ย้อนรอย เทรนด์กระแสเกมประเภทต่าง ๆ ในอดีตที่เยอะจนล้น

ไม่มีเกมประเภทไหนสามารถรักษากระแสให้คงอยู่สูงสุดได้ตลอดเวลา

ประเภทของเกมเหมือนกับกระแสสื่อบันเทิงอย่างเพลง แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ ที่มักเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาอยู่เสมอ ซึ่งทีมงานผู้ผลิตเกมเลือกที่จะเกาะกระแสเพื่อทำเกมเอาใจวัยรุ่นอย่างพวกเราให้เล่นกันได้ไม่มีหยุด และผลักดันโฆษณาจนเกมเมอร์บางกลุ่มรู้สึกเอือมกันไปข้างหนึ่ง แต่เทรนด์กระแสซักวันย่อมจะต้องดับไปแล้วทดแทนด้วยสิ่งใหม่มาแทนเสมอ

นี่คือบทความ “การย้อนรอยเทรนด์กระแสเกมประเภทต่าง ๆ ในอดีตที่เยอะจนล้น” เกมบางประเภทยังคงเป็นที่นิยมจนถึงทุกวันนี้ บางอย่างก็โดนกระแสอื่น ๆ กลบเป็นที่เรียบร้อย โดยจะนับเฉพาะแนวเกมประเภทตามกระแสที่ผลิตออกมาเยอะมาก ๆ ในช่วงใดช่วงหนึ่งเท่านั้น ฉะนั้นเกมยอดนิยมตลอดกาลที่มีตั้งแต่ในอดีตจะไม่นับนะครับ

Battle Royale ล้นเมือง (2017)

มาพูดถึงปัจจุบันปี 2017-2018 กันก่อนเลย เกมกระโดดร่ม ปล่อยเกาะฆ่ากันเอง ผู้อยู่รอดเป็นคนสุดท้าย ก็คือผู้ชนะ แม้ว่าคอนเซปท์นี้จะมีมานาน แถมยังสามารถเห็นได้ในวงการสื่อบันเทิงภาพยนตร์ต่าง ๆ  แต่สำหรับวีดีโอเกมแล้ว เป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก ซึ่งเกม Player Unknown’s Battlegrounds ได้สร้างเกม Massive Multiplayer Shooting Survival ขึ้น จนกลายเป็นกระแสวงการเกมในโด่งดังที่สุดในตอนนี้ จนหลายเกม แม้กระทั่งเกมระดับ AAA ได้วางแผนเพิ่มโหมด หรือสร้างเกมใหม่ที่เป็นประเภทเกมดังกล่าวมามากมายจนรู้สึกล้นตลาด

ส่วนสาเหตุที่เกมเมอร์ได้ใช้ชื่อประเภทเกมนี้ เพราะว่าเกมได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง “Battle Royale” ที่มีคอนเซปท์เดียวกัน จนเกมประเภทนี้ได้เรียกกันสั้น ๆ ว่า “Battle Royale” จนถึงทุกวันนี้นี่เอง

เกมประเภท Battle Royale ชื่อดังในตอนนี้ : PUBG, Fortnite, H1Z1 (Battle Royale Mode) และ The Culling

Sandbox ล้นฟ้า (2011)

“เฮ้ ! เพื่อนยากมาเล่น Minecraft กันป่าว?” เกมประเภท Sandbox หรือประเภทเปิดโลกกว้างที่มีเนื้อหาสามารถก่อสร้างหรือประดิษฐ์บางอย่างในเกมได้ โดยจะต้องอาศัยอุปกรณ์และไอเท็มอื่น ๆ มาประกอบ โดยได้มาจากการสำรวจเป็นหลัก เป็นเกมที่ผู้เล่นจะต้องสร้างจุดหมายด้วยตนเอง (หรืออาจจะผสมกับแนวเอาตัวรอด เพื่อให้มีจุดมุ่งหมายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น) มีความอิสระ สามารถสร้างเนื้อหาที่มีความคิดสร้างสรรค์แบบไม่มีขีดจำกัด … แค่ฟังไอเดียก็น่าสนใจแล้ว !

เกมประเภทนี้เริ่มมาบูมมาจากเกม Minecraft ในปี 2011 เพราะเป็นเกมที่มีเนื้อหาที่ทุกคนสามารถเล่นได้ทุกวัย กราฟิกในรูปแบบเป็นบล็อก โหมดความยากที่หลากหลาย รองรับม็อต และที่สำคัญที่สุด มีระบบ Multiplayer ที่สร้างห็องเซิร์ฟเวอร์ไว้อวดบ้านของตัวเอง หรือร่วมมือกันสร้างประดิษฐ์ขึ้นมา

Minecraft เป็นเกมอินดี้ที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นและได้สร้างกระแสเกม Sandbox ให้นิยมขึ้นไปอีก จนก่อให้เกิดกระแสเกมประเภทนี้ขึ้นมามากมายในปี 2011 มันเป็นอะไรที่ Good old Days ในตอนนั้น เพราะเพื่อน ๆ หลายคนได้ชวนเล่นเกมนี้กันแบบไม่หยุด ไม่หลับไม่นอนจนถึงโต้รุ่งกันเลยทีเดียว

เกมประเภท Sandbox ชื่อดัง : Minecraft, Garry’s Mod, Kerbal Space Program และ Don’t Starve

First-Person Survival Horror ล้นตลาด (2010)

Resident Evil เป็นเจ้าพ่อแห่งเกมซอมบี้ Survival Horror อย่างแท้จริง แต่นับตั้งแต่ภาค 5-6 ขึ้นไป เพราะเกมเริ่มเน้นไปทางเกมแอ๊คชั่นมากขึ้น จนเริ่มเสียจุดศูนย์กลางและหลงทาง เกมเมอร์จึงได้หนีหันไปเล่นเกมอื่นบ้าง ซึ่งปรากฏว่ามีเกมสยองขวัญเอาตัวรอดอีกมากหมายที่ยังไม่เคยได้สัมผัส

มีเกม Survival Horror มีให้เล่นมากมายก็จริง แต่จุดเริ่มต้นของความนิยมในสู่คนทั่วไปของเกมประเภทนี้ ก็คือ Amnesia: The Dark Descent กับ Slender Man ซึ่งส่วนหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเหล่าแคสเตอร์ชื่อดังหลายคนได้เล่นเกมนี้ และอัปโหลดผ่าน Youtube เพื่อความบันเทิง จนกลายเป็นไวรัลในไม่ช้า เกมประเภทนี้จึงได้ความนิยมสูงสุดในช่วงปี 2010 และมีเกมมากมายได้ผลิดเกมที่มีเนื้อหา Survival Horrors มุมมองบุคคลที่หนึ่ง ซึ่งมีทั้งดีและห่วยจนนับไม่ไหวเลยทีเดียว

เกมประเภท Survival Horrors ชื่อดัง (ไม่นับ RE)  : Outlast, P.T. (Playable Teaser), Amnesia: The Dark Descent และ Alien Isolation

MOBA ล้นห้อง (2005)

จากม็อด Warcraft 3 ชื่อดังกลายเป็นเกมประเภทใหม่ที่ทุกวันนี้ยังมีให้เล่น และยังเป็นที่นิยมอยู่ทุกวันนี้

เป็นเกมอาศัยความสามัคคีและทีมเวิร์คที่แท้จริง ไม่ว่าจะการเลือกฮีโร่ ออกสกิล ตีป้อมปืน สังหารฮีโร่ที่เป็นอุปสรรค หัวร้อนอิสเรียล เริ่มหรือทำลายมิตรภาพ ต่อยกันในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ทั้งหมดที่กล่าวมาจะประสบพบเจอในการเล่นเกม MOBA กับเพื่อน ๆ ตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นไป และเป็นอีกเกมประเภทหลักที่เป็นตัวการเสนอวัฒนธรรมการเล่นเกมแข่งขันทีม eSPORT ให้เป็นที่นิยมและรู้จักมากขึ้นทั่วโลกอีกด้วย

นอกจากนี้ เกม MOBA เป็นตัวผลักดันวงการเกมในรูปแบบ Multiplayer จนเป็นกระแสทั่วโลก และได้กำเนิดเกม MOBA ในรูปแบบ Free 2 Play มากมาย โดยเฉพาะฝั่ง SEA ที่เติบโตอย่างได้เห็นชัด จากการจัดแข่งขันเกมที่มีมากขึ้น และรัฐบาลเริ่มมีการให้สนับสนุนการแข่งขันเล่นเกม MOBA อย่างจริงจัง

เกมประเภท MOBA ชื่อดัง : DotA2, League of Legends, Hero of the Storm, Hero of Newerth และ RoV (สำหรับบ้านเราประเทศไทยโดยเฉพาะ)

Visual Novel ล้นท่อ (2014)

VALVE เริ่มเปิดกว้างให้อิสระให้กับทีมงานเล็กมากขึ้น เกมใน Steam เริ่มมีความหลากหลายประเภทมากขึ้น และหนึ่งนั้นก็คือเกมประเภทวิชวลโนเวล

เกมเนื้อเรื่องจีบสาวยังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น และทีมงานส่วนใหญ่ยังไม่สนใจที่จะ Localized ให้กับฝั่งตะวันตก เพราะฉะนั้นในเมื่อตะวันออกไม่สนใจ พวกเราทำเองก็ได้ !

ซีรี่ส์ Sakura ได้ก่อกำเนิดในปี 2014 โดยทีมผู้พัฒนาอินดี้ Winged Cloud เป็นเกมวิชวลโนเวลที่ลง Steam แล้วได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ในหมู่คนชื่นชอบไลฟ์สไตล์ หรือคลั้งไคล้ในญี่ปุ่น ด้วยเกมที่มีเนื้อเรียบง่าย สไตล์อนิเมะ มีแฟนเซอร์วิสอยู่บ้าง ไม่ได้เรทแรงขนาดเกมผู้ใหญ่ ราคาก็แสนถูกด้วย ปั๊ม Steam Card ขายได้ราคาดี วอลเปเปอร์ก็งามเหมาะกับการสะสมอีกด้วย

ทีมงานอินดี้เริ่มนิยมสนใจที่จะทำเกมประเภทนี้มากขึ้นจนแทบจะล้นตลาด ไม่ว่าจะเกมสัญชาติ จีน ไต้หวัน สหรัฐ แต่โดยรวมแล้วจะเป็นฝั่งเอเชียบ้านเราที่จะทำขายด้วยกันเอง หรือเปิดขายทั่วโลก ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับทีมงานผู้ผลิต หรือผู้จัดจำหน่ายว่ามีนโยบายขายเกมสู่ต่างประเทศหรือไม่

กาลเวลาผ่านไป ซีรี่ส์ Sakura มีภาคต่อเยอะจนไม่สามารถเล่นหมด เน้นปริมาณเข้าไว้ แต่คุณภาพเท่าเดิม ความนิยม Visual Novel ช่วงหลังจึงได้เริ่มจางหายไปเพราะมันเยอะจนเป็นเกมเมนสตรีม และพฤติกรรมผู้ซื้อก็เริ่มเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่แล้วใน ปี 2015 เกมวิชวลโนเวลญี่ปุ่น ได้เริ่มสนใจลง Steam มากขึ้น โดยมีผู้จัดจำหน่ายโดย Sekai Project นำมา Localized แล้วนำมาขายในราคาที่สมเหตุสมผล (บางเกมมีตัดเนื้อหาฉาก 18+ เพื่อให้สามารถลงหน้าร้านค้าได้) ซึ่งก็ทำให้เกมประเภทนี้ยังคงมีให้เล่น ไม่ได้หายไปไหนแต่อย่างใด

เกมประเภท Visual Novel ชื่อดัง : ซีรี่ส์ Sakura, Nekopara, The Fruit of Grisaia และ CLANNAD

เกมออนไลน์ล้นตลาดไทย (2000)

ย้อนกลับไปช่วงยุค ’00 ที่ Steam ยังไม่โด่งดัง เกมออนไลน์โดยเฉพาะ MMORPG ได้เป็นที่นิยมอย่างมากทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยเช่นกัน ช่วงยุค ’00 คนไทยได้จริงจังเกมมิ่งกันอย่างมาก ยอมรับว่าแทบจะไม่แพ้ผู้เล่นญี่ปุ่น เกาหลีเลย เกมออนไลน์ไม่ว่าจะเกมไหน ประเภทไหน ก็จะมีเว็บบอร์ดการพูดคุยคอมมูนิตี้ที่แข็งแรง ผู้เล่นมีน้ำใจก็มี แต่เกรียนแตกเยอะกว่า และก่อให้เกิดกระแสการต่อต้านวีดีโอเกมสำหรับผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ เพราะทำให้เด็กเล่นแต่เกมจนไม่ทำอย่างอื่น และการเรียนตกต่ำ จนก่อให้เกิด “โรคติดเกม” ขึ้นมามากมาย

แม้ว่าวงการเกมในประเทศไทยจะไม่รุ่งเรือง และโดนมองในแง่ลบ แต่ว่าก็นับว่าเป็นสีสันสังคมเกมมิ่งในตอนนั้น ที่จะใช้บริการอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เกือบทุกวัน ใช้มอนิเตอร์จอหนัก ๆ คอมโครตกระตุก และก่อให้เกมออนไลน์สัญชาติไทย และเกมออนไลน์ต่างประเทศ เริ่มนำเข้ามาบริการที่เยอะขึ้น แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบัน เกมออนไลน์หลายเจ้าเริ่มให้ปิดบริการ เพราะพฤติกรรมการเล่นเกมของคนไทยที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ด้วยอิทธิพลของ Steam จนเหลือไม่กี่เกมเท่านั้นที่ยังเปิดให้เล่นอยู่

เกมออนไลน์ยอดนิยมของไทย : Ragnarok Online, Yulgang, MapleStory, Pangya และอื่น ๆ อีกมากมายที่ผมไม่สามารถระบุได้

ไม่มีเกมประเภทไหนสามารถรักษากระแสให้คงอยู่สูงสุดอยู่ได้ตลอดเวลาหรอกครับ อย่างล่าสุดกระแสไฮป์ของเกม God of War 2018 ก็เบาบางลงไปเยอะ เพราะแทนที่ของเกมเนื้อเรื่องตัวใหม่อย่าง Detroit Become Human และอนาคตข้างหน้าก็อาจจะเกมอื่นมาแทนที่ต่ออีกที ซึ่งตัวร้ายฆ่ากระแสก็คือ กาลเวลา และรสนิยมของสังคม ที่ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งมันได้

แต่ผมเชื่อว่า ถ้าไม่มีกระแสเกมประเภทใดประเภทหนึ่ง วงการเกมคงจะจืดชืดขาดสีสันน่าดูเลย ฉะนั้นกระแสเกมมีไว้เถอะครับ เกมจะได้มีการวิ่งตามทันโลก คอยปรับปรุงพัฒนาเทคโนโลยี รวมไปถึงได้กำเนิดเกมเมอร์หน้าใหม่หลากหลายประเภทอยู่ตลอด แล้ววงการเกมจะอยู่ไปอีกนานอย่างแน่นอนครับ