เกมที่โดดเด่นเหนือใคร มักจะถูกนำไอเดียเอาไปใช้ ขยายจักรวาลแนวเกมนั้น ๆ ให้เติบโตขึ้นอยู่เสมอ เห็นได้จากเกมประเภท Doom-like หรือ Souls-like ทั้งหลาย ที่ผุดมาให้แฟนเกมเล่นกันเป็นดอกเห็ด บางเกมดีบ้าง บางเกมแย่บ้าง แต่ทุก ๆ เกมล้วนทำมาเพื่อให้คนชอบเกมต้นแบบ เล่นแล้วรู้สึกสนุกในแบบที่เขาอยากสนุกเหมือน ๆ กัน
Vampire Survivors กำลังกลายเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน ด้วยเกมเพลย์ที่เรียบง่าย ใช้เพียงปุ่มควบคุมไม่กี่ปุ่มเท่านั้น แต่กลับมีความลึก มีคุณค่าในการเล่นซ้ำ สามารถวนเล่นได้หลายต่อหลายชั่วโมง แม้จะมีคอนเทนต์เพียงนิดเดียวเท่านั้น
จุดกำเนิดของ Vampire Survivors เกิดจากความว่างของ Luca “poncle” Galante ในปี 2020 เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกม Magic Survival เกมมือถือในแนวเดียวกัน ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องที่เราไม่จำเป็นจะต้องโจมตีเอง เพราะตัวละครจะโจมตีศัตรูให้อัตโนมัติ ทำให้เราทำหน้าที่เพียงแค่เดินไปเดินมาเท่านั้น
Galante ลงทุนกับเกมนี้ไปราว ๆ 1,100 ปอนด์เพื่อซื้อลิขสิทธิ์พวก assets, art, และ music มาใส่ในเกม โดยนำความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจสล็อตแมนชีน อย่างการนำสีฉูดฉาด มาใช้กับเกมนี้เพื่อเพิ่มความตื่นเต้น และแรงจูงใจในการเล่นด้วย
หลังจากตัวเกมประสบความสำเร็จ Galante ลาออกจากงาน หันมาพัฒนาเกมนี้อย่างเต็มรูปแบบ ปัจจุบันนี้ Vampire Survivors กลายเป็นเกมฮิตอีกหนึ่งเกมที่หลายคนหยิบมาเล่นอย่างไม่รู้จบ ทำรายได้ให้เขามหาศาล จนมี DLC ออกมาแล้วด้วยกัน 1 ชุด
ความสำเร็จของ Vampire Survivors ไม่ได้สิ้นสุดอยู่ที่ยอดขาย และตัวเม็ดเงิน เพราะการที่เกมนี้ดังได้ ทำให้แนวเกม “Vampire Survivors-like” กลายเป็นที่นิยม โดยยึดหลักคล้าย ๆ กันคือ ตัวละครโจมตีอัตโนมัติ แต่ละด่านมีเวลาจำกัด และจะต้องมีศัตรูล้อมกรอบด้านข้างเพื่อพยายามเข้ามาฆ่าเราให้ตาย ซึ่งบางเกมก็ได้ปรับเปลี่ยนลักษณะบางอย่างออกไป เช่น เราสามารถกดโจมตีได้บ้างในบางสถานการณ์ หรือเปลี่ยนเงื่อนไขการชนะเกมให้หลากหลายขึ้น เป็นต้น
เกมแนว Vampire Survivors แทบจะระบาดไปทั่วทุกหัวระแหง โดยเฉพาะในมือถือ แพลตฟอร์มที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายที่สุด แม้ในช่วงแรกที่ตัวเกมวางจำหน่าย ยังไม่มีเกมคล้ายกันมากนัก แต่ ณ ปัจจุบันนี้ เกมแนว Vampire Survivors ได้ระบาดบนมือถือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้แต่เกมหลักเองยังต้องพอร์ตลงมาด้วย เรียกได้ว่าฮิตของจริง
นอกจากการกระจายกระแสเกมแนวใหม่แล้ว Vampire Survivors ยังถูกใจนักวิจารณ์อย่างมาก แม้ในช่วงแรก ตัวเกมจะยังไม่ได้มีพลังมากพอจะให้ใครวิจารณ์ แต่เมื่อตัวเกมเริ่มโด่งดัง คำชมจากนักวิจารณ์ก็แทบจะตามมาในทันที โดยเกมถูกพูดถึงมากในเรื่องของการสร้างแรงกระตุ้นให้อยากเล่นไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้จบ ถึงขนาดว่ามีบางคน ยกย่องให้เกมนี้เป็น “เกมแห่งปี” สำหรับพวกเขาเลยด้วยซ้ำ
ในเรื่องของรางวัล Vampire Survivors ก็กวาดรางวัลในปีนี้มาบ้างเหมือนกัน ใน Golden Joystick Awards ของปีนี้ ตัวเกมชนะรางวัล Breakthrough Award และได้เข้าชิงรางวัล Best Early Access Launch ส่วนใน The Game Awards ได้เข้าชิง Best Debut Indie Game ถือว่าสมศักดิ์ศรีมาก ๆ สำหรับเกมเล็ก ๆ ไม่ซับซ้อนเกมนี้
Vampire Survivors เป็นตัวอย่างสำคัญของการทำเกม ที่เน้นไปที่เกมเพลย์แสนสนุกสุดติดพัน ซึ่งเป็นจุดประสงค์จริง ๆ ของวิดีโอเกม มากกว่าจะสนใจปัจจัยภายนอกจนสูญเสียสิ่งสำคัญไป ถ้าใครไม่เคยเล่น เราแนะนำให้ลองอย่างมาก เพราะนี่คือ The Best ของปีนี้อย่างแท้จริง
