เมื่อเกมคอนโซลกับ PC เริ่มมีฟีเจอร์ที่ทันสมัย และช่วยอำนวยความสะดวกต่อการเล่นมากขึ้น ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่วิถีการเล่นเกมแบบเก่า ๆ ที่เราเคยคุ้นเคยจะหายลืมเลือนตามกาลเวลา เพราะมีฟีเจอร์ใหม่ที่ดีกว่า แล้ววิถีการเล่นเกมในอดีตมีอะไรบ้าง เราจะมาย้อนรอยกันในบทความนี้
การเล่นเกมผ่าน Demo Disc
เนื่องจากสมัยก่อน เกมเมอร์ส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นไม่มีเครื่อง PC ส่วนตัว, ไม่มีค่าใช้จ่ายเพียงพอต่อการซื้อบริการอินเทอร์เน็ตรายเดือน หรืออินเทอร์เน็ตยังมีความเร็วสูงไม่พอที่จะดาวน์โหลดเกมไฟล์ขนาดกลางได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ตัวแทนจำหน่ายเกมจึงใช้วิธีแจกจ่ายแผ่น CD ที่เรียกว่า Demo Disc ตามนิตยสารเกม เพื่อให้ผู้เล่นได้ลองเล่นเกมเวอร์ชันเดโม โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดเกมให้เสียเวลา
อย่างไรก็ตาม หลังจากอินเทอร์เน็ตกลายเป็นเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน สามารถเข้าถึงได้แล้วทุกคน ก็ส่งผลทำให้แผ่น Demo Disc เริ่มหายไป แล้วหันมาใช้วิธีการดาวน์โหลดเกมเดโมผ่านอินเทอร์เน็ตแทน
การกรอก Password เพื่อเล่นเกมต่อ
สมัยปี 1980 ถ้าหากต้องการเล่นเกมต่อจากที่ค้างไว้ ผู้เล่นสามารถทำได้ด้วยการกรอกรหัสตามที่เกมเคยบอกไว้ผ่านหน้าจอ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรหัสเซฟที่ต้องกรอกมีจำนวนหลายตัว สมัยก่อน เกมเมอร์จึงต้องมีสมุดโน้ตติดตัวไว้ เพื่อจดรหัสผ่านไว้ใช้ในการเล่นเกมครั้งต่อไป
แน่นอน แม้วิธีการเล่นเกมต่อด้วยการกรอกรหัสจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนั้น แต่มันก็ไม่ใช่วิธีที่สะดวกสบายมากนัก เพราะถ้าหากทำกระดาษโน้ตหาย ก็เท่ากับต้องเริ่มเล่นเกมใหม่ทั้งหมด รวมถึงการกรอกรหัสหลายหลักทุกครั้งก่อนเล่นเกม มันสร้างความรำคาญต่อผู้เล่นได้ไม่ใช่น้อยเลย ดังนั้น เมื่อเทคโนโลยีเติบโตมากขึ้น บริษัทผลิตเกมคอนโซล จึงได้คิดค้นวิธีเซฟเกมรูปแบบใหม่ ก็คือการใช้อุปกรณ์ Memory Card
การบันทึกเซฟด้วย Memory Card
หลังจากถือกำเนิดวิธีเซฟเกมผ่าน Memory Card ก็ส่งผลทำให้ระบบกรอกรหัสเพื่อเล่นเกมต่อนั้น ได้รับความนิยมลดลงจนหายไป ซึ่งก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะการเซฟเกมผ่าน Memory Card มีความสะดวกสบายมาก ๆ เพราะใช้เวลารอการบันทึกเซฟเสร็จสิ้นน้อย ไม่ต้องจำรหัส และที่สำคัญที่สุด ผู้เล่นสามารถโอนเซฟเกมระหว่าง Memory Card 2 ตัวได้อย่างง่ายดาย แม้จะมีข้อเสียตรงที่ Memory Card เป็นอุปกรณ์เสริมต้องเสียเงินซื้อ แต่คุณภาพโดยรวมของมัน ก็ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกมคอนโซลสมัยใหม่ เริ่มใช้วิธีการบันทึกเกมผ่าน HDD ในเกมคอนโซล และใช้ Cloud Save ก็ทำให้อุปกรณ์เสริม Memory Card ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป แล้วสุดท้าย อุปกรณ์ดังกล่าวก็หายไปจากวงการเกมโดยไม่หวนกลับคืนมา
การใช้สูตร Action Replay
Action Replay คือแผ่นเกมที่มีคุณสมบัติเด่น เป็นการดัดแปลงโค้ดภายในเกมจนเกิดเป็นสูตรโกง โดยวิธีใช้งานของมัน คือต้องกรอกชื่อสูตร กับรหัสสูตรเอง ซึ่งรายชื่อสูตรต่าง ๆ สามารถหาได้จากอินเทอร์เน็ต หรือไม่ก็หนังสือคู่มือที่มีเล่มหนาปึก จากนั้นให้กดเครื่องหมายถูกสูตรต่าง ๆ ที่ต้องการ เมื่อเลือกเสร็จให้เปลี่ยนแผ่นเกม เพียงเท่านี้ สูตรเกมจาก Action Replay ก็ทำงานได้ดั่งเวทมนตร์
แม้ Action Replay อยู่มานานตั้งแต่เกมยุค 1980 จนถึง 2000 แต่อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นยุคทองของเกม Multiplayer ก็ส่งผลทำให้ทีมพัฒนาเกม เริ่มใช้มาตรการป้องกันเกมด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อไม่ให้การโกงเกิดขึ้น จนปัจจุบัน สูตร Action Replay ได้รับความนิยมลดลง แล้วก็หายไปตามกาลเวลา
การเป่าตลับเกม
นับเป็นความเชื่อผิด ๆ ที่อยู่คู่เกมเมอร์มานาน ที่ว่ากันว่าหากเกมที่กำลังเล่นเปิดไม่ติด มีอาการ Glitch หรือภาพกราฟิกเพี้ยน ให้ใช้ปากเป่าเพื่อขับไล่ฝุ่นในตลับเกมออกไป ซึ่งความจริงแล้ว วิธีการที่ถูกต้องคือเพียงแค่ถอดตลับเกม แล้วเสียบตลับเกมเข้าไปใหม่ หรือรีสตาร์ทเกม ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้แล้ว
แน่นอนว่าหลังจากวิดีโอเกม เริ่มหันมาบันทึกเกมลงแผ่น CD, DVD หรือ Blu-Ray Disc ซึ่งมีเนื้อที่บรรจุเนื้อหามากกว่าแผ่นตลับ รวมถึงข้อมูลทั้งหมด เป็นการบันทึกลงแผ่นดิสก์แบบถาวร ทำการเป่าแผ่นดิสก์ ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาเกมค้างได้ และปัจจุบัน ผู้เล่นหลายคน เริ่มตาสว่างแล้วว่าการเป่าตลับเกมไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาใด ๆ แถมทำให้ตลับเกมมีอายุขัยสั้นลงด้วย ส่งผลทำให้การเป่าตลับเกมได้รับความนิยมลดลงอย่างต่อเนื่อง
การซื้อนิตยสารมาอ่านข่าวสารวงการเกม
อย่างที่เกมเมอร์หลายคนทราบกันดี ในสมัยก่อน ผู้เล่นสามารถอ่านข่าวสารวงการเกม อ่านรีวิวเกม อ่านบทสัมภาษณ์ของนักพัฒนา หรือเอาโค้ดแลกของพิเศษในเกมจากการซื้อนิตยสารรายสัปดาห์หรือรายเดือน
แต่ปัจจุบัน เนื่องจากอินเทอร์เน็ตกลายเป็นสิ่งที่หลายคนทั่วโลกเข้าถึงได้ ก็ทำให้ผู้อ่านได้เปลี่ยนวิธีการเข้าถึงข่าวสาร ด้วยการเข้าเว็บไซต์ของสื่อผ่านอินเทอร์เน็ตแทน ด้วยเหตุผลดังกล่าวปัจจุบัน นิตยสารเกมจึงได้รับความนิยมน้อยลง และมีหลายนิตยสารเกมที่ต้องปิดตัวลง หลังเกมเมอร์หันมาติดตามข่าวสารผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
