กลับมาตามนัดหมายเป็นประจำทุกปีสำหรับงาน Event ของค่าย Apple ในเดือนกันยายน ปีนี้ Apple มีไม้เด็ดอะไรเราหยิบมาสรุปให้ดูแบบเต็ม ๆ 

Apple กลับมาอีกครั้งในงานประจำปีของค่าย โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย Apple จัดงานแถลงสุดยิ่งใหญ่พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายชิ้น

สำหรับใครที่พลาดชมหรือรับชมไปแล้วแต่อยากได้ข้อมูลสำคัญทั้งหมดแบบชัด ๆ เรารวบรวมข้อมูลสำคัญทั้ง 5 ข้อมาไว้ให้คุณที่นี่แล้ว

1.iPhone รุ่นใหม่ในชื่อ iPhone XS และ XS Max

Apple ปล่อยมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดออกมาพร้อมกันสองโมเดลในปีนี้ภายในชื่อรุ่นว่า iPhone XS และ XS Max โดยปกติ Apple มักจะปล่อยมือถือรุ่นใหม่ออกมาพร้อมกับรุ่นพิเศษที่ใหญ่กว่าในชื่อ Plus แต่ครั้งนี้เป็นเพราะว่าโมเดลรุ่น Max นั้นใหญ่กว่าปกติชื่อรุ่นจึงเปลี่ยนไป

XS  Max มาพร้อมหน้าจอ 6.5 นิ้ว แบบ  “Super Retina” OLED ด้วยขนาดที่ใหญ่แบบนี้ราคาก็เลยใหญ่ไม่แพ้กัน โดยตัว Max เริ่มต้นกันที่ราคา $1,099 (ประมาณ 35,000 บาท) ที่รุ่น 64 GB และขยับไปถึง $1,499 (ประมาณ 48,000 บาท) ที่รุ่น 512 GB

ส่วนรุ่น XS ก็เป็นการเข้ามาแทนที่ iPhone X ก็ปีที่แล้ว ด้วยหน้าจอขนาด 5.8 นิ้วและราคาเริ่มต้นที่ $999 (ประมาณ 32,000 บาท)

ด้านล่างคือรูปเปรียบเทียบระหว่างทั้งสามรุ่นโดยมีรุ่น X ของปีที่แล้วอยู่ด้านซ้ายสุด XS อยู่ตรงกลางและ XS Max ด้านขวามือ

โยกไปดูเรื่องของกล้องกันบ้าง ทั้ง XS และ XS MAX จะมาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/1.8, 28mm, 1.4µm +12 ล้านพิกเซล f/2.4, 52mm, 1.0µm ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 7 ล้านพิกเซล f/2.2

จุดเด่นอยู่ตรงลูกเล่นใหม่ในชื่อ “Smart HDR”  ซึ่งเป็นการผสมภาพถ่ายหลายเฟรมเข้าด้วยกัน สรุปง่าย ๆ ให้เข้าใจคือลูกเล่นนี้จะช่วยทำให้ตัวภาพมีความชัดเจนและให้แสงที่เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

อีกหนึ่งลูกเล่นคือการถ่ายแบบ bokeh ซึ่งเปิดให้คุณสามารถปรับแต่งความเบลอของพื้นหลังได้ตามใจใครชอบแนวหน้าชัดหลังละลายก็ปรับกันได้แบบเต็มที่

ด้านขุมพลังในเครื่องถือเป็นจุดที่ได้รับการพัฒนาแบบก้าวกระโดดมากที่สุด ตัวเครื่องใช้ชิพ A12 Bionic ทำให้นี่จะเป็น iPhone ที่แรงที่สุดเท่าที่มีมาและเป็น ชิพ 7 นาโนเมตรตัวแรกในสมาร์ทโฟน เรียกได้ว่าดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ทำงานได้แบบล้ำ ๆ

ตัวเครื่องวางจำหน่ายด้วยกัน 3 สี คือสีเงิน สีทอง และสีเทา

2. iPhone รุ่นใหม่อีกตัวในชื่อ iPhone XR

ใครยังจำกันได้ Apple เคยเปิดตัวมือถือรุ่นประหยัดในชื่อ iPhone 5C ซึ่งเน้นความสดใสและใช้วัสดุที่มีราคาถูกกว่ารุ่นหลัก เจ้าตัว XR ก็จะออกมาในแนวเดียวกัน

ตัวเครื่องเริ่มต้นที่ราคา $749 (ประมาณ 24,000 บาท)  แม้จะไม่ได้ราคาถูกมากแต่ก็ถือว่าถูกกว่ารุ่น XS แบบชัดเจน แถมตัวเครื่องยังมีขนาดใหญ่กว่ารุ่น XS อีกด้วยกับหน้าจอ LCD  ขนาด  6.1 นิ้ว

ตัวเครื่องภายในนั้น XR เรียกได้ว่าแทบจะเหมือนกับรุ่น XS โดยใช้ชิพ A12 Bionic เหมือนกัน สิ่งที่ต่างกันคือหน้าจอหลักกับการที่ตัว XR จะไม่มีระบบ 3D Touch และมาพร้อมกล้องหลัง 12 ล้านพิกเซลตัวเดียว

3. Apple Watch Series 4

มาพร้อมกันถึง 2 ขนาดสำหรับ Apple Watch Series 4 รุ่นใหม่ล่าสุดกับขนาด 40 และ 44 มม. ตัวจอใหญ่กว่า Apple Watch รุ่นก่อนถึง 30%

ตัวเครื่องใช้ชิพใหม่ในชื่อ S4 ที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น (ทาง Apple ระบุว่าเร็วกว่ารุ่นเดิมเป็นสองเท่าในการใช้งาน) ตัว Apple Watch มาพร้อมระบบพิเศษในการตรวจจับหากผู้ใช้งานหกล้ม โดยสามารถตั้งค่าให้โทรหาเบอร์ฉุกเฉินพร้อมแจ้งตำแหน่ง

ตัวหมุน digital crown มาพร้อมกับระบบสั่นแบบ haptic feedback จำลองความรู้สึกให้ผู้ใช้งานเหมือนว่าหมุนเครื่องจักรกลอยู่จริง ลำโพงดังขึ้นกว่าเดิม 50% และมีการขยับไมโครโฟนออกมาเพื่อให้เสียงชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ลูกเล่นที่ดูจะสำคัญที่สุดน่าจะเป็นการที่ตัว Apple Watch Series 4 จะมาพร้อมกับเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจหรือ electrocardiogram โดยเพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัสตรง digital crown ผู้ใช้งานก็สามารถทดสอบสัญญาณไฟฟ้าของหัวใจตนเองได้ทันที

นอกจากนั้นตัวเครื่องยังสามารถตรวจวัดการเต้นของหัวใจและตรวจหาภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (atrial fibrillation หรือ AF หรือ A-Fib) ได้อีกด้วย

ส่วนลูกเล่นอื่นก็เป็นการยกเอาระบบการใช้งานจากรุ่นที่แล้วมาแบบครบถ้วนครับ Series เริ่มต้นที่ราคา $399 (ประมาณ 13,000 บาท)

4.Apple Watch Series 3 ลดราคาทุกรุ่น 2000 บาท

สำหรับใครที่กำลังมองหาหรืออยากได้ Apple Watch ไว้ใช้งานข่าวดีของคุณมาถึงแล้วเพราะ Apple ตัดสินใจหั่นราคา Apple Watch Series 3 ลงมาทุกรุ่น โดยลดกันถึง 2000 บาทและมีผลทันที ลดกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยล่าสุดตัวรุ่น Nike แบบ GPS เหลือแค่ 9,900 บาท หากเป็นรุ่น GPS + Cellular ก็ลงมาเหลือแค่ 13,400 แล้ว ไปชมราคากันได้ 

ที่น่าสนใจคือ Series 3 จะยังได้รับการอัพเกรด Watch OS 5 ในช่วงสัปดาห์หน้านี้ด้วย ดังนั้นซื้อใช้ตอนนี้ก็ยังไม่ตกรุ่นและคุ้มค่ากันอยู่สำหรับผู้ที่สนใจ

5. iOS 12 จะปล่อยออกมาให้อัพเดทกันวันจันทร์หน้า

 

วันจันทร์หน้าวันที่ 17 กันยายน ค่าย Apple จะปล่อยตัวอัพเดทให้ OS ของมือถือค่ายตัวเองครั้งใหญ่

ที่สำคัญคือต่อให้คุณใช้มือถือรุ่นเก่าก็จะได้รับสิทธิประโยชน์จาก iOS 12 แบบเต็ม ๆ เพราะงานนี้ Apple ระบุว่า iOS 12 จะทำให้มือถือรุ่นเก่าเรียกใช้งาน Apps เร็วขึ้น 40% และมี Pop Up Keyboard ที่เร็วกว่าเดิม 50% การเปิดกล้องก็เร็วขึ้นกว่าเดิม 70%

สำหรับผู้ใช้งาน iOS ทั้งหมด ตัว iOS 12 จะยกเครื่องระบบแจ้งเตือนใหม่ หลังจากนี้ไปการแจ้งเตือนที่เหมือนกันจะไม่ขึ้นแยกให้บดบังหน้าจอแต่จะถูกเตือนแบบซ้อน หากคุณได้รับข้อความ Text จากเพื่อน 3 คน การแจ้งเตือนก็จะขึ้นซ้อนกันเป็นก้อนเดียว

Apple ยังเพิ่มลูกเล่นและปรับปรุงตัว iOS ในหลายจุด เช่น Siri Shortcuts ซึ่งเปิดโอกาสให้คุณตั้งค่าการทำงานของ Siri ไว้เป็นชุด ๆ หากคุณเป็นผู้ใช้งานที่ใช้ Ciri ทำอะไรเป็นประจำ ลูกเล่นใหม่นี้จะช่วยให้คุณใช้งาน Ciri ได้สะดวกขึ้นกว่าเดิม

ระบบใหม่ Screen Time ช่วยให้คุณจำกัดเวลาการใช้งาน Apps ของคุณ บางทีคุณอาจจะลดการใช้งาน Facebook คุณก็สามารถตั้งเวลาได้ว่าจะไม่ใช่งาน Facebook เกินวันละ 1 ชั่วโมงหรือตามที่คุณต้องการ

ส่วน Facetime ที่จะรองรับผู้ใช้งานพร้อมกัน 32 คนนั้นทาง Apple ระบุว่าจะถูกเพิ่มตามเข้ามาภายหลังในช่วงท้ายปีนี้