อย่างที่ทราบกันดีว่าในช่วงที่ผ่านมา ทาง Ubisoft ได้ดำเนินการไล่พนักงานและผู้บริหารระดับสูงหลายคนที่มีประวัติล่วงละเมิดทางเพศพนักงานและผู้ร่วมงานอื่น ๆ ไปหลายราย เพื่อเป็นการยืนยันว่าพวกเขาไม่นิ่งเฉยกับเรื่องเหล่านี้ แต่แม้จะมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาดเช่นไร ก็ยังมีบางส่วนที่หลงเหลืออยู่จากกระบวนการนี้ และพนักงานอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องพบเห็นสิ่งเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา
Yves Guillemot CEP ของ Ubisoft ได้เผยแถลงการณ์เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความ Toxic หรือสภาวะเป็นพิษในที่ทำงานกับทาง GameSpot ซึ่งเขาได้เผยว่าได้มีการทำผลสำรวจกับพนักงานบริษัทจำนวนกว่า 14,000 คน ในกลุ่มสัมภาษณ์อีกหลายกลุ่ม ซึ่งพบว่าพนักงานจำนวนมากกว่า 25% ต้องพบเห็นและเป็นพยานเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศและความ Toxic ในสถานที่ทำงานมาตลอดสองปี และมีพนักงานหญิงอีก 30% ที่ต้องเจอปัญหาเช่นนี้มากกว่าผู้ชาย และยิ่งมากขึ้นไปอีกสำหรับพนักงานที่เป็นเพศทางเลือก และมีพนักงานจำนวนแค่ 66% ที่มีหัวหน้าคอยช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าวนี้
ซึ่งผลจากการสำรวจนี้ ทำให้ทาง Ubisoft ต้องออกมาตรการในการจัดการเรื่องดังกล่าวดังต่อไปนี้
- ต้องสามารถการันตีได้ว่าสภาพแวดล้อมในการทำงานต้องปลอดภัยและผ่อนคลายสำหรับทุกคน
- เพิ่มความหลากหลายและความร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวในการทำทุกอย่าง
- ปรับจุดประสงค์และเพิ่มจุดแข็งของฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ใหม่ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
- ส่งเสริมให้ผู้จัดการของกลุ่มอยู่ในสถานะที่ไว้ใจได้
ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะรวมไปถึงการสืบสวนและการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพิ่มช่องทางในการร้องเรียนปัญหากับผู้รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งคุณ Guillemot กล่าวว่าได้มีการพบปะกับผู้มีส่วนรับผิดชอบในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงาน รวมไปถึงว่าจ้าง Vice President และหัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลคนใหม่เพื่อการว่าจ้างงานที่มีประสิทธิภาพกว่าเดิม ซึ่งทีมงานใหม่ทั้งหมดนี้ได้เริ่มดำเนินการในหน้าที่ของตนเองแล้วในวันนี้
คุณ Guillemot ยังกล่าวอีกว่า เขาพยายามที่จะให้สถานที่ทำงานในอนาคตเปิดกว้างและให้ทุกคนได้สามารถพูดถึงปัญหาที่ตนเองเผชิญได้ง่ายขึ้น พร้อมกับขอโทษต่อสาธารณชนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย
ก็ต้องมาดูกันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้สภาพแวดล้อมในการทำงานนั้นดีขึ้นหรือไม่ เพราะจากช่วงที่ผ่านมานั้นปัญหาในเรื่องของการล่วงละเมิดและความ Toxic ในสถานที่ทำงานของพวกเขานั้นค่อนข้างหนักมาก แต่ถ้าหากพวกเขาทำได้ ก็เชื่อว่ามันจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับการจัดการสภาวะที่ไม่เป็นมิตรในที่ทำงานก็เป็นได้
