BY KKMTC
26 Dec 22 3:22 pm

รู้จัก Flatout 3 เกมที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “เกม Racing ที่แย่ที่สุดใน Steam”

19 Views

เกมแข่งรถก็คล้ายกับเกมแนวอื่น ๆ ที่มีเกมเยี่ยม เกมดี เกมแย่ปะปนกันไป แต่ถ้าหากกำลังมองหาเกม Racing “ที่แย่ที่สุด” ในตอนนี้ ก็ไม่มีทางหนีพ้น Flatout 3: Chaos & Destruction ที่เรามั่นใจว่าเมื่อเล่นเกมนี้ไป จะทำให้มุมมองที่มีต่อเกมแข่งรถไตเติลเก่า ๆ ไม่สนุกสนาน เปลี่ยนไปกลายเป็นเกมสนุกทันที 

Flatout เกมแข่งรถชนแหลก เน้นการขับรถกึ่งสมจริง

Flatout 2

ภาพจากเกม Flatout: Ultimate Carnage

ถ้าเป็นเกมเมอร์สาย Racing เรามั่นใจว่าจะต้องคุ้นเคยกับชื่อ Flatout เป็นอย่างดี เพราะเกมดังกล่าวถือเป็นคู่แข่งสำหรับแฟรนไชส์เกม Burnout ก็ว่าได้

ในขณะที่ Burnout เป็นเกมแข่งรถแบบอาร์เคด 100% แต่ Flatout จะเน้นการขับรถแบบกึ่งสมจริง มีความท้าทาย และมีโมเดลรถยนต์รายละเอียดสูง ทำให้ Flatout มีลายเส้นเป็นของตัวเอง มีองค์ประกอบที่ทำให้ Flatout แตกต่างจาก Burnout แม้เป็นเกมแข่งรถชนแหลกเหมือนกันก็ตาม

Ridge Racer Unbounded

ภาพจากเกม Ridge Racer Unbounded

เกม Flatout ภาค 1, 2 พัฒนาโดยทีมงาน Bugbear Entertainment แต่อย่างไรก็ตาม ทีมงาน Team6 Games ได้เข้ามาสร้างเกม Flatout 3: Chaos & Destruction แทนที่ Bugbear เนื่องจากทีมงานดังกล่าวกำลังติดสร้าง Ridge Racer Unbounded ของ Bandai Namco อยู่

หลังจากประกาศว่า Team6 Games ได้พัฒนาเกม Flatout 3 ก็มีกระแสตอบรับจากแฟน ๆ ที่ย่ำแย่มาก ๆ พร้อมแสดงความเห็นว่าจะไม่ซื้อเกมภาคต่อทันที เพราะ Team6 Games มี “ชื่อเสีย” มากมายจากการพัฒนาเกมแข่งรถคุณภาพแย่ใน PC ไม่ว่าจะเป็น Taxi Challenge Berlin, Taxi Chaos, Super Street: The Game และไตเติลอื่น ๆ อีกมากมาย จนทีมงานดังกล่าวมีชื่อเสียงที่ไม่ดีในวงการเกมแข่งรถ

Flatout (4)

และแน่นอน หลังจากเกม Flatout 3 ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี 2011 เกมดังกล่าวมีกระแสตอบรับที่แย่มาก ๆ เพราะข้อเสียของเกม Flatout 3 มีหลายข้อ หรืออาจจะบอกได้ว่าแทบไม่มีข้อดีกว่า

Flatout 3 เกมแข่งรถพัง ๆ ที่รถไม่ได้พัง แต่เกมพัง

Flatout (5)

ข้อเสียหลัก ๆ ของเกม Flatout 3 ที่คนไม่เคยเล่นเกมแข่งรถมาก่อนก็รู้สึกได้ คือภาพกราฟิกดูตกยุคเหมือนเกมสมัย PlayStation 2 หรือถ้าหากพูดแบบใจร้ายแทงใจดำกว่านี้ คือเหมือนเกม Bootleg เกม Pirate ใน PC ที่ไม่มีการตรวจสอบคุณภาพ เหมือนเกมของค่าย Team6 ที่ผ่านมา

ย้ำอีกครั้งว่า Flatout 3 ออกวางจำหน่ายในปี 2011 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ภาพกราฟิกของเกมเจเนอเรชัน PS3, Xbox 360 เริ่มมีความลงตัว มีประสิทธิภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ค่อนข้างชัด ซึ่งเรามั่นใจว่าถ้าหากเอากราฟิกของเกม Flatout 3 มาเปรียบเทียบกับหลายเกมที่ออกวางจำหน่ายในปี 2011 เกม Flatout 3 จะต้องตกรอบแรกอย่างไม่ต้องสงสัย

หรือถ้าหากเปรียบเทียบกราฟิกกับเกมที่อยู่ใกล้ตัวมากกว่านี้ อย่าง Flatout 2 หรือ 1 ซึ่งเป็นภาคเก่า เรามั่นใจอย่างแน่นอนว่าภาพกราฟิก Flatout ภาคเก่า ยังดูดีกว่าภาคใหม่หลายเท่าตัวจนเทียบไม่ได้

Flatout (2)

หนึ่งในจุดเด่นของเกมตระกูล Flatout คือนักแข่งทุกคนล้วนมีประวัติความเป็นมา มีตัวตนชัดเจน มีการอธิบายลักษณะนิสัย และทักษะการขับรถที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะเป็นพิเศษ แม้มันจะไม่ส่งผลต่อเกมเพลย์มากนัก แต่เป็นการมอบความดื่มด่ำระหว่างการเล่น ที่ทำให้รู้สึกว่าเรากำลังแข่งขันกับใครบางคน ไม่ใช่คนเงาลึกลับเหมือนในมังงะเรื่องโคนัน ไม่ใช่ A.I. โนว์บอร์ดี้

แต่คาแรคเตอร์ภาค 3 ส่วนใหญ่ มีดีไซน์ที่ไม่มีอะไรน่าจดจำ และตัวก็หลุดจากธีมเกม Flaout ไปอย่างสิ้นเชิง เช่น ตัวละครซานต้าที่จู่ ๆ มาแข่งขันโดยไม่ทราบสาเหตุ, ตัวละครสาวสวมเสื้อเชิ้ต เปิดโชว์ร่องหน้าอกสุด Cliche, ตัวละครนักฆ่าที่มีลักษณะคล้ายกับ Freddy Kruger และตัวละครอื่น ๆ ที่ขาดความโดดเด่นอย่างสิ้นเชิง

Flatout (4)

ซึ่งแน่นอน ข้อเสียที่ใหญ่หลวงที่สุดของ Flatout 3 คือระบบการขับรถที่เข้าขั้นเลวร้าย รถทุกคันมีความไวของพวงมาลัยที่เร็วเกินไป แค่เลื่อนปุ่ม Analog เล็กน้อย รถจะเลี้ยวโค้ง 25 องศาอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ตัวเกมขาด Sense of Speed (ความรู้สึกเร็วพลิ้วระหว่างขับ) ทำให้รถทุกคันใน Flatout 3 มีความรู้สึกขับไม่สนุก ขาดความน่าตื่นเต้น

การออกแบบสนามแข่งรถก็ขาดเอกลักษณ์ ทุกสนามจะมีบรรยากาศเหมือน ๆ กันหมด คือเป็นสนามร้าง ๆ เหมือนโลกดิสโทเปียที่หลุดจากธีม Flatout ไปมาก ซ้ำร้าย พฤติกรรม A.I. ของเกมนี้จัดว่าไม่ชาญฉลาดมาก ๆ เพราะคู่แข่งจะชนทุกอย่างที่ขวางหน้า ขับชนกำแพง หรือขับออกนอกสนามในทุกโค้ง

ถ้าหากพูดถึงข้อดีของ Flatout 3 ก็คงมีข้อเดียว ก็คือมีโหมดเกมที่ค่อนข้างหลากหลาย เช่น โหมด Nightshift เป็นการแข่งขันแบบ 1v1 ในเวลากลางคืน ที่มีหมอกเยอะ, โหมด Big Battle ที่เป็น Demolition Derby (การขับรถชนในสนาม Arena) รองรับผู้เล่นได้ถึง 24 คน หรือโหมด Speed การแข่งขันโดยใช้รถ Open Wheel ประสิทธิภาพสูง แต่น่าเสียดาย ด้วยคอร์เกมเพลย์ที่เลวร้าย ทำให้ทุกโหมดการเล่นไม่มีความสนุกสนานเลยแม้แต่น้อย

Flatout (3)

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ตอนนี้ Flatout 3: Chaos & Destruction มีบทวิจารณ์จากผู้เล่นทั้งหมดเป็น “แง่ลบเป็นส่วนมาก” โดยมีบทวิจารณ์รีวิวจากผู้ใช้ Staem เป็นแง่บวกเพียง 15% เท่านั้น (จากบทวิจารณ์ทั้งหมด 2,732 บทความ) จึงทำให้ Flatout 3 ยังครองแชมป์อันดับ 1 เกมแข่งรถที่แย่ที่สุดใน Steam และอาจจะหนึ่งในเกมที่แย่ที่สุดใน Steam ณ ตอนนี้อีกด้วย

SHARE

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top