BY KKMTC
2 Feb 23 6:10 pm

Heavenly Sword เกมแอ็กชันเล่นใหญ่โดย Ninja Theory ที่โลกลืม และอดมีภาคต่อ

29 Views

Ninja Theory คือทีมพัฒนาเกมจากแดนอังกฤษ ที่เกมเมอร์หลายคนอาจจะรู้จักมาจากผลงานยอดเยี่ยมอย่าง Hellblade: Senua’s Sacrifice หรือเกมที่เป็นกระแสถกเถียงจากแฟน ๆ อย่าง DmC: Devil May Cry แต่มีเกมหนึ่งที่ทีมงานพยายามเล่นใหญ่ แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ซึ่งเกมนั้นคือ Heavenly Sword เกมแอ็กชันมันหยดที่มีศักยภาพเป็นเกมเด็ดของ PlayStation แต่สุดท้าย เกมดังกล่าวไม่มีภาคต่อ และถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา

รู้จัก Heavenly Sword เกมแอ็กชันที่โลกลืมจาก Ninja Theory

Heavenly Sword (1)

Heavenly Sword คือผลงานเกมแอ็กชัน Hack and Slash ชิ้นที่แรกของค่าย Ninja Theory ที่หลังจากก่อนหน้าที่ได้วางจำหน่ายเกม Kung Fu Chaos ในปี 2002 ผ่านเกมคอนโซล Xbox แล้วมีชื่อเสียงในฐานะเป็นเกม Cult Following ซึ่งนับว่าเป็นการเดบิวต์ที่ไม่เลวสำหรับทีมพัฒนาเกมที่เพิ่งเกิดใหม่ในปี 2000

อ้างอิงจากทีมงาน Ninja Theory เกม Heavenly Sword เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2002 โดยสาเหตุหลักที่ตัวเกมลงให้เฉพาะใน PlayStation 3 เพราะ Sony มีความสนใจอยากได้เกมนี้เป็นเกม Exclusive ที่นำไปลงเฉพาะในเกมคอนโซลรุ่นถัดไป ทีมงานจึงคว้าโอกาสดังกล่าว เพื่อได้สร้างเกมแรกที่งัดความสามารถของ Ninja Theory อย่างสูงที่สุด

Heavenly Sword (3)

เป้าหมายหลักของการสร้างเกม Heavenly Sword คือต้องการมอบประสบการณ์ในการเล่นเกมที่เหมือนกำลังชมภาพยนตร์แอ็กชันสุดอลังการ ซึ่งเป็นแนวคิดที่กำลังได้รับความสนใจจากนักพัฒนาเกม เพราะตอนนั้นเครื่องมือสำหรับการสร้างเกม และความทรงพลังของฮาร์ดแวร์ ได้เอื้ออำนวยให้สามารถสร้างกับรันเกมที่มีภาพกราฟิกสามมิติแบบสมจริงได้แล้ว

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทีมงานจึงนำภาพยนตร์แอ็กชัน และผจญภัยหลายเรื่อง เช่น Crouching Tiger, Hidden Dragon and Hero, Lord of the Ring รวมถึงเกม ICO มาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบฉากคัตซีนภาพยนตร์ในเกม

Heavenly Sword (2)

หนึ่งในจุดเด่นของเกม Heavenly Sword ที่หลายคนชื่นชอบ คือระบบการต่อสู้ กับฟีเจอร์ของอาวุธดาบ Heavenly Sword ที่ผู้เล่นใช้อยู่ จะสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ 3 แบบ ระหว่าง “Speed Stance” การโจมตีที่มีความสมดุลระหว่างความเสียหาย กับความเร็ว, “Range Stance” การโจมตีระยะไกล และ “Power Stance” การโจมตีที่เน้นการสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง ซึ่งทีมงานเผยว่าระบบดังกล่าวได้แรงบันดาลใจมาจากเกมแนว Rail Shooting อย่าง Panzer Dragoon Orta ที่อาวุธปืน 1 กระบอกนั้น มีความสามารถในการโจมตีที่ค่อนข้างหลากหลาย

ส่วนการออกแบบตัวละครเอกหญิงที่มีนามว่า “Narika” ทีมงานมีเป้าหมายต้องการให้ตัวละครดูโดดเด่นมากที่สุดในฉาก พวกเขาจึงออกแบบให้เธอมีผมสีแดงร้อนแรง และมีการแต่งกายเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งดูแตกต่างจากตัวละคร NPC คนอื่นที่สวมเกราะอย่างเห็นได้ชัด

Heavenly Sword (4)

แล้วเพื่อให้คุณภาพเกมออกมาสมกับเป็นภาพยนตร์ให้ได้มากที่สุด Ninja Theory จึงจับมือร่วมกับ Weta FX ซึ่งเป็นบริษัทสร้าง Visual Effect ของ Peter Jackson รวมถึงนำนักแสดงหลายคนมาเป็น Motion Capture เพื่อให้การแสดงอารมณ์ใบหน้า และการเคลื่อนไหวของตัวละครทั้งในฉากคัตซีนกับเกมเพลย์มีความลื่นไหล สมจริง มีความเป็นธรรมชาติ โดยตัวละครหลัก Narika ได้แสดง Motion Capture โดย Anna Torv นักแสดงหญิงชาวออสเตรเลีย ที่ล่าสุดได้รับบทแสดงเป็น Tess ในทีวีซีรีส์ The Last of Us ของ HBO

สุดท้าย Heavenly Sword ได้มีการปลุกกระแสความไฮป์ ด้วยการออกฉายซีรีส์แอนิเมชันจำนวน 5 ตอนในชื่อไตเติลเดียวกัน โดยเนื้อเรื่องจะเป็นการเล่าเรื่องราวตอนปฐมบท (Prologue) หรือช่วงก่อนเนื้อหาหลักของเกม โดยแอนิเมชันเรื่องดังกล่าวสามารถดาวน์โหลดมารับชมได้ฟรีผ่านแพลตฟอร์ม PlayStation Store หรือเว็บไซต์ทางการของ PlayStation (ปัจจุบัน ไม่สามารถรับชมได้แล้ว)

Heavenly Sword (5)

ในที่สุด Heavenly Sword ก็ออกวางจำหน่ายใน PlayStation 3 ในเดือนกันยายน 2007 แล้วเกมดังกล่าวมีกระแสตอบรับเป็นอย่างไร ? ก็สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า “เป็นเกมดี” เพราะเกมดังกล่าวมีระบบการต่อสู้ที่สนุกสนาน การโจมตีมีน้ำหนัก การเล่าเนื้อเรื่องมีความเป็นภาพยนตร์ และภาพกราฟิกที่ถือว่าสวยงามในยุคนั้น

แน่นอนว่า Heavenly Sword ไม่ใช่เป็นเกมที่ Perfect ซะทีเดียว สิ่งที่ผู้เล่นหลายคนขัดใจมากที่สุดจากการเล่นเกมนี้ คือ เนื้อเรื่องเส้นตรงของ Heavenly Sword มีความยาวราว 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้ เกมดังกล่าวเป็นเกม Singleplayer แท้ 100% ที่ไม่มีโหมด Multiplayer หรือองค์ประกอบออนไลน์ จึงเป็นเกมที่เล่นจบได้ภายในวันเดียว และเล่นจบแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกลับมาเล่นใหม่อีกครั้ง

แต่ Heavenly Sword ได้เป็นกระแสในช่วงเวลาหนึ่ง ไม่ใช่เพราะเป็นเกมดีเพียงอย่างเดียว แต่ตัวละครเอกหญิงสุดเซ็กซี่อย่าง Nariko ก็ได้เป็นที่พูดถึงอย่างมากในสังคมออนไลน์ จนสื่อเกมหลายแห่งออกมากล่าวว่า Nariko เป็นหนึ่งในตัวละครหญิงที่มีเอกลักษณ์เร่าร้อนแห่งปี รวมถึงเธอได้เป็นแขกรับเชิญในเกมต่อสู้สไตล์ Super Smash Bros. อย่าง PlayStation All-Stars Battle Royale ด้วยเหตุผลดังกล่าว Heavenly Sword กับ Nariko จึงมีศักยภาพมากพอ ที่จะเป็นไม้เด็ดตัวใหม่ของ PlayStation ที่สามารถพัฒนาต่อยอดกลายเป็นแฟรนไชส์ใหญ่ได้

Heavenly Sword (7)

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตัวเกมมีบทวิจารณ์โดยรวมเป็นเกมดี และเป็นกระแสในช่วงหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่เกมดังกล่าวกลับมียอดขายไม่ปังเท่าที่ควร อ้างอิงจากคำพูดของผู้กำกับเกม และนักเขียนบท Tameem Antoniades กล่าวว่าแม้ Heavenly Sword จะทำยอดขายได้ประมาณ 1.5 ล้านชุด ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขยอดขายที่ดีสำหรับเกม Exclusive PlayStation ก็จริง แต่โดยรวมแล้ว รายได้ของเกมดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์ที่เรียกว่า “ไม่คุ้มต้นทุน” หรือหมายความว่าตัวเกมทำรายได้ไม่ตรงตามที่ทีมงานตั้งเป้าไว้นั่นเอง

ด้วยรายได้จากเกมที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง ทำให้ Ninja Theory ต้องยกเลิกการพัฒนาเกมภาค 2 และภาค 3 เพราะ Sony มองว่าเกม Heavenly Sword ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์อีกต่อไป

Heavenly Sword (6)

ส่วนปัจจุบัน เรามั่นใจว่าหลายคนอาจจะลืมเลือน หรือเพิ่งรู้จัก Heavenly Sword เป็นครั้งแรก เนื่องจากเกมดังกล่าววางจำหน่ายเฉพาะใน PlayStation 3 เท่านั้น ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เกม Heavenly Sword ยังมีกระแสที่ไม่ดีมากพอ เพราะมันมีศักยภาพกลายเป็นเกมเด็ดของ PlayStation ได้ในอนาคต

ล่าสุด เกมดังกล่าวได้เปิดให้เล่นสำหรับผู้ที่เป็นสมาชิก PlayStation Plus ระดับ Premium เท่านั้น ถ้าหากเกมเมอร์สนใจก็ไปสมัครสมาชิกแล้วเล่นกันได้เลย

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top