เกมเมอร์หลายคนทราบดีว่าการทำเกมต้องพึงพาอาศัยแบ่งปันหน้าที่ซึ่งกันและกัน เพื่อให้เกมออกมามีคุณภาพให้ได้มากที่สุด นั้นก็คือเหตุผลว่าทำไมถึงมีชื่อสตูดิโอเกมประกอบในเครดิต แต่ก็มีส่วนน้อยเป็นเศษหนึ่งส่วนล้านที่ยังคงพัฒนาเกมด้วยตัวคนเดียวเป็น One Man Programing ที่ต้องการผลิตเกมโดยวิธีการของตนเองโดยไม่มีเบื้องบนเข้ามาแทรกแทรงไอเดียจนสูญเสียเอกลักษณ์ของตัวเกม

นี่คือ “5 เกมที่พัฒนาโดยสุดยอดผู้สร้างเพียงคนเดียว” ที่จะรวมเกมดังระดับโลกที่ผลิตโดยผู้พัฒนาเขียนโปรแกรมเพียงคนเดียว ซึ่งเป็น One Man Army แห่งวงการเกมที่เกมเมอร์หลายคนจะต้องนับถือในความกล้าเสี่ยง กล้าทำ และทำด้วยใจรัก

Braid

ถ้าใจอยากจะทำ อุปสรรคทั้งหลายมันคือจิ๊บ ๆ เพราะไม่คิดถึงมัน

Braid เป็นเกมอินดี้ที่สร้างแรงกระแทกให้กับวงการเกมอย่างกว้างขว้างที่ผู้พัฒนาหลายคนควรเอาเป็นตัวอย่าง โดยเกมนี้ได้ผลิตโดยผู้พัฒนาเกม Jonathan Blow ตั้งแต่ปี 2005 แล้วได้จัดจำหน่ายในปี 2008

ถึงแม้ว่าเกมจะมีไฟล์ขนาดเล็ก และดูเป็นเกมอินดี้ทุนต่ำในสายตาการมองครั้งแรก แต่สิ่งที่เกมนี้ได้เปล่งประกายขึ้นมาเพราะระบบเกมเพลย์ที่มีเอกลักษณ์และความท้าทายที่ไม่น่าให้อภัยแต่สร้างสรรค์

เป็นเกมที่พิสูจน์ว่าแม้เกมนี้จะมีทุนต่ำ เนื้อหาไม่เยอะมากนัก แต่คุณ Jonathan Blow คิดถึงอยู่เสมอว่าการทำเกมด้วยใจสำคัญยิ่งกว่าเงินทอง จึงทำให้เกมนี้แม้ว่าจะไม่ได้รับรางวัลพิเศษแต่ก็ได้รับกระแสวิจารณ์ในแง่บวกเป็นอย่างมากโดย Metacritic ให้คะแนนสูงถึง 90/100 เลยทีเดียว

RollerCoaster Tycoon

ไม่น่าเชื่อว่าเกมจัดการสวนสนุกที่สามารถสร้างรถไฟเหาะได้ตามใจฉัน โดยโปรแกรมเมอร์ผู้เกลียดรถไฟเหาะ

RollerCoaster Tycoon 1999 พัฒนาโดย Chris Sawyer โปรแกรมเมอร์ชาวสก็อตแลนด์ โดยมีแรงบันดาลสร้างเกมนี้จากที่สิ่งที่เขาเกลียดนั้นคือรถไฟเหาะนั้นเอง ซึ่งในตอนแรกเขาอยากจะสร้างเกมภาคต่ออย่าง Transport Tycoon ที่เคยประสบความสำเร็จ แต่อย่างไรก็ตาม เขาตัดสินใจหันมาทำเกม RollerCoaster Tycoon เพื่อจะเอาชนะใจตนเองด้วยการนั่งรถไฟเหาะแล้วทำการค้นคว้าข้อมูล จนทำให้เขารู้สึกหลงใหลและชอบหมกมุ่นกับสวนสนุก

มากกว่า 99% ที่ Chris Sawyer เขียนโปรแกรมขึ้นมาเพื่อเกม RollerCoaster Tycoon ด้วยภาษา x86 (อีก 1% ใช้ภาษา C) ส่วนภาพกราฟิกออกแบบโดย Simon Foster มีหน้าทั้งสร้างโมเดล เรนเดอร์ และลงสี

และผลลัพธ์ออกมาดีงาม เกม RollerCoaster Tycoon ได้รับวิจารณ์ในกระแสบวกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเนื้อหาการจัดการในธีมสวนสนุกที่แปลกใหม่กับระบบเกมเพลย์ชวนเสพติด ซึ่งด้วยรวมแล้วเกมนี้สามารถทำรายได้มากถึง 30 ล้านเหรียญฯสหรัฐ

Touhou Project

Touhou Project สร้างนิยามเกมประเภท Bullet Hell ที่ทำให้เกมเมอร์หัวร้อนกับระดับความยาก Easy Mode

โดยคนร้ายทั้งหมดมีเพียงผู้เดียวคือ ทีม Team Shanghai Alice (ชื่อทีมเก่าคือ ZUN Soft) โดยมีผู้พัฒนาเกมอิสระเพียงคนเดียวในทีมคุณ Junya Ota หรือทุกคนรู้จักในนามปากกาว่า ZUN ผู้ที่รับผิดชอบสร้างเกมในทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตัวละคร การเขียนบท เพลงประกอบ คิดค้นระบบการเล่นและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเกมทั้งหมด

Touhou Project เป็นเกมซีรี่ส์หนึ่งที่มีเนื้อเรื่องยาวนานมาก นับตั้งแต่ปี 1996 โดยภาคแรกทำเกมลงสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ NEC PC-9801 แล้วดำเนินเนื้อเรื่องมาจนถึงปี 2018 โดยมีทั้งหมด 27 ภาค นอกจากนี้ เกมนี้ได้รับบันทึกสถิติจาก Guinness World Records จากปี 2010 ในตำแหน่ง “เกมชู้ตติ้งที่มีการทำแฟนเมทมากที่สุด” โดยทุกอีเว้นท์ Comiket งานโดจินชิที่ใหญ่ที่สุด จะมีหนังสือมังงะ เพลงรีมิกซ์ หรือแม้กระทั่งงานแอนิเมชั่นแบบแฟนเมทที่อ้างอิงจากเกม Touhou โดยกวาดพื้นที่ไปกว่า 50% ของบูธงานทั้งหมด

ทำให้ Touhou Project นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์เกมอินดี้สัญชาติญี่ปุ่นแล้ว ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของงาน Comiket ที่จัดขึ้นทุก 2 ครั้งต่อปีในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

Minecraft

สุดยอดเกม Sandbox เอาตัวรอดตลอดกาล

ถึงแม้ว่าเกมที่พัฒนาโดยชื่อบริษัท Mojang แต่เบื้องหลังความจริงแล้ว เกมนี้พัฒนาโดยคนเพียงคนเดียว คือคุณ Markus “Notch” Persson โดยเกม Minecraft ได้รับแรงบันดาลใจจากเกม Dwaft Fortress, Dungeon Keeper และ Infiniminer ซึ่งในตอนนั้นตอนนั้นเอง คุณ Notch รู้สึกอยากจะสร้างเกมสร้างอาคารในรูปแบบ 3D ในระหว่างที่เขากำลังคิดอยู่ในขั้นตอนวาดต้นแบบพอดี โดยเขาได้ยืมระบบการเล่นจากเกม Infiniminer ที่จะประกอบด้วยมุมกล้องแบบ First-Person พร้อมกับกราฟิกในสไตล์แบบกล่องสี่เหลี่ยม มีระบบการสร้างตึกราวบ้านช่องโดยการวางบล็อก และมีระบบ RPG เข้ามาด้วย

Minecraft ได้ปล่อยเกมครั้งแรกในปี 2011 ได้สร้างความฮือฮาทั่วโลกในเรื่องอิสระภาพในการสร้างสรรค์เนื้อหาต่าง ๆ ให้โลกได้ประจักษ์ จนถึงขั้นที่เขาต้องออกจากงานเก่าเพื่ออุทิศตนให้เกมการพัฒนา Minecraft แบบเต็มกำลัง แล้วเริ่มขยายบริษัท Mojang ด้วยการรับสมัครทีมงานเพื่อเข้าสังกัด Minecraft Team

โดยเกม Minecraft ในปัจจุบันสามารถยอดกำไรได้มากถึง 1,500 ล้านเหรียญฯสหรัฐ แต่อย่างไรก็ตาม คุณ Notch ได้เลิกพัฒนาเกม Minecraft โดยขายบริษัท Mojang ให้กับทีมงาน Microsoft เพื่อให้ผู้ซื้อได้สานพัฒนาเกม Minecraft ต่อไป

Stardew Valley

หนึ่งในเกมอินดี้ที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งยุค โดยชารไร่ One Man Army ที่แท้ทรู

เกมนี้พัฒนาโดยคุณ Eric Barone หรือเรียกกันในนามว่า Concerned Ape เขาได้เวลาพัฒนาเกมนี้มาทั้งหมด 5 ปี เพื่อสร้างเกมในทิศทางของเขาต้องการ ไม่ว่าจะเป็นออกแบบกราฟิกด้วยพิกเซลอาร์ท แต่งเพลง รวมถึงเนื้อหาอื่น ๆ ซึ่งในระหว่างการพัฒนาได้พบกับอุปสรรคมากมายไม่ว่าจะเป็นการอดหลับอดนอนและประสบปัญหางบที่มีจำกัด

แต่สุดท้ายงานหนักที่เขาทำมาทั้งหมดได้กำไรคืนอย่างสาสม Stardew Valley ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทั้งยอดขายและผู้วิจารณ์เกม จนได้รับตำแหน่งเป็นเกมอินดี้ที่ดีที่สุดแห่งยุคทรศวรรษนี้ ซึ่งทำให้คุณ Barone รู้สึกปลาบปลื้มกับผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นอย่างมาก พร้อมกับวางแผนพัฒนาเกมด้วยการโซโล่เดี่ยวต่อไปในอนาคต