BY StolenHeart
2 Mar 19 2:55 pm

พนักงานบริษัท Nintendo ของญี่ปุ่น รับเงินเดือนสูงแม้มีชั่วโมงทำงานน้อยกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน

19 Views

สิ่งหนึ่งที่เหล่าเกมเมอร์หลายคนสงสัยเกี่ยวกับวงการเกมมาโดยตลอด ก็คือเรื่องของรายรับที่เหล่าผู้พัฒนาเกมต่าง ๆ สามารถทำได้ต่อปี โดยเฉพาะในบริษัทใหญ่ ๆ ที่เข้าไปแล้วจะได้รับเงินเดือนสมกับความสามารถหรือไม่ ซึ่งในตอนนี้ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเงินเดือนของนักพัฒนาเกมในบริษัท Nintendo ออกมาแล้ว

เว็บไซด์ gamesindustry.biz ได้เผยข้อมูลที่น่าสนใจจากหน้ารับสมัครงานของทาง Nintendo ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเปิดรับพนักงานในตำแหน่งต่าง ๆ เช่นนักพัฒนาระบบเกม, นักออกแบบเสียง, Level Disigner และอื่น ๆ ซึ่งตำแหน่งเหล่านี้ได้มีการระบุถึงเงินเดือนที่จะได้รับ โดยอ้างอิงจากฐานเงินเดือนที่ถูกปรับขึ้นในปี 2018 ที่ผ่านมาจากระดับการศึกษา โดยระดับปริญญาเอกสูงสุดจะอยู่ที่ 258,000 เยนหรือประมาณ 78,000 บาทไทย ลดหลั่นลงมาจนถึงระดับจบจากวิทยาลัยทางด้านเทคโนโลยี โดยอยู่ที่ 211,500 เยนหรือประมาณ 63,500 บาทไทย โดยมีแผนจะจ้างพนักงานใหม่เพิ่ม 81 คนในปีนี้

ซึ่งจัดเป็นเงินเดือนระดับสูงตามวุฒิการศึกษานั้น ๆ ในประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงมีเงินโบนัสให้ในเดือนมิถุนายนและธันวาคม และปรับฐานเงินเดือนขึ้นตามผลงานในเดือนธันวาคม เป็นไปตามค่ามาตรฐานของเงินเดือนของเด็กจบใหม่ทั่วไปในวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีจะอยู่ที่ 210,000 เยนโดยประมาณ

และที่น่าสนใจคือเรื่องของเวลาในการทำงาน เพราะมีระบุถึงวันเวลาในการทำงานที่ชัดเจน ในสำนักงานใหญ่จะทำงานตั้งแต่ 8.45 จนถึง 17.30 และมีเวลาพักให้อีกหนึ่งชั่วโมง ตกแล้วเวลาทำงานทั้งหมดจะอยู่ที่วันละเพียง 7 ชั่วโมง 45 นาทีเท่านั้น ส่วนของเหล่าทีมพัฒนาจะทำงานตั้งแต่ 9.30 จนถึง 16.30 พักหนึ่งชั่วโมงเช่นกัน แต่ก็มีการระบุชัดเจนว่าวันเวลาในการทำงานอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามงานที่มีเข้ามาในช่วงนั้นด้วย

จากสถิติตรงนี้ถือเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ เพราะในขณะที่ค่ายเกมทางฝั่งตะวันตกหลายค่ายต่างประสบปัญหาในเรื่องของการทำงานล่วงเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเคสของค่าย Rockstar Games ที่พนักงานหลายคนออกมาแฉถึงสภาพในการทำงานที่โหดร้ายถึงสัปดาห์ละ 100 ชั่วโมง เพื่อให้เกม Red Dead Redemption 2 ออกวางจำหน่ายได้ทันตามกำหนดการณ์ จนกลายเป็นดราม่าจานใหญ่ในวงการเกมที่ทุกคนทราบกันดี

SHARE

Putinart Wongprajan

เค้ก - Content Writer

Related posts

Read More
Back to top