เป็นสิ่งที่คนเล่นทุกคนต้องทำ เพราะมันแจกม้วนฟิล์มสุ่มกาชาฟรี และแต่ละกิจกรรมมันก็ไม่ใช่ว่ามันจะใส่มาลวก ๆ ให้เราเข้ามารีบเล่น รีบ Skip เอาฟิล์มรุ้งกันอย่างเดียว เพราะกิจกรรมแต่ละช่วงจะถูกเขียนบท สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ บางกิจกรรมก็แอบบอกใบ้เนื้อเรื่องหรือเปิดเผยตัวละครใหม่กันล่วงหน้า เพื่อให้ผู้เล่นเตรียมตัวเตรียมฟิล์มกันให้พร้อม
ทั้งเกมเพลย์ ทั้งกิจกรรม เลยทำให้ Zenless Zone Zero เป็นเกมที่เราจะได้สนุก ผูกพัน และมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครต่าง ๆ บางกิจกรรมก็ง่ายแสนง่าย แค่ไปยืนคุยกันนิดหน่อยก็จบได้แล้ว ไม่ค่อยจะกินเวลาหนักเท่าเกมพี่ ๆ ทั้งหลาย แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เล่นมันแทบทุกเกมนั่นแหละ แค่จะอินกับ ZZZ กว่าหน่อย
ก้าวสู่ปีที่ 2 ของ Zenless Zone Zero
แม้บทเนื้อเรื่องหลักของ Season 2 จะเริ่มมาตั้งแต่แพทช์ 2.0 และ 4 กรกฎาคมจะเป็นวันครบรอบปี แต่ที่น่าสนใจคือต่อจากนี้ เนื้อเรื่องของ Zenless Zone Zero น่าจะทวีคูณความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะการตื่นขึ้นของพลังปริศนาของสองตัวเอก
ในขณะที่หลายคนอาจไม่ได้ถูกใจที่ตัวเกมเลือกจะกลับมารักษา Setting บ้านเกิดอย่างแนวจีนกำลังภายในไว้ แต่ดูจากการเปิดตัวของสองคนแรก Yi Xuan และ Ju Fufu ก็เห็นได้ว่า มันเป็นแนวจีนสมัยใหม่ อาจมีสาดกำลังภายในกันบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับย้อนไปยุคโบราณ แถมมีความร่วมสมัยมากกว่าที่คิด
เนื้อหาที่เข้มข้นขึ้น ตัวละครที่มากขึ้น สังกัดฝักฝ่ายที่เยอะขึ้น ในอนาคตปีที่ 2 ที่เราจะได้กลับมาเขียนบทความนี้ อาจจะมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างมากมายเปลี่ยนแปลงไปให้เราได้พูดถึงกันอีกครั้ง แต่สำหรับวันนี้ ตอนนี้ ก็คือสุขสันต์วันเกิดครบรอบ 1 ปี Zenless Zone Zero
