ตามปกติเวลา เกมเกมหนึ่งนั้น มักจะพาผู้เล่นออกผจญภัยไปยังสถานที่ที่หลากหลาย เพื่อสร้างอารมณ์ บรรยากาศ เกมเพลย์หลายรูปแบบ แต่ก็มีเกมจำนวนไม่น้อย ที่อาศัยการเล่าเรื่องและนำเสนอเกมเพลย์ผ่านการเล่นภายในอาคารหลังเดียวเท่านั้น ตลอดทั้งเกมเราจะอยู่แค่ในอาคารนี้ หรือตึกนี้ แต่มันกลับทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างน่าเหลือเชื่อ วันนี้เราจะพามาดูเกมที่เดินเรื่องอยู่ในสถานที่เดียวแต่ก็หวาดเสียวได้ตลอดทั้งเกม
1. What Remains Of Edith Finch
เกมนี้คนที่สมัครบัญชี Epic Games Store ไว้ น่าจะเคยได้รับจากการแจกฟรีมาบ้างแล้ว เพราะมันเคยแจกฟรีไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง ในเกมนี้ ตลอดทั้งเกมเราจะดำเนินเรื่องราวในบ้าน The Finch House โดยมีการออกแบบภายในที่ประณีตและมีรายละเอียดมากเป็นอันดับต้น ๆ ในวงการเกมเลยก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นห้องหับต่าง ๆ ที่ถูกออกแบบมาอย่างสมจริง รายละเอียดเล็กน้อยต่าง ๆ ถ้าหากจะสำรวจทุกซอกทุกมมก็ต้องใช้เวลากันหลายชั่วโมงมาก ๆ เพื่อตามหาเบาะแสและความจริงของครอบครัว Finch เกมนี้ว่าด้วยเรื่องราวของการตายของครอบครัวหนึ่ง เป็นเกมที่เล่าเรื่องอยู่ในบ้านหลังเดียวได้อย่างทรงพลังและน่าติดตาม
2. Resident Evil
ไม่มีชื่อนี้คงไม่ได้ เป็นอีกเกมที่ดำเนินเรื่องราวผ่านอาคารหลังเดียวเกือบจะตลอดทั้งเกมนั่นคือคฤหาสน์ Spencer นั่นเอง แม้ว่าบางส่วนของเกมเราอาจจะได้ออกไปข้างนอกได้บ้าง แต่มันก็ยังเป็นพื้นที่เดียวกันกับตัวคฤหาสน์ และเกมเพลย์บางส่วนก็พาเราวนกลับมาที่คฤหาสน์อยู่ดีด้วย ผู้เล่นจะได้ใช้เวลามากมายไปกับการต่อสู้เอาชีวิตรอดจากซอมบี้ การไขปริศนา กลไกต่าง ๆ ภายในคฤหาสน์ที่ท้าทายใช้ได้ (ในยุคนั้น) สำหรับแฟนเกม Resident Evil แล้ว ภาคแรกคือภาคคลาสสิคตลอดกาล เพราะหากไม่มีภาคนี้เป็นจุดเริ่มต้น แฟรนไชส์เกมคงไม่ได้เดินทางมาไกลจนถึงทุกวันนี้
3. Castlevania: Symphony of the Night
https://youtu.be/wDE34DggEw4
อีกตำนานเกมอันลือลั่นสำหรับ Castlevania ที่ส่วนใหญ่แล้วเนื้อหาก็จะเกิดขึ้นภายในอาคารเดียวกันซะทุกภาค นั่นคือปราสาท Dracula แต่สำหรับภาค Symphony of the Night นั้น เป็นภาคที่ออกแบบโครงสร้างภายในเกมมาได้สมบูรณ์ที่สุด และมันยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่แฟน ๆ ลงความเห็นว่าโดดเด่นที่สุด แม้จะมีหลายอย่างที่ดูเหมือนซ้ำกัน แต่หากสังเกตจริง ๆ จะพบว่ามันมีความแตกต่างกัน ปราสาท Dracula ที่มีทั้งห้องสมุด แกลเลอรี่พื้นหินอ่อน โคลอสเซียมลานประลอง และอีกมากมาย ทำให้การออกสำรวจปราสาทในเกมนี้ เป็นเรื่องที่ชวนให้ตื่นเต้นและท้าทายมาก แถมยังมีรูปแบบ Upside Down ที่ทำให้การสำรวจแปลกไปจากเดิมด้วยการสลับด้านกันด้วย
4. Control
ผลงานระดับเทพจากทาง Remedy Entertainment และเป็นหนึ่งในเกมที่สร้างสรรค์อย่างมาก เหตุการณ์ทั้งหมดภายในเกมนี้เกิดขึ้นภายในอาคารสำนักงาน SCP Foundation แลละตึกหลังนี้มันดันมีความคิดเป็นของตัวเอง ทำให้ตลอดการผจญภัยในเกมนี้ คุณจะไม่รู้สึกว่ามันปลอดภัยเลย เอกสารและข้อมูลต่าง ๆ กระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกหนแห่งภายในตึกนี้ แถมรูปแบบอาคารยังเปลี่ยนแปลงไปมาแบบสุ่ม ทั้งความใหญ่ ความอลังการ ความกดดันระหว่างเล่น แต่การออกแบบภายในอาคารของ Control ทำให้เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า งาน Presentation ของเกมนี้มันสุดยอดขนาดไหน Control เป็นตัวอย่างที่ดีของการดำเนินเรื่องทั้งเกมอยู่ในตึกหลังเดียว แต่หวาดเสียวได้ตลอดทั้งเกมจริง ๆ
5. Portal 2
ฉากหลังของ Portal 2 เกมระดับตำนานของ Valve คือ Aperture Science Enrichment Center มันมีขนาดใหญ่มาก มีห้องหลากหลายห้องให้เราได้เล่น และเมื่อคุณได้มาเล่นภาค 2 คุณจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วสำนักงานแห่งนี้มันใหญ่ขนาดไหน ห้องทดสอบที่ผ่านมาในภาคแรก เป็นเพียงห้องหลักสูตรทดสอบเดียว และเมื่อเข้าไปในอาคารลึก ๆ แถมยังยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อ GLaDOS และ Wheatley สร้างการทดสอบเพิ่มเติมขึ้นอีก มันเลยทำให้คุณรู้สึกว่าอาคารมันไม่มีที่สิ้นสุด และพร้อมที่จะหลงทางตลอดเวลา ไม่ต้อบสืบเลยว่าหากเกมนี้ถูกนับ 3 อีกครั้ง มันจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน และเกมนี้ได้ดาราชื่อดัง J.K. Simmons มาร่วมบรรยายด้วย
6. Luigi’s Mansion 3
เกมสปินออฟของคู่หูมาริโอ้อย่าง Luigi ที่คราวนี้มาพร้อมขนาดของแมนชั่นที่ใหญ่มากขึ้นกว่าภาคไหน ๆ Luigi’s Mansion คือเกมที่ทำให้เราแทบไม่เชื่อสายตาว่านี่คือเกมที่มีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นภายในอาคารหลังเดียว เพราะเราจะเจอทั้ง Shopping Mall, ชั้นใต้ดิน ชั้นอียิปต์โบราณ ฉากภาพยนตร์ เรือโจรสลัด และมากมายก่ายกองเต็มไปหมด Luigi’s Mansion นั้น ได้รับคำชมมาทุกภาค ว่าการออกแบบสถานที่ภายในอาคารปิดแทนที่จะเป็นพื้นที่เปิดกว้างนั้น ทำได้ดีมาก เราจะได้ผจญภัยไปในทุกห้อง หาของ หาขุมทรัพย์ หาความลับ และเจอผีออกมาหลอกหลอนอีกด้วย
7. The Stanley Parable
เป็นเกมที่ครบเครื่องทั้งการล้อเลียน จิกกัด เสียดสีอาชีพยอดนิยมของโลก อย่างพนักงานกินเงินเดือนทั่วไปอย่างมาก ตลอดทั้งเกม และมันยังเป็นเกมที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างเราและเกมด้วย เกมนี้มีกิจกรรมและฉากจบมากมายหลายแบบ ขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่นเลือกทำอะไรในเกม ทุกอย่างในเกมจะเกิดขึ้นในสำนักงานแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเหมือนคอกเล็ก ๆ ที่กักขังเราไว้จากสิ่งต่าง ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำภายในเกม จะส่งผลกระทยต่อเนื้อเรื่องและฉากจบด้วย ซึ่งไม่มีถูกผิด ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เล่นนั่นเอง แต่เพียงอาคารหลังเดียว ห้องเล็ก ๆ ภายใน ทำให้เกมนี้กลายเป็นที่จดจำอย่างมาก ในด้านการเล่าเรื่องและหลากหลายความเป็นไปได้ที่ตัวเกมนำเสนอมา
