สำหรับเกมเมอร์บางคน ขึ้นชื่อว่า “เกมการ์ด” หลายคนอาจจะถอยหนีไปแล้ว เพราะติดภาพจำว่ามันจะต้องใช้สมอง วางแผนกลยุทธ์ เข้าถึงยาก แต่ในยุคปัจจุบัน มีหลากหลายเกมที่หยิบเอา การ์ด มาผสมผสานกับแนวเกมต่าง ๆ มากมาย ไม่จำเป็นต้องเล่นกันบนฟิลด์สนามแข่งการ์ดอีกต่อไป เราได้เห็นทั้ง Slay the Spire ที่หยิบมาผสมกับเกมแนว Roguelike ได้เห็น Inscryption ที่หยิบเอามาผสมผสานกับแนวเกมสยองขวัญ หรือแม้แต่เกมฟอร์มใหญ่อย่าง Marvel Midnight Suns ที่ทำให้ระบบการเล่นมีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น
Neon White เองก็เป็นการใช้ระบบการ์ดมาดัดแปลงเข้ากับโลกของเกมแอ็คชั่นสปีดรัน ด้วยการออกแบบ Soul Card ให้มาใช้แทนอาวุธ และมีคุณลักษณะในการโจมตี 2 แบบ การใช้โจมตีต่อเนื่อง และการใช้ความสามารถพิเศษที่จะทำให้การ์ดหายไป แต่เราจะได้ Movement พิเศษที่ช่วยในการผ่านด่านมาแทน
แม้ว่าจะเป็นการ Fix การ์ดมาให้เสร็จสรรพแล้ว แต่ตัวเกมยังคงมีความท้าทายในการเล่นกับเวลาอย่างชาญฉลาด ในเมื่อเกมมอบการ์ดชุดเดิมในด่านมาให้เราทุกรอบ ๆ แต่การจะทำเวลาให้ดีขึ้น เราอาจจะต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นในการทำเวลา เช่นการคอมโบการใช้งานการ์ดเข้ากับเหลี่ยมมุมใดมุมหนึ่ง ในการเคลื่อนไหว ทำให้เป็นการลัดฉากไปได้ ทุ่นเวลาลงไปหลายสิบวินาที ซึ่งการจะให้ผู้เล่นทำแบบนี้ได้นั้นจะต้องคุ้นเคยกับการ์ดที่มี และเล่นซ้ำบ่อย ๆ จนเชี่ยวชาญ
และด้วยความที่เกมต้องการการเล่นซ้ำที่สูงมากในการทำคะแนน เราจึงได้เห็นระบบอย่าง Leaderboard เกิดขึ้นในเกมนี้ รวมไปถึง Ben เองก็เผยว่า การจะดึงให้ผู้เล่น มาเล่นซ้ำได้เรื่อย ๆ และท้าทายตัวเองอยู่เสมอนั้น เกมจำเป็นที่จะต้องสนุกพอ สนุกพอให้เล่นซ้ำ ท้าทายพอที่จะพยายามเอาชนะเวลาเพียงเสี้ยววินาที เพื่อไต่อันดับขึ้นไปบนตารางคะแนน
นอกจากนั้นในแง่ของการต่อสู้หรือ Boss Fight เกมยังใช้วิธีให้เราต่อสู้ในพื้นที่แอเรียเปิด มีการ์ดต่าง ๆ ให้เราเก็บ และประยุกต์ใช้ในการต่อสู้และไต่แพลตฟอร์มต่างระดับ และบุกเข้าไปให้ถึงตัวบอส ยิ่งทำให้เราเห็นได้ว่า การ์ดนั้น ไม่จำเป็นต้องทำออกมาเป็นแนวการ์ดเกม แต่สามารถดัดแปลงไปใส่กับแนวอะไรก็ได้ ขอแค่มันถูกขัดเกลามาเป็นอย่างดี
สิ่งที่เราทำจริง ๆ คือให้การ์ดแต่ละใบมีหน้าที่ที่ต่างกัน และที่เราไม่โชว์ให้เห็นว่ามันคือการยิงปืน เราอยากให้คนมองว่านั่นคือการ์ด ไม่อยากให้คุณโฟกัสไปที่เลขกระสุน แต่ให้ดูว่าการ์ดที่มีคืออะไร นอกจากยิงแล้ว คุณทำอะไรได้บ้างในสถานการณ์นั้น
เห็นได้ชัดว่ามันทำงานได้ดีกับเกมแนวท้าทายความเร็วแบบนี้ การ Speed running แข่งขันกับเวลาที่กำหนด ยิ่งท้าทายขีดจำกัดให้ผู้เล่นผ่านกระบวนการลองผิดลองถูก จริงอยู่ว่ามันไม่มีผลกับเกมโอเวอร์ แต่เราจะใช้เวลากับด่านนั้นนานเกินไปจนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย และเมื่อผู้เล่นสามารถเอาชนะด่านเดิมได้ ด้วยเวลาเพียงเสี้ยววินาที นั่นแหละความสนุกสะใจในแบบที่มีแต่ Neon White เท่านั้น ที่จะให้คุณได้
เห็นแบบนี้แล้วช่างน่าสนใจ ว่าในอนาคต จะมีใครไอเดียบรรเจิด นำการ์ดไปดัดแปลงเป็นเกมประเภทไหนได้อีก แต่ที่แน่ ๆ Neon White ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก ๆ ในปีนี้ และคาดว่าหลายคน น่าจะเห็นไอเดียในการหยิบการ์ดไปทำเป็นเกมประเภทอื่นกันแล้ว วงการเกมอินดี้ในอนาคตคงจะน่าสนใจเพิ่มขึ้นอีก
