BY StolenHeart
3 May 19 1:10 pm

รู้จักกับ Sonic The Hedgehog เจ้าเม่นสายฟ้าผู้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ Sega

20 Views

เชื่อว่าข่าวที่หลายคนให้ความสนใจในช่วงที่ผ่านมาคงหนีไม่พ้นเรื่องของภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่มาจากเกมในตำนานอย่าง Sonic The Hedgehog อย่างแน่นอน แต่ด้วยการออกแบบเจ้าเม่นสายฟ้าในยุค 2019 นี้ทำให้หลายคนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะมันดูไม่เหมือน Sonic ที่พวกเขาเคยรู้จักมาก่อน ซึ่งวันนี้เราจะมาย้อนรำลึกถึงเจ้าเม่นสีฟ้าตัวนี้กัน

ย้อนกลับไปสมัยยุคต้น 90s ยุคที่สงครามเครื่องเกมคอนโซลมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดระหว่างสองค่ายคือ Nintendo และ Sega ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็หายุทธวิธีในการโฆษณาแข่งขันเกี่ยวกับเครื่องเกมของตนว่าเจ๋งที่สุดออกมาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนอกจากการโฆษณาโจมตีคู่แข่งอย่างเมามันแล้ว ทั้งสองค่ายยังมีเกมที่เป็นสัญลักษณ์หรือ Mascot เป็นของตัวเองอีกด้วย

ตัวอย่างโฆษณาบางส่วนของ Sega ในยุคปี 90 ที่กัดค่าย Nintendo แบบชัดเจนหลายชิ้น

ซึ่งในขณะที่ Nintendo มีช่างประปาชุดแดง Mario ออกมาโลดแล่นบนแพลตฟอร์มของพวกเขาทั้งหมด ทำให้ทาง Sega คิดที่จะผลักดันตัวละครตัวหนึ่งในเกมของพวกเขาขึ้นมา ให้กลายเป็น Mascot ประจำค่าย และเป็นเกมที่อยู่ประจำเครื่องเกมของพวกเขาในยุคนั้นอย่าง Mega Drive หรือ Sega Genesis ขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนจดจำตัวละครตัวนี้และค่าย Sega ได้อย่างแม่นยำ

ต้นกำเนิดของ Sonic เริ่มขึ้นในปี 1990 ที่ทาง Sega ได้ว่าจ้างให้ทีมพัฒนาเกมภายในสร้างตัวละคร Mascot และเกมของมันขึ้นมาสักเกมหนึ่ง

ซึ่งในตอนแรกนั้น Sega มีเจ้า Alex Kidd จากเกม Alex Kidd in Miracle World เป็น Mascot ประจำค่ายอยู่แล้ว แต่หลายคนคิดว่ามันดูเหมือนกับนายหนวด Mario ของค่าย Nintendo มากไปหน่อย จากสีสันและและรูปร่างที่ดูเหมือนคนที่มาในโทนสีแดงเหมือนกัน ซึ่งประธานของค่าย Sega ในยุคนั้นคือคุณ Hayao Nakayama มีความคิดว่า ตัวละคร Mascot ของค่ายนั้นจะต้องเป็นอะไรที่น่าจดจำเหมือนกับเจ้าหนู Mickey Mouse ของ Disney

Alex Kidd ตัวละคร Mascot รุ่นแรกของค่าย Sega

และนั้นก็ทำให้เหล่าทีมงานเริ่มการออกแบบทันที ทั้งตัวละคร ระบบของเกม และเอนจิ้นที่จะใช้ ซึ่งคอนเซ็ปต์ในการออกแบบก็คือความเร็ว สัตว์ที่จะนำมาใช้นั้นจะต้องเป็นสายพันธุ์ที่มีความเร็ว โดยในตอนแรกนั้นพวกเขาเลือกสัตว์อย่างกระต่ายหรือกระรอกเอาไว้ แต่เนื่องจากความซับซ้อนทางกายภาพของพวกมันที่มากเกินกว่าฮาร์ดแวร์ในตอนนั้นจะรับไหว ทำให้พวกเขาต้องจำกัดวงของสัตว์ต่าง ๆ ที่ตัวเล็กกว่าและมีรายละเอียดน้อยกว่าออกมา และเพิ่มคุณสมบัติในการม้วนตัวเหมือนลูกบอล ที่สามารถโจมตีศัตรูได้

และหลังจากที่ค้นหาและออกแบบมากันมานาน ในที่สุดทางทีมพัฒนาก็เลือกสัตว์สองชนิดมาก็คือตัว Amadillo ที่มีจุดเด่นในเรื่องของเกราะที่อยู่รอบตัวและขดตัวเป็นลูกบอลได้ และ Hedgehog หรือเม่นขนแหลม ซึ่งก็ได้คุณ Naoto Ohshima เป็นผู้ออกแบบ โดยเขาได้เผยว่า ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวละครอย่าง Felix The Cat ตรงส่วนตัว และ Mickey Mouse ตรงส่วนลำตัว ซึ่งเขาก็ได้ร่วมมือกับคุณ Yuji Naka ในการปรับแต่งและไอเดียในการออกแบบร่วมกัน จนได้มาเป็นเจ้าเม่นความเร็วสูง นามว่า Sonic นั่นเอง

ซึ่งในตอนแรกนั้นเจ้าเม่น Sonic ตัวนี้มีสีที่แตกต่างไปจากเวอร์ชั่นในปัจจุบันนี้อยู่เล็กน้อย ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำเงินเพื่อรับกับโลโก้ของค่าย Sega ที่มีสีน้ำเงินเข้ม ส่วนรองเท้านั้นก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรองเท้าของ Michael Jackson จากหน้าปกอัลบั๊ม Bad ของเขา ปิดท้ายด้วยชื่อ Sonic นั้นก็เป็นชื่อที่สื่อถึงความเร็วได้ชัดเจนที่สุดเช่นกัน

ซึ่งเจ้า Sonic นี้ถูกออกแบบมาให้คนที่เห็นนั้นรู้สึกว่าเป็นตัวละครที่เร็วสมกับชื่อของมัน มีอิสระ ไม่ยึดติด และพร้อมที่จะไปผจญภัยในทุก ๆ ที่

และจัวของมันเองยังเป็นตัวเอกที่มีนิสัยเลือดร้อน คล้ายกับเหล่าตัวเอกในการ์ตูนคอมิกส์ของญี่ปุ่น และแน่นอนว่า Sonic นั้นมั่นใจในความเร็วของตัวเองอย่างมากอีกด้วย

หลังจากการออกแบบเป็นไปได้ด้วยดี พวกเขาก็เริ่มในส่วนของการออกแบบเกมกันต่อ โดยคุณ Yuji Naka ที่เป็นโปรดิวเซอร์ในตอนนั้นก็มีผลงานผ่านตามาบ้างแล้ว เช่น Phantasy Star หรือกระทั่งงานพอร์ทเกม Ghoul ‘n Goblin มาลงให้กับเครื่อง Megadrive

Yuji Naka โปรดิวเซอร์ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้าง Sonic The Hedgehog ภาคแรก

ซึ่งที่จริงแล้วเขาก็เป็นแฟนตัวยงของเกม Super Mario Bros. แต่เขาก็อยากได้เกมที่มีความเร็วมากกว่า เล่นจบเร็วกว่า เพราะในตอนที่เขาพอร์ทเกม Ghoul ‘n Goblin นั้น เขารู้สึกว่าตัวเกมมันช้าจนเกินไปจนไม่ทันใจ ทำให้เขาเตรียมหาหนทางที่อยากจะสร้างเกมที่มีความรวดเร็วในการเคลื่อนที่มากกว่านี้

แม้ในช่วงการพัฒนาเกมตอนแรกนั้นจะมีปัญหามากมาย เพราะความเร็วของเกมที่เพิ่มขึ้นทำให้ภาพอนิเมชั่นในเกมเกิดการฉีกขาด ซึ่งคุณ Naka ก็แก้ปัญหาโดยการปรับอัลกอริทึ่มให้ภาพในเกมมีความเหลวมากกว่าปกติ เพื่อที่ผู้จะได้ไม่เห็นรอยแตกต่าง ๆ รวมไปถึงการสร้างภาพ Sprite ที่มีลูกเล่นไม่เหมือนใคร ด้วยการสร้าง Curved ของฉากที่มีการเคลื่อนไหวที่ลื่นมากกว่าเกมอื่น ๆ แบบไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ Sonic เริ่มมีจุดเด่นที่ทำให้แฟนเกมเริ่มให้ความสนใจกันมากขึ้น

Sonic The Hedgehog ภาคแรกวางจำหน่ายในวันที่ 23 มิถุนายนปี 1991 บนเครื่อง Megadrive หรือ Sega Genesis และมันก็เป็นเกมที่ได้รับความสนใจจากแฟนเกมทั่วโลกในทันที ด้วยสีสันอันสดใสของตัวเกมที่รังสรรค์ด้วยระบบ 16-bits ที่ล้ำหน้าของ Megadrive ระบบการเล่นที่เน้นความรวดเร็วแบบที่เกมอื่น ๆ ไม่เคยมีมาก่อน

และตัวละคร Sonic ที่ดูมีเอกลักษณ์เป็นจดจำสมกับที่ทาง Sega ต้องการให้เป็น Mascot ของค่าย ช่วยปลุกกระแสให้ Sega ขึ้นมาต่อกรกับ Nintendo ได้อย่างสูสีมาก ๆ ในยุคนั้น

แน่นอนว่าทาง Sega ไม่ได้หยุดแค่ภาคเดียว พวกเขายังออกเกมภาคต่อของเจ้าเม่นสายฟ้าตัวนี้ออกมาเรื่อย ๆ พร้อมกับพรรคพวกที่เพิ่มขึ้นในทุก ๆ ภาค เช่น Tails จิ้งจอกน้อยหางคู่ผู้บินได้ และอื่น ๆ อีกมากมายต่อยอดมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งนอกจากวิดีโอเกมแล้ว ยังมีสื่อบันเทิงอื่น ๆ อีก เช่นการ์ตูนอนิเมชั่น สินค้าต่าง ๆ เป็นต้น รวมไปถึงยังได้รับการโหวตให้เป็น Mascot ที่ได้รับการจดจำมากที่สุดในยุคนั้นอีกด้วย

ปัจจุบันนี้แม้ Sega จะไม่ได้เป็นผู้พัฒนาเครื่องเล่นเกมคอนโซลแบบในยุคก่อนแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงส่งเจ้าเม่นสายฟ้านี้ออกมาโลดแล่นในวงการเกมอยู่เสมอ

แม้ในหลาย ๆ ครั้งเกม Sonic จะทำผลงานออกมาได้น่าผิดหวังมากก็ตาม แต่การปรากฏตัวร่วมกับตัวละครอดีตคู่ปรับอย่าง Mario ในเกมรวมดาวต่าง ๆ นั้นก็เป็นภาพที่น่าประทับใจอยู่ไม่น้อย และเร็ว ๆ นี้ในช่วงปลายปี เราก็จะมีเวอร์ชั่นภาพยนตร์ให้ดูกันด้วย ซึ่งเชื่อได้เลยว่าเจ้าเม่นสายฟ้าตัวนี้จะอยู่คู่กับวงการเกมไปอีกนานเลยทีเดียวครับ

SHARE

Putinart Wongprajan

เค้ก - Content Writer

Back to top